เชอร์รีนลงมาทำกับข้าวตอนนี้เช้าอย่างอารมณ์ดี เมื่อเธอคิดว่า วายุอาจกลับมาทัน ทานข้าวเช้า และวาคินอาจจะลงมาทานข้าว เธอก็คิดว่าอยากทำอะไรพวกนี้ขึ้นมา เธอเข้าครัวอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับแม่บ้านและแม่ครัว 2-3 คน
แต่ไม่นานนักสีหน้าของเชอร์รีนที่กำลังเปื้อนยิ้มก็เปลี่ยนไปทันที ร่างกายเล็กๆ เริ่มสั่นเทาเบาๆ เมื่อเธอมองเห็นคนคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอที่ครัว
“เจ้าพ่อ” เชอร์รีนเรียกเขาเสียงเบาบางและสั่นเครือ
“หึ เห็นหน้าผัวตัวเองเหมือนเห็นผีเลยนะ” เขากระตุกยิ้มมุมปากและทำท่าทีเย้ยหยันเธอเบาๆ
ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับหนวดเครารุงรังและร่างกายที่ซูบผอมจนเชอร์รีนตกใจ ที่บอกว่างานมีปัญหาอาจจะจริงเพราะดูจากที่เขาแทบเหมือนคนที่ไม่ได้พักผ่อนเลย สาวใช้วิ่งกระเจิงหนีหายไปจากครัวอย่างรวดเร็วตามคำสั่งของผู้เป็นนายใหญ่
เจ้าพ่อยกตัวเชอร์รีนลอยลิ่วขึ้นวางบนโต๊ะกินข้าวหินอ่อนที่สั่งทำพิเศษตัวใหญ่ตัวนี้ เธอไม่คิดแข็งขืนเขาแต่กลับรู้สึกสงสารที่เขาต้องทำงานอย่างหนัก เชอร์รีนมองไปที่ดวงตาดุดันอย่างสั่นเทาแล้วค่อยๆ ใช้มือลูบไปที่ใบหน้าของเขาช้าๆ
“เจ้าพ่อได้พักผ่อนบ้างไหมคะ”
เธอถามออกมาด้วยความไร้เดียงสาทำเอาคนถูกถามถึงกับชะงัก หัวใจที่ด้านชากลับรู้สึกเหมือนมีใครมาก่อกองไฟให้อบอุ่นเขามองมายังดวงตาของเธออย่างเพ่งพินิจ
ความรักสำหรับเขามันนานมากจนคนแบบเขาแทบจะจำไม่ได้ เนื้อตัวและทางเดินของเขามันมีแต่กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมดจนหัวใจของเขามันด้านชาและไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักอีกเลย
ยิ่งเป็นพวกผู้หญิงเขาก็ใช้แล้วทิ้งไม่ต่างกับกระดาษทิชชู เขามองเข้าไปในดวงตาของเชอร์รีน ความสดใสและไร้เดียงสาของเธอกำลังเล่นงงานเขาอย่างหนัก ริมฝีปากหนาเริ่มบดขยี้เชอร์รีนอย่างหนักหน่วงและแสนคิดถึง
เขารั้งเอวเธอไว้แรงๆ แล้วจูบบดขยี้อย่างไม่เคยทำมาก่อน เชอร์รีนได้แต่ งง กับการแสดงออกของเขา เมื่อก่อนถ้าไม่จำเป็นเขาจะไม่เตะตัวเธอด้วยซ้ำ ตอนเอากันเขาก็แค่ทำอย่างรุนแรงสนองความต้องการของเขาฝ่ายเดียว
เชอร์รีนจูบตอบเขาไปอย่างลืมตัว มือใหญ่ลากผ่านแผ่นหลังเข้ามาขยำหน้าอกเธออย่างหนักหน่วง เขาเล้าโลมเธออย่างหนักอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยความคิดถึงและเสน่ห์หายิ่งยวดเล่นเอากายสาวแทบจะอ่อนระทวยอยู่ตรงนั้น
เธอรู้ดีว่าตรงนี้เป็นครัว แต่คนแบบเขาถ้าจะเอาไม่ว่าตรงไหนเขาก็จะเอา เชอร์รีนไม่อยากขัดใจจนเขาอารมณ์เสียขึ้นมาอีกและปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเองภายในครัว
เมื่อเขากำลังจะสอดใส่แกนกายมายังร่องสาวที่ลอยเด่นหรา รอเขาอยู่ที่โต๊ะกินข้าวตัวแพง เธอทำใจดีสู้เสือทักท้วงเขาเบา
“เจ้าพ่อ คุณไม่ป้องกันหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทาและคาดเดาอารมณ์เขาไม่ออกจริงๆ
“กับเมียตัวเองก็เอาสดสิ กับคนอื่นค่อยใส่ถุง” เขาพูดขึ้นมาด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ แต่มันก็ทำให้เชอร์รีนโล่งใจไปเปลาะหนึ่งว่าเขาจะไม่นำโรคภัยมาให้
สำหรับผู้ชายที่ออกจากบ้านไปนานๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามักจะไปหาเศษหาเลยกันตามประสา แต่การที่กลับมากินเมียตัวเองด้วยความคิดถึงแบบนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
รสนิยมความรุนแรงของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด เสียงกรีดร้องของเชอร์รีนดังกึกก้องอยู่ภายในครัวครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแต่เขาไม่ได้ตบตีเธอเหมือนแต่ก่อน แต่เชอร์รีนก็ยังไม่กล้าขัดใจเขาสักครั้งอยู่ดี จึงปล่อยให้เขาทำตามใจชอบกับร่างกายของเธอจนเขาพอใจ
.
.
ทางด้านแก๊งที่ทำให้เจ้าพ่ออยู่ไม่เป็นสุขช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้นแก๊งทิศเหนืออย่างแก๊งที่มีชื่อเรียกว่าอุดร เมื่อก่อนแก๊งนี้ไม่เคยอยู่ในสายตาแก๊งเมืองกรุงอย่างเขาเพราะหัวหน้าแก๊งมันอ่อนปวกเปียกและเป็นลูกไล่ให้แก๊งเขาเสมอมา
แต่เมื่อเปลี่ยนรุ่นหัวหน้าแก๊งเท่านั้นแหละพวกเขากลับมาทรงอิทธิพลและขึ้นคุมธุรกิจของภาคเหนือได้อย่างรวดเร็ว เจ้าพ่อเกรงว่าพวกเขาจะมาสร้างปัญหาให้กับแก๊งกรุงอย่างแก๊งเขาจึงคิดตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
เขาเดินทางไปคุยกับแก๊งอีสาน และแก๊งภาคใต้ เพื่อจะดึงเข้ามาเป็นพรรคพวก แต่อย่างว่าวงการนี้ คนชนะเท่านั้นที่จะยิ่งใหญ่ พวกแก๊งต่างๆ ก็กำลังดูท่าทีและไม่เลือกข้างอย่างโจ่งแจ้งมากนัก มีเพียงแต่แก๊งบูรพาที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขามานานเท่านั้นที่ยอมออกตัวเป็นพวกณ ตอนนี้
เจ้าพ่อรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในแก๊งอีกทั้งยังรู้สึกถึงความวุ่นวายภายในแก๊งกรุง ว่าอาจจะมีหนอนบ่อนไส้เป็นลูกน้องคนสนิทของเขาเองเขาจะระวังตัวอย่างหนัก ไม่มีสักครั้งที่เขาจะไม่พกปืน นอกจากเวลาที่อยู่กับเชอร์รีน นั่นเป็นข้อยกเว้นซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
แต่นั่นมันกำลังเป็นช่องโหว่ และมันอยู่ในสายตาของหนอนบ่อนไส้ทั้งหมด
เจ้าพ่อเริ่มถ่ายโอนทรัพย์สินให้ลูกชายทั้งสอง และพาพวกเขาเข้าคุมธุรกิจมืดต่างๆ อย่างช้าๆ เขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้แต่เป็นห่วงและเริ่มฝากฝัง
เชอร์รีนเป็นหนึ่งในคนที่เขาไว้ใจและเขาก็แอบถ่ายโอนเงินและทรัพย์สินไว้ให้เธอจำนวนมาก การกระทำของเขาทำให้เชอร์รีนสับสนเป็นอย่างมาก แถมเขายังเริ่มสอนการดูแลตัวเองให้เธอ สอนการใช้ปืนและให้เธอไปเรียนขับรถ
เชอร์รีนรู้โดยสัญชาตญาณว่าบ้านหลังนี้อาจกำลังจะเจอมรสุมหนัก และเธอก็พยายามเรียนรู้ในสิ่งที่เขาสอนให้ โดยไม่ปริปากบ่นสักคำ ครั้งนี้เจ้าพ่ออยู่นานเป็นพิเศษ เขามาเคลียร์หลายอย่างให้คนที่บ้านอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีใครกล้าถามความต้องการของเขา
ได้แต่เพียงทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น