หลังจากวันที่ฝังตัวอ่อน จนกระทั่งผ่านมาครบ 2 สัปดาห์ วันนี้พัทธ์ธีรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อหมอนัดมาตรวจการตั้งครรภ์หลังการปฏิสนธิด้วยวิธีปฏิสนธินอกร่างกาย วันนี้นายจ้างของเธอเขาไม่ได้มาด้วยอย่างเช่นก่อนหน้านี้ เขาส่งเลขามาแทนโดยมีข้ออ้างว่าเขาไม่อยากให้ใครเห็นหรือรู้ว่าเขามีลูกโดยการใช้วิธีอุ้มบุญ ต่อจากนี้ไปจนกระทั่งเธอคลอด เขาจะให้ปรางวลัยเป็นคนจัดการแทนเขาทุกอย่างและพาเธอมาพบหมอทุกครั้งตามนัด
“วันนี้จะมีการตรวจเลือดเพื่อหาระดับ hCG หรือฮอร์โมนที่แสดงถึงการตั้งครรภ์นะคะ ในช่วงการตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรกการตรวจผลจากเลือดจะให้ผลชัดกว่าการตรวจปัสสาวะค่ะ” หมอแจ้งกับพัทธ์ธีราเมื่อเธอเข้ามาในห้องตรวจ
“ค่ะ คุณหมอ”
เมื่อพยาบาลมาเจาะเลือดของพัทธ์ธีราไปตรวจ เธอก็รอฟังผลจากหมอ ซึ่งระดับของ hCG ที่มีมากกว่า 10 IU/L จากการตรวจในครั้งแรก
“อีก 2 วัน หมอขอนัดมาตรวจซ้ำอีกครั้งนะคะ เพื่อยืนยันระดับฮอร์โมนที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าระดับ hCG เพิ่มสูงขึ้นประมาณสองเท่าทุกๆ ระยะเวลา 48 ชั่วโมง แสดงว่าคุณแม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณหมอ”
พัทธ์ธีรามาตรวจตามนัด จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมา หมอนัดเธอมาทำการอัลตราซาวด์ว่าเธอตั้งครรภ์แน่นอนหรือไม่ ตัวอ่อนเกาะผนังมดลูกของเธอหรือยัง เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก หมอสอดอุปกรณ์ส่งคลื่นอัลตราโซนิกแบบแท่งหรือหัวตรวจเข้าทางช่องคลอดเนื่องจากเป็นการอัลตราซาวด์ครั้งแรกจะช่วยให้เห็นมดลูกตำแหน่งที่ใกล้กับลูกในครรภ์จึงสามารถได้ภาพที่ละเอียด เมื่อหมอตรวจเสร็จเรียบร้อย พัทธ์ธีราและปรางวลัยนั่งรอฟังผลการตรวจด้วยความตื่นเต้นเมื่อหมอเปิดภาพการตรวจให้พวกเธอดูพร้อมกับอธิบายให้ฟังไปด้วย
“การทำอัลตราซาวด์เมื่อสักครู่ สามารถมองเห็นถุงน้ำคร่ำ ซึ่งในถุงน้ำคร่ำมีตัวอ่อนอยู่ภายในที่แสดงถึงการตั้งครรภ์ค่ะ”
“พัทท้องแล้ว!”
“ค่ะ พี่ปราง” สองสาวยิ้มให้กันเมื่อผลการฝังตัวอ่อนสำเร็จ ในที่สุดพัทธ์ธีราก็ท้องแล้ว หญิงสาวลูบหน้าท้องตัวเองอย่างแผ่วเบา แม้ว่าจะเป็นการอุ้มบุญแต่เธอก็อดที่จะตื่นเต้นตื้นตันใจไม่ได้ และลูกในท้องก็เป็นลูกของเธอ
“คุณแม่ตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์ แล้วนะคะ เป็นครรภ์แฝด ไข่แยกกันคนละใบ”
“อะไรนะคะ! ท้องแฝดเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ ในภาพนี้แสดงให้เห็นถุงไข่แดงที่ใช้สำหรับเลี้ยงตัวอ่อนใกล้กันสองใบ”
“เดี๋ยวนะพัท..คุณราชย์ต้องการลูกชายคนเดียวไม่ใช่เหรอ” ปรางวลัยเอ่ยถามขึ้น
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าค่ะคุณหมอ พวกเราดีใจมากค่ะที่ได้ลูกแฝด” พัทธ์ธีราตอบออกไป ทำให้ปรางวลัยมองหญิงสาวเป็นเชิงถามว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่องนี้กันนะคะพี่ปราง ตอนนี้ฟังคุณหมอแนะนำการดูแลลูกในท้องของพัทก่อน”
“ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จะสามารถอัลตราซาวด์สังเกตเห็นการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์”
“ค่ะ แล้วระยะนี้ฉันต้องดูแลยังไงบ้างคะ”
“คุณแม่ต้องมาพบหมออย่างสม่ำเสมอตามนัดค่ะ และถ้ามีอาการผิดปกติอะไร ให้รีบมาพบหมอทันทีนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”
“วันนี้คุณแม่ฝากครรภ์กับหมอเลยนะคะ”
“ค่ะ”
หลังจากคุณหมอซักประวัติและตรวจร่างกายพัทธ์ธีราอย่างละเอียด วัดความดันเลือดดูการบวมตามร่างกาย ตรวจปริมาณน้ำตาล โปรตีนในปัสสาวะ ตรวจครรภ์ของเธอเรียบร้อยแล้วหมอก็ให้ยาบำรุงมากิน
“พัทคิดอะไรอยู่?” ปรางวลัยเอ่ยถามขึ้นทันทีที่ทั้งสองก้าวออกจากโรงพยาบาลมายังรถที่จอดอยู่
“พัทขอพูดตรง ๆ เลยนะคะพี่ปราง พี่ปรางอย่าบอกเจ้านายของพี่ปรางนะคะ ว่าพัทท้องแฝด”
“อะไรนะ! นี่พัทคิดจะทำอะไร?”
“ก็เจ้านายของพี่ปรางต้องการแค่ลูกชายเพียงคนเดียว ลูกอีกคนก็ควรจะเป็นของพัท พี่ปรางช่วยพัทเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับของเราสองคนนะคะ” เธอไม่เหลือใครในชีวิต แม่บุญธรรมที่เปรียบเสมือนญาติเพียงคนเดียวที่เธอมีก็จากเธอไปแล้ว เมื่อได้รู้ว่าเธอท้องแฝด เธอดีใจมากที่สุด รู้สึกว่าชีวิตเธอมีความหมายมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“ถ้าคุณราชย์รู้..”
“นะคะพี่ปราง พี่ปรางไม่บอกไม่รายงานให้เจ้านายของพี่รู้ เขาก็ไม่มีทางรู้ว่าพัทอุ้มท้องแฝด พี่ปรางเห็นใจพัทนะคะ พัทไม่เหลือใครแล้ว อย่างน้อยขอให้พัทมีลูกไว้สักคน ยังไงเขาก็จะได้ลูกชายไปตามที่เขาต้องการ ส่วนลูกอีกคนให้พัทได้เลี้ยงดูเขาเองนะคะ”
“คุณราชย์ไม่ได้โง่นะพัท เดี๋ยวเขาก็ขอดูผลการตรวจ ดูภาพอัลตราซาวด์”
“ยังไงเขาก็ไม่ได้มาดูตอนที่พัทตรวจ เรื่องนั้นพัทจะหาทางแก้ไขเองค่ะ พี่ปรางไม่ต้องกังวล”
“ถ้าเจ้านายของพี่รู้เรื่องนี้เข้า รับรองว่าพี่ได้โดนไล่ออกจากบริษัทแน่ พัทนะพัท พี่จะต้องร่วมหัวจมท้ายไปกับเธอด้วยใช่มั้ยเนี่ย”
“ขอบคุณพี่ปรางมากนะคะที่รักและเข้าใจพัท พัทกับลูกจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้ของพี่ปรางไปตลอดชีวิตเลยค่ะ” พัทธ์ธีรากอดปรางวลัยด้วยความดีใจที่เธอตกลงเก็บเรื่องลูกแฝดของเธอไว้เป็นความลับ ในความหมดหวังสูญเสียคนที่เธอเคารพรักมากที่สุดไป อย่างน้อยสวรรค์ก็ยังเมตตาส่งเจ้าตัวน้อยมาให้เธอ
เธอเคยอ่านวิธีการปฏิสนธินอกร่างกายหรือ IVF นี้ จะเป็นวิธีที่มีโอกาสการตั้งครรภ์สูง แต่มีข้อด้อยบางประการ คือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างจะสูงมาก มีความเสี่ยงจากการใช้ยาตลอดจนมีอัตราการตั้งครรภ์แฝดเพิ่มขึ้น เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนการฝังตัวอ่อนหรือว่าเป็นเพราะสาเหตุใดก็ตาม แต่เป็นความผิดพลาดที่เธอรู้สึกยินดีและดีใจเป็นที่สุดที่พวกเขากำลังเจริญเติบโตในท้องของเธอ วันนี้เป็นวันแรกที่เธอยิ้มได้อย่างมีความสุขตั้งแต่แม่เธอจากไป
พัทธ์ธีรากับปรางวลัยกลับมาถึงเพนเฮาส์ของราชันย์ เขานั่งรอเธอทั้งสองอยู่ก่อนนั้นแล้ว
“ผลตรวจเป็นยังไงบ้าง ท้องแล้วหรือยัง” ราชันย์เอ่ยถามขึ้นทันที
“พัทท้องแล้วค่ะคุณราชย์” ปรางวลัยเป็นฝ่ายตอบเจ้านายหนุ่มและประคองพัทธ์ธีราเข้ามานั่งบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง
“เธอเป็นยังไงบ้าง..” ราชันย์เอ่ยถามพร้อมกับมองพิจารณาร่างบางโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องของเธอที่ยังดูแบนราบ เอวบางเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“ฉันปกติดีค่ะ”
“คุณปรางเอาภาพอัลตราซาวด์มาให้ผมดูลูกของผมหน่อย”
“นี่ค่ะคุณราชย์..” ปรางวลัยยื่นภาพอัลตราซาวด์ให้กับราชันย์ ซึ่งภาพที่เลือกเป็นมุมภาพที่ดูแทบไม่ออกว่าในครรภ์นั้นมีเด็กถึงสองคน!
“ลูกชายของฉัน..”
“ใช่ค่ะ..ลูกของคุณ” พัทธ์ธีราวางมือนาบกับหน้าท้องตัวเอง หนูอีกคนอย่าโกรธแม่นะคะลูก แม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องหนูเอาไว้
ราชันย์มองภาพอัลตราซาวด์ในมือไม่วางตาพร้อมกับยิ้มบางๆ เมื่อความต้องการของเขาสำเร็จไปหนึ่งขั้นแล้ว ต่อไปเขาก็ต้องบำรุงให้ลูกเจริญเติบโต
“หมอนัดอีกครั้งเมื่อไหร่” ชายหนุ่มหันมาถามหญิงสาว
“อีกสองสัปดาห์นัดอัลตราซาวด์ฟังเสียงหัวใจค่ะ”
“ผมฝากคุณดูแลด้วยนะคุณปราง บันทึกเสียงมาให้ผมฟังด้วย”
“ได้ค่ะ คุณราชย์”
“เธอต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง”
“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันต้องกลับไปทำงานต่อ เธอก็ควรจะพักผ่อนได้แล้ว คุณปรางคุณก็กลับไปพร้อมกับผม” ราชันย์บอกกับพัทธ์ธีราก่อนจะสั่งเลขาของเขา
“ค่ะ คุณราชย์ พี่กลับก่อนนะพัท พักผ่อนเยอะ ๆ พี่จะแวะมาหาบ่อย ๆ”
“ขอบคุณนะคะพี่ปราง สำหรับทุกสิ่งในวันนี้..” สองสาวยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ
“จ้ะ พี่ยินดีและเต็มใจ” ปรางวลัยกับบอกหญิงสาวก่อนจะรีบก้าวตามเจ้านายหนุ่มออกไป
สองสัปดาห์ต่อมา..พัทธ์ธีรามาพบหมออีกครั้งเพื่อฟังเสียงหัวใจของลูกในท้อง เมื่อเธอได้ฟังเสียงหัวใจของลูกทั้งสอง น้ำตาของเธอก็ไหลเอ่อออกมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจของลูกเต้นเร็วมาก เสียงดัง ก๊อบ ก๊อบ ก๊อบ คล้ายกับเสียงม้าวิ่ง เมื่อตรวจการเต้นของหัวใจเรียบร้อยแล้วปรางวลัยขับรถมาส่งเธอที่เพนเฮาส์เหมือนเดิม และเขา..พ่อของลูกก็มารอเธออยู่แล้วเช่นกัน มาถึงเขาก็ขอฟังเสียงหัวใจของลูกทันที ปรางวลัยยื่นโทรศัพท์มือถือที่เธอบันทึกเสียงไว้ให้กับเจ้านาย
“ทำไมคุณบันทึกมาแค่เสียง ฟังก็ไม่ชัด”
“คุณราชย์ให้ฉันบันทึกเสียงมานะคะ ไม่ใช่บันทึกวิดีโอ”
“คุณปราง!” ราชันย์ขมวดคิ้วกำลังจะต่อว่าปรางวลัย
“อัวะ..อั่วะ..” พัทธ์ธีรามีอาการคลื่นไส้จะอาเจียนขึ้นมา เขาจึงรีบหันไปดูแลเธอแทนที่จะซักไซ้เลขา ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวก้าวไปยังห้องน้ำ
“คุณราชย์ดูแลพัทด้วยนะคะ ฉันต้องรีบกลับไปเคลียร์งานที่ค้างอยู่” ปรางวลัยบอกตามหลังเจ้านาย เธอถือโอกาสปลีกตัวหนีออกไป
“ขอบใจนะเจ้าหลานแฝดที่ช่วยป้าเอาไว้” ปรางวลัยพึมพำออกมาก่อนจะก้าวออกไปจากเพนเฮาส์
“เดี๋ยวสิคุณปราง..” ราชันย์ประคองพัทธ์ธีราออกจากห้องน้ำ ปรางวลัยก็หายไปแล้ว ระหว่างก้าวจากห้องน้ำไปยังโซฟาหญิงสาวเอนกายอิงซบอกเขามาตลาดทางจนมาถึงโซฟา เขาประคองเธอนั่งลงเธอก็ยังหลับตาซบอกเขา เธอคงจะรู้สึกอ่อนเพลียมาก เขาจึงปล่อยให้เธอซบอยู่แบบนั้นไม่กล้าขยับเกรงว่าเธอจะลุกขึ้นมาอาเจียนอีก
“เธอรู้สึกดีขึ้นหรือยัง..” เขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อปล่อยให้เธอซบอิงอยู่นานพอสมควร
“ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่นิดหน่อยค่ะ”
“ดื่มน้ำหน่อยมั้ย” พัทธ์ธีราพยักหน้าเบาๆ ราชันย์จึงลุกไปหยิบน้ำมาให้เธอดื่ม
“ขอบคุณค่ะ” เธอดื่มน้ำแล้วหลับตาเอนกายพิงไปกับโซฟา
“เธออยู่คนเดียวได้หรือเปล่า”
“ฉันอยู่ได้ค่ะ” เธอตอบกลับไปทั้งที่ยังหลับตา
“ถ้าเธอมีอาการผิดปกติก็รีบโทรบอกฉันเข้าใจไหม คุณปรางให้เบอร์โทรศัพท์ของฉันไว้แล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องกลับก่อน เธอก็ควรจะพักผ่อน”
“ขอบคุณค่ะ”
ราชันย์ก้าวออกมาอย่างรู้สึกกังวล แต่เขาเคยดูแลคนท้องเสียที่ไหน เขากลับไปทำงานแล้วให้เลขามาดูแลเธอคงจะดีกว่า ผู้หญิงด้วยกัน
พัทธ์ธีราเริ่มมีอาการแพ้ท้องตั้งแต่เธอตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ เริ่มจากอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว และเริ่มจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในไตรมาสแรกมาจนถึงสัปดาที่ 12 อาการแพ้ท้องถึงเริ่มทุเลาลง แม้เธอจะแพ้ท้องแต่เธอก็ได้ฟังเสียงได้กำลังใจจากพ่อของลูกที่พร่ำบอกเธอให้เข้มแข็งและอดทนเพื่อลูก ในช่วงสัปดาห์ที่ 10-12 เขาลงทุนซื้อ Ultrasonic Doppler ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยฟังการเต้นของหัวใจของลูกมาฟังโดยเฉพาะ เขามาหาเธอ ไม่ใช่สิ มาหาลูกของเขาทุกวัน จนตอนนี้เธอหายคลื่นไส้อาเจียน แต่กลับมีอาการแพ้ท้องอย่างอื่นขึ้นมาแทน
“เธอยังขาดเหลือหรือว่าต้องการอะไรเพิ่มอีกบ้าง”
“ฉันต้องการเสื้อค่ะ”
“เสื้อ! เสื้อคลุมท้องน่ะเหรอ ฉันก็ให้คุณปรางจัดการหาซื้อมาให้แล้ว”
“ไม่ใช่เสื้อคลุมท้องค่ะ”
“หรือว่าเสื้อชั้นในให้นม”
“เสื้อ..เสื้อของคุณราชย์น่ะค่ะ”
“เสื้อฉัน! เธอจะเอาไปทำอะไร” ราชันย์เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“เอ่อ..คือว่าฉันมีอาการแพ้ท้อง”
“เธอแพ้ท้อง แล้วเกี่ยวยังไงกับเสื้อของฉัน”
“คือว่าคุณเป็นพ่อของลูกในท้องฉัน อาจจะเป็นสาเหตุที่ฉันรู้สึกชอบหรือว่าอยากได้กลิ่นของคุณน่ะค่ะ”
“อ๋อ..มีอาการแพ้ท้องแปลก ๆ แบบนี้ด้วย นี่เจ้าลูกชายของฉันเริ่มแผลงฤทธิ์ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้วอย่างนั้นสิ” ราชันย์ยิ้มและส่ายหัวเบา ๆ ลูกชายของเขาออกมาคงจะแสบไม่เบา
“ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ” เธอไม่แน่ใจว่าเพราะลูกชายคนใดคนหนึ่งหรือว่าทั้งสองที่ทำให้เธอมีอาการแบบนี้
“แล้วเสื้อนี่เธอต้องการแบบที่ใส่แล้วหรือว่ายังไม่ได้ใส่ล่ะ”
“เอ่อ..แบบที่คุณใส่แล้วค่ะ”
“ฮืมม์..เดี๋ยวฉันจะเอาเสื้อที่ฉันใส่อยู่บ้านหรือใส่นอนมาให้ เสื้อที่ใส่ออกไปโชว์รูมด้านนอกอาจจะมีเชื้อโรคปะปนจะไม่ดีต่อเธอกับลูก”
“ค่ะ”
“วันนี้ฉันออกจากบ้านมาที่นี่ยังไม่ได้แวะไปที่ไหน..เธอจะดมก่อนมั้ย?”
“ดมได้ก็ดีค่ะ” พัทธ์ธีราพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างดีใจ อาการดีใจของเธอที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวทำให้เขาอดที่จะยิ้มตามอย่างเอ็นดูกับอาการแพ้ของเธอไม่ได้ ราชันย์นั่งเอนกายพิงโซฟาขนาดคิงไซส์ สองแขนล่ำวางราบไปกับพนักด้านบน หญิงสาวหย่อนกายนั่งลงใกล้ ๆ ชายหนุ่ม ต่างคนก็ต่างเก้ ๆ กัง ๆ วางตัวไม่ค่อยถูก จนพัทธ์ธีราเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว เธออยากดมกลิ่นเขา เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาจะคิดยังไงก็ช่าง ใบหน้าหวานก้มลงแนบชิดเสื้อโปโลสีขาวที่สวมทับอกแกร่ง เธอหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสูดกลิ่นกายเขาไว้ให้เต็มปอด
“ฮืออ..รู้สึกดีจัง” หญิงสาวพึมพำออกมาเบา ๆ เมื่อได้สูดดมกลิ่นกายเขาแล้วทำให้เธอรู้สึกดีรู้สึกผ่อนคลาย
เมื่อราชันย์รู้ว่าพัทธ์ธีรามีอาการแพ้ท้องอย่างนั้น เขาก็แวะมาหาเธอทุกวัน เพื่อมาให้เธอสูดดมกลิ่นกายของเขาและถอดเสื้อเขาไว้ให้เธอก่อนเขาจะกลับออกไป นอกจากทำให้อาการของเธอดีขึ้นแล้ว เขาก็รู้สึกดีด้วยที่ใบหน้าหวานมาซุกซบแนบอยู่กับอกของเขา ในแต่ละวันเขาปล่อยให้เธอได้สูดดมกลิ่นของเขาจนกว่าเธอจะพอใจ
“อุ๊ย! นี่ฉันเผลอหลับไปนานไหมคะ ทำให้คุณเมื่อยหรือเปล่า” บ่อยครั้งที่กลิ่นกายของเขาทำให้เธอผ่อนคลายจนผล็อยหลับไปทั้งที่สูดดมซุกอกแกร่งหรือว่าแขนแข็งแรงของเขาอยู่
“ไม่เป็นไร..” เขาก็ชอบและรู้สึกดีด้วยนั่นแหละที่เธอมาซบอกเขาจนหลับแบบนี้
ทุกครั้งที่ราชันย์มาดูแลแนบชิดเธอ พัทธ์ธีรามีความรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างนายจ้างกับสามี บางครั้งก็อดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าเขาคือสามี ทั้งที่ความเป็นจริงเขาเป็นแค่พ่อของลูกในท้องแต่ไม่ใช่สามีของเธอ