คุณเอาแต่ใจแบบนี้ตลอดเหรอ

1247 คำ
ยี่หวาเก็บของต่อเงียบๆ โชคดีที่ในห้องแต่งตัวไร้เงาผู้คน เธอจึงไม่ต้องกลัวใครมาเห็นว่าทำอะไรกับคุณคิมบ้าง เธอยังไม่อยากเป็นข่าวกับเขาตอนนี้ เพราะต้องการเคลียร์ตัวเองเรื่องฉัตรชัยให้ได้ซะก่อน ยี่หวามองหารถบีเอ็มในลานจอดรถ โชคดีที่ลานจอดรถอยู่หลังสตูดิโอ เธอจึงไม่ต้องระแวดระวังพวกนักข่าว คนอื่นๆก็อยู่ด้านในกันหมด เธอจึงสามารถขึ้นรถบีเอ็มที่ตบไฟหน้าใส่เธอได้ อย่างไม่ต้องกังวล “ใจง่ายเหมือนกันนะ” คิมหันต์แซวด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ปากขยับขึ้นนิดๆ เพราะเก็บซ่อนความดีใจไว้ไม่ได้ ขับรถออกไปช้าๆ เพราะยังไม่รู้ว่าต้องมุ่งหน้าไปทิศทางไหน “แค่ไม่มีทางเลือกค่ะ ที่นี่หารถยาก ช่วยไปที่เซ็นทรัลxxด้วยค่ะ” ยี่หวาเปิดกระเป๋าที่บรรจุเครื่องสำอางออกมาเติมหน้าไปด้วย เลือกเมินคนข้างๆที่พูดจาเหน็บแนม โดยการหยิบนั่นหยิบนี่มาเติมสีสันให้หน้าตัวเอง “รถไปไหน” “เข้าศูนย์ค่ะ เหมือนจะพัง” “แล้วผู้จัดการ?” “ไม่มีค่ะ รับงานเอง” ยี่หวาหยุดมือเพราะต้องตอบคำถามคนขี้สงสัย กำลังจะจรดแท่งลิปสติกลงไปที่ปาก ก็ถูกถามขึ้นมาอีก ผลคือลิปสติกเลอะตามขอบปาก ตอนนี้เธอไม่มีทิชชูเหลือซะด้วย “แย่เลย ไปไหนมาไหนเองแบบนี้” “คุณคิมช่วยหยุดพูดก่อนได้ไหมคะ” ยี่หวาหันไปขอร้อง ทั้งๆที่ลิปสติกยังเลอะอยู่เหมือนเดิม ก้มลงค้นหาอะไรสักอย่างที่พอจะเช็ดมันออกได้ ก็ถูกคว้าใบหน้าไปจับไว้แน่น มือหนาเอื้อมมาเช็ดให้อย่างเบามือ ก่อนจะขับรถต่อ เมื่อสัญญาณไฟที่ทำให้รถหยุดเมื่อครู่หมดลง คิมหันต์ลอบสังเกตคนที่เงียบสนิทอยู่ตลอด เธอดูจะหวั่นไหวกับเขานะ แต่ทำไมถึงไม่ยอมคบกันก็ไม่รู้ ถ้าเหตุผลเพราะไอ้นั่นเป็นประธานคนใหม่ของบริษัทต้นสังกัด เขาว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ง่ายนี่นา ยกเลิกสัญญากับบริษัทนั่นซะ แล้วมารับงานอิสระก็ได้ หรือไม่ก็อยู่เฉยๆให้เขาเลี้ยงก็ได้ สบายกว่าด้วย บีเอ็มคันหรูวิ่งเข้ามาจอดในห้างที่ยี่หวาบอกไปก่อนหน้า คิมหันต์ขับไปจอดในที่จอดรถชั้นแรก เพราะเธอมีงานอยู่ชั้นนี้ โชคดีที่เขามีบัตรวีไอพี จึงได้ที่จอดรถทันทีที่ขับเข้าไป “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” ยี่หวายกมือขึ้นพนม กล่าวขอบคุณคนข้างๆที่นั่งเงียบ ตั้งแต่เช็ดลิปสติกออกจากปากให้เธอ เอ๊ะ! เพราะเธอใช้เสียงดุเขามากไปหรือ? เขาถึงได้เงียบไปเลยแบบนี้ “เอ่อ! ถ้าหวาพูดอะไรให้โกรธก็ขอโทษค่ะ ขับรถดีๆนะคะ” ยี่หวาเอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกผิด เธอมักพูดจาแบบนี้บ่อยๆ จนบางครั้งก็เผลอทำร้ายคนฟังโดยไม่รู้ตัว เมื่อขอโทษแล้วก็ขยับตัวลงจากรถ แต่ยังไม่ได้เปิดประตูด้วยซ้ำ ข้อมือก็ถูกดึงไว้แน่น “เสร็จงานกี่โมง” “คะ? ก็ราวๆสองทุ่มค่ะ” “จะรออยู่ที่นี่” “คะ? ไม่เป็นไรค่ะ คุณไม่ใช่คนขับรถของหวา อีกอย่างมันก็ตั้งหลายชั่วโมง หวาเกรงใจค่ะ” “เดี๋ยวเดินไปดูตอนอยู่ในงานด้วย แต่ตอนใกล้จะกลับ ฉันจะออกมารอที่นี่ก่อน เข้าใจที่พูดใช่ไหมยี่หวา” คิมหันต์พูดเสียงเย็น เพื่อให้เธอรู้สึกกลัวและเชื่อฟัง เขากับเธอตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรกันก็จริง แต่อีกไม่นานต้องได้เป็นแน่ “คุณเอาแต่ใจแบบนี้ตลอดเหรอคะ ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวหวาเข้างานสาย หวายังไม่อยากโดนตำหนิ” ยี่หวารีบลงจากรถทันทีที่เป็นอิสระ ก้าวเท้าเร็วๆจนแทบจะออกวิ่งเข้าไปในห้าง มองหาจุดที่จัดงานอีเว้นท์ เมื่อเจอก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว “ทันเวลาใช่ไหมคะ” “ทันแบบพอดีเป๊ะเลยค่ะสาว” ผู้จัดงานที่เป็นสาวแปลงเพศแล้ว พูดพลางเบะปากใส่ ยี่หวาจึงยิ้มกว้างส่งให้ เพราะรู้นิสัยพี่คนนี้ดี พี่เขาแสดงออกแบบนี้ แต่มักจะใจดีกับเธอเสมอ ต่างจากบางคนที่ยิ้มให้ แต่ร้ายกับเธอไม่เบา “หวาแต่งหน้ามาแล้วค่ะ” “แต่ผมไม่ผ่านค่ะ มานั่งเร็ว พี่จะจัดให้สวยเช้งเลย” มือเล็กถูกคว้าไปจับด้วยความอ่อนโยน ทั้งๆที่พี่แกมีเรียวแรงมหาศาล ใบหน้าหวานระบายยิ้ม พี่เพชรดุนะ แต่ใจดีมาก “นี่สาว โดนเอาไปแล้วเหรอคะ” น้ำเพชรหรือเพชรรัตน์ กระซิบถามเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน รอยกัดบนหลังคอจางแล้ว แต่ก็ยังเห็นชัด ยัยหวานี่ก็ไม่คิดจะปิดมันเลยรึไงนะ “พี่เพชรอะ คือ ช่วยปิดให้หน่อยสิคะ หวามองไม่เห็น” “ไม่มีผู้จัดการส่วนตัวก็ลำบากงี้แหละ” “แล้วใครละคะ ที่ทิ้งหวามาทำงานตัวเอง” ยี่หวาซบหน้าเข้ากับแขนของพี่เพชรที่เธอดึงมาอ้อน พี่เพชรเคยเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอเกือบปีช่วงที่เธอเข้าวงการ ก่อนพี่เขาจะขอออกมาทำงานรับจัดอีเว้นท์ที่อย่างตัวเองฝันไว้อย่างในตอนนี้ “พี่ก็อยากก้าวหน้าไหมคะ ก็ตอนนั้นสาวบอกจะทำต่ออีกไม่ถึงสองปี” น้ำเพชรเสียดายอยู่นะ อยู่กับยี่หวาเธอได้รับมากกว่าที่ควรได้ แต่เพราะตอนนั้นยี่หวาบอกว่าจะเลิกทำงานในวงการ เลยตัดสินใจลาออกมาทำงานที่ตัวเองรักแทน “แต่ตอนนี้หวายังไม่มีกำหนดจะเลิกทำเลยค่ะ” ยี่หวาเคยคิดแบบนั้น เธอไม่ชอบงานที่ต้องปั้นหน้าเล่นเป็นคนอื่น เคยคิดว่าจะเลิกไปแล้วหลายที แต่สุดท้ายก็ยังเลิกไม่ได้สักที ตอนนี้ก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีงานอื่นให้ทำ “พี่ว่าหนูเหมาะกับงานนี้นะ” “ไม่เลยค่ะ หวาไม่เหมาะเลยสักนิด พี่ไม่เห็นเหรอคะ ว่ามีคนพูดตำหนิหวาเยอะแยะเลย” ยี่หวามองตัวเองในกระจก มีคนคอมเมนท์เธอในด้านลบเยอะมาก ทั้งคอมเมนท์ในอินเตอร์เน็ต และคอมเมนท์จากคนรอบข้างตรงๆ “ก็แค่คำพูดคน หนูเพิ่งมาอยู่ในวงการได้ไม่นาน เดี๋ยวหนูก็จะเข้าใจมันมากขึ้น เรียบร้อยแล้วค่ะ ยิ้มหวานๆเข้าไว้นะคะสาว” น้ำเพชรอยากปลอบประโลมยี่หวานานกว่านี้ แต่ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถึงเวลาที่ยี่หวาต้องขึ้นไปยืนปั้นหน้าอยู่บนเวทีแล้ว ยี่หวาก้มหัวให้พี่เพชรเป็นการขอบคุณ เดินขึ้นไปยืนบนเวที เพื่อทำงานของตัวเองที่ได้รับว่าจ้างมา งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของแบนรด์นี้ ยี่หวาได้รับติดต่อกันมาสองครั้งแล้ว จึงรู้หน้าที่ว่าต้องทำยังไงบ้าง เธอทำการบ้านก่อนจะมา จึงไม่มีปัญหาเลยตอนอยู่บนเวที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม