ตอนที่ 9 เรื่องแบบนี้ใครๆก็ทำกัน
ที่ริมชายหาด ปลายฟ้า นัชชาและริสา เดินกลับมาจากบังกะโลเพื่อจะเข้ารวมกลุ่มทำกิจกรรมตามที่รุ่นพี่นัดหมาย ปลายฟ้ามีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอยังคงกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่สำคัญ ปลายฟ้ากลัวเขาจะโกรธเธอ!
ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายเสียความบริสุทธิ์ให้กับกฤชติน แต่เธอกลับไม่ได้โทษของเขาเลย เธอรู้ว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่ยอมรับการไว้วานจากรุ่นพี่ไอซี่ จนทำให้ให้เกิดเรื่องขึ้น
ยิ่งในตอนนี้เมื่ิอเธอเงยหน้ามา เห็นกลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังเดินผ่าน ทำเอาปลายฟ้าหน้าเสีย เธอรีบก้มหน้าลงทันที เพราะเธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่ารุ่นพี่จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับกฤชตินเมื่อคืนไหม
“บ้าที่สุด ดูสิรอยยุงกัดเต็มไปหมดเลย” ไอซี่บ่นพลางทำหน้างอพร้อมชูแขนทั้งสองข้างให้เพื่อนดู
“ฉันไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชหล่อนดี ลงทุนวางยาขนาดนั้นยังไม่ได้กินน้องหน้าหล่อนั่น ไหนว่าไปรอถึงหน้าห้อง 1196 แต่เขาไม่เปิดประตูให้” วิเวียนหัวเราะคิก เมื่อเห็นสภาพเพื่อน
แต่ปลายฟ้าถึงกับสะอึก เมื่อได้ยินว่าจริงๆแล้วห้องของเขาคือ 1196 แต่ห้องของเธอคือ 1169 แสดงว่าเมื่อคืนเขาคงเข้าห้องผิดและเธอเองก็คงรีบร้อนจนลืมล็อกห้อง
“ชู่วส์ แกอย่าพูดเสียงดังสิ” ไอซี่กระตุกแขนเพื่อน เมื่ิอเห็นปลายฟ้าเดินสวนมา ก่อนหันไปยิ้มให้ เพราะยังเข้าใจว่าปลายฟ้าคงไม่รู้เรื่องอะไร
ปลายฟ้ายิ้มตอบกลับแบบเจื่อนๆ
ใช่แล้ว…ทุกอย่างคงเป็นอย่างที่เธอคิด แล้วเธอ..จะขอโทษกฤชตินยังไงดี เขาจะโกรธเธอมากไหม และแน่นอนเธอไม่มีทางให้เขารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างมันเกิดจากฤทธิ์ยาไม่ใช่ความตั้งใจ เมื่อคิดแบบนี้ได้ สีหน้าก็หมองลงไปอีกอย่างบอกไม่ถูก จนนัชชารู้สึกได้ว่าเพื่อนเธอมีเรื่องไม่สบายใจ
“สีหน้าตัวเองไม่ดีเลย อะปลาย”
“อ้าว อ่อ เหรอ ไม่รู้ตัวเลย” ปลายฟ้าเอามือจับหน้าตัวเองเบาๆ
“นั่นสิ ไหวไหมอะปลาย หรือ พวกเราจะกลับกันก่อนดีไหม เข้าค่ายไม่เห็นสนุกเลย ลำบากจะตาย” ริสาเอ่ยขึ้นบ้าง เธอเป็นลูกคุณหนูที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ขนาดมาทำกิจกรรมกลุ่มแบบนี้ เธอยังเลือกขับรถมาเองและให้นัชชากับปลายฟ้านั่งมาด้วย เพราะไม่อยากไปเบียดเสียดกับใครในรถบัส มันดูน่าอึดอัดสำหรับเธอ
“เอาน่า เค้าไม่เป็นไร อีกอย่างกิจกรรมใกล้จะเลิกแล้วแค่ครึ่งวันเอง เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก” ปลายฟ้ายิ้ม ด้วยเพราะเธอเป็นคนที่ขี้กังวลและคิดมาก กลัวจะโดนรุ่นพี่เขม่นพวกเธอมากไปกว่านี้ เอาแค่ไม่ได้นั่งรถบัสรวมมาด้วยเมื่อวานก็ทำเอาถูกมองด้วยสายตาแปลกๆแล้ว เพราะงั้นแค่ทนๆไปอีกครึ่งวัน
เมื่อเหล่าบรรดานักศึกษาพากันทยอยเดินมารวมตัวกันที่กลุ่ม รุ่นพี่สตาฟก็เริ่มบ่นขึ้นมาลอยๆ เรื่องที่เมื่อคืนอากาศร้อนมาก แล้วทำให้นักศึกษาหลายคนทิ้งเต้นท์เพื่อหนีไปหาห้องแอร์นอนตามบังกาโลข้างบนจนเต็มไปหมด
“แค่นี้ก็ทนกันไม่ได้ อยากเอาแต่สบาย ทีหลังอยากสบายก็นอนอยู่บ้าน ไม่ต้องมาทำกิจกรรม”
ริสาได้ยินถึงกับกรอกตาบนอย่างรำคาญ อย่างกับว่าเธอจะอยากมาอย่างนั้นแหละ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะปลายฟ้ากับนัชชารบเร้าชวนมา เธอไม่มีทางมาทำกิจกรรมอะไรแบบนี้หรอก
“ฉันจะไปห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา” เพราะไม่อยากฟังรุ่นพี่บ่นเรื่องไร้สาระ ริสาถึงกับลุกพรวดออกจากที่นั่งเพื่อไปเดินเล่น ครั้นจะชวนเพื่อนมาด้วยก็ดูจะเป็นการโจ่งแจ้งเกินไปที่จะชวนเพื่อนให้ลุกหนีทั้งสามคน
ไม่คิดว่าจู่ๆในระหว่างทางเดินไปชายหาด กฤชตินกลับมายืนขวางทางไว้ ทำเอาริสาถึงกับหน้านิ่วด้วยความไม่พอใจ เธอเป็นคนค่อนข้างถือตัวและหยิ่งพอสมควร
“นายมาขวางทางฉันทำไม”
“ริสา เออ คือ” กฤชตินอึกอักไม่กล้าพูดเรื่องเมื่อคืน จนริสาต้องตะคอกกลับ
“เอออะไร อ้ำอึ้งอยู่นั่น”เธอถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญ ตั้งแต่มาเรียนที่นี่เจอคนมาทำอ้ำๆอึ้งๆแบบนี้แล้วสารภาพรักกับเธอนับสิบ นี่ไม่ใช่ว่าเขาจะมาสารภาพรักกับเธออีกคนเหรอ เขาไม่ใช่สเปคเธอสักหน่อย เธอแอบปลื้มผู้ชายที่ดูคมๆแบบมาวินเพื่อนร่วมคลาสเธอมากกว่า
“คือ เมื่อคืนเธอ เออ.. เธอขึ้นไปนอนบังกาโลข้างบนหรือเปล่า” ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอก จากกระดาษโน๊ตที่เจอในห้อง แต่กระนั้น กฤชตินก็ยังอยากถามย้ำให้แน่ใจอยู่ดี
“ใช่ แล้วทำไม” ริสาเชิดหน้าตอบ เธอกำลังหงุดหงิดเรื่องที่โดนรุ่นพี่บนเรื่องที่พากันหนีไปข้างบนตามบังกาโลจนเกือบหมด จนคิดว่าเขาจะมาพูดเรื่องนี้ด้วยอีกคน
“คือเมื่อคืน..”
“ทำไม อะไรของนายหนักหนา ใครๆเขาก็ นอนกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ แค่เรื่องนอน ฉันไม่ได้ใส่ใจนักหรอกนะ เรื่องแบบนี้”
แค่ได้ยินกฤชตินพูดคำว่าเมื่อคืน ริสากลับนึกว่าเขาจะมาบ่นเธออีกคน ทำให้เธอโพล่งตอบออกไป
ความหมายในคำตอบของริสา คือหมายถึงเรื่องที่ทุกคนพากันไปที่นอนตามบังกาโล ซึ่งใครๆก็ทำกัน เกือบทุกคนต่างพากันหนีร้อนไปหาห้องแอร์นอนด้วยกันทั้งนั้น
แต่สำหรับกฤชตินเขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง
-เธอไม่แคร์เรื่องเมือคืน? ทัั้งๆที่เธอกับเขาเพิ่งนอนด้วยกันมา?-
“เธอว่าอะไรนะริสา หมายความว่าเธอไม่ได้ใส่ใจเลย ทั้งๆที่”
“ใช่ ฉันไม่ได้ใส่ใจ และไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ฉันบอกนายแล้วไง เรื่องแบบนี้ใครๆก็ทำกัน คนไม่ทำสิแปลก หลีกไป” ริสาพูดแทรกในขณะที่เขายังพูดไม่จบ จนกฤชตินถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเจอการกระทำเมินเฉยจากริสา เธอทำท่าเบี่ยงตัวเดินหนีไปอีกทางอย่างรำคาญ เขาได้แต่ยืนมองจนริสาเดินห่างออกไป
ริสาได้แต่เดินบ่นพึมพำออกมาคนเดียว
-หมอนั่นบ้าหรือไงนะ อากาศร้อนขนาดนั้น ใครจะไปทนนอนที่เต้นท์ได้ คนไม่หาที่นอนใหม่สิแปลก ใครๆเข้าก็ทำกันทั้งนั้นแหละ ประสาท-