กลับไปเยี่ยมบ้าน

1200 คำ
เจ้าพ่อ ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าตรู่ เขารีบมาแล้วก็รีบไปอย่างเห็นได้ชัด ช่วงนี้รู้สึกว่างานของเขาจะไม่ค่อยราบรื่นแต่ช่างเถอะ เชอร์รีนเหนื่อยเกินกว่าจะมาใส่ใจเรื่องของเจ้าพ่อ เพราะร่างกายที่เขาทำจนบอบช้ำเมื่อคืนยังทำเอาเธอผวาไม่หายไม่หาย วันนี้เชอร์รีนตั้งใจกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ เพราะเป็นวันหยุดและเธอก็ไม่ได้เจอแม่มาร่วมเดือนตั้งแต่เข้ามาอาศัยชายคาบ้านหลังนี้ เธอลงมาทานข้าวพร้อมกับแต่งตัวให้ดูดี ที่สำคัญมันมิดชิดจนคนอื่นมองออก เสียงกรีดร้องและครางกระเส่าของเชอร์รีนยังคงดังก้องอยู่ทั่วทุกโสตประสาทของลูกเลี้ยงทั้งสองคน พวกเขาแหงนมองหน้าเธอเกือบจะพร้อมกันทันทีที่เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร สายตาเวทนาบ่งบอกได้โดยที่เขาทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยปากขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์ครับ เชอร์รีน” ผู้เป็นพี่ชายเอ่ยทักก่อน น้ำเสียงแสนอ่อนโยนและอบอุ่นทำเอาคนฟังอย่างเชอร์รีนใจเต้น แต่ว่าน้ำเสียงที่ชวนให้เธอวาบหวามกลับเป็นเสียงทุ้มต่ำที่ทักเธอในเวลาต่อมา “มอนิ่งเชอร์รีน เป็นยังไงบ้าง” เขาเริ่มถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเธอ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาไม่แม้แต่จะปรายตามองเธอด้วยซ้ำ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเชอร์รีนกำลังแทรกตัวเข้าไปอยู่ในใจพวกเขาอย่างช้าๆ “เชอร์โอเคค่ะ ขอบคุณ คุณทั้งสองมากนะคะ” เธอตอบเสียงอ่อยแล้วตักข้าวต้มเข้าปากอย่างอ้อยอิ่ง “วันนี้เชอร์ว่าจะขอรถที่บ้านคันหนึ่งค่ะ พอดีอยากไปเยี่ยมพ่อกับแม่ แล้วก็น้องชาย” เธอพูดขึ้นมาด้วยความไร้เดียงสา สีหน้าและแววตาดูบริสุทธิ์เมื่อพูดถึงครอบครัว “ให้ผมไปส่งมั้ย พอดีวันนี้ผมว่าง” ผู้เป็นพี่ชายอย่างวาคินเอ่ยอาสาขึ้นมาก่อน เชอร์รีนเหลือบมองวายุ ที่เขาทำหน้าไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ไม่ได้ขัดผู้เป็นพี่ชาย “ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เชอร์รีนไม่ขัดน้ำใจพี่ชายคนโตของบ้านและให้เขาขับรถพาไปส่งในย่านชุมชนที่ครอบครัวเก่าเธออาศัยอยู่ เมื่อขับมาถึง วาคินเองก็กลืนน้ำลายลงคอ และรู้สึกเวทนากับสภาพแวดล้อมของเชอร์รีนมาก เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงยอมถูกขายมาเป็นเมียของชายรุ่นคราวพ่อ สภาพความเป็นอยู่ของพวกเธอลำบากน่าดู “เชอร์” หญิงสูงอายุเรียกเธอเมื่อเห็นหน้าแล้วเชอร์รีนก็วิ่งเข้าไปกอดเธอทั้งน้ำตา เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว เชอร์รีนคิดถึงแม่คิดถึงน้องชายและคิดถึงบ้านมากๆ “พี่เชอร์” เสียงเด็กหนุ่มเรียกเธออย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นหน้าพี่สาว “ชาลี” เธอเรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและดูพึ่งพาได้ ผู้หญิงตัวเล็กร่างสั่นเทาที่โดนกดขี่ไม่มีให้เห็น เมื่อเธอต้องอยู่ต่อหน้าครอบครัว ความเข้มแข็งเป็นสิ่งเดียวที่เชอร์รีนต้องแสดงออกมาเพื่อให้เขาทั้งคู่สบายใจ ส่วนคนเป็นพ่อนะหรอ ช่างหัวเขาสิ เชอร์รีนคิดในใจ “เป็นไงบ้างเราน่ะ คิดเรื่องมหาลัยที่จะเรียนได้ยัง” เธอถามผู้เป็นน้องชายเมื่อพวกเขาถูกชวนเข้ามาในบ้าน วาคินเดินเข้ามาอย่างไม่นึกรังเกียจ ถึงแม้บ้านจะหลังเล็กแต่ก็สะอาดสะอ้าน บ่งบอกถึงความใส่ใจของแม่บ้านอย่างคุณแม่ของเชอร์รีน “คิดไว้แล้วครับพี่ แต่เรื่องค่าเทอม เอ่อ…” เขาตะกุกตะกักนิดหน่อยเมื่อคิดถึงค่าใช้จ่ายที่แม่ต้องแบกรับ “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกชาลี ขอแค่น้องตั้งใจเรียน เรื่องเงินพี่จะรับผิดชอบเอง” เธอยิ้มให้น้องชายแล้วลูกหัวเขาเบาๆ จนเขายิ้มออกมาง่ายๆ น้องชายเป็นความหวังของเธอและตอนนี้เขาก็ดูแลแม่แทนเธอเพราะงั้นเรื่องเงินเธอดูแลได้อยู่แล้ว เงินที่เจ้าพ่อให้ไว้มันเยอะมากมายขนาดส่งชาลีเรียนได้ 3 คนเลย เธอคิดในใจแล้วยิ้มให้พวกเขา เมื่อพูดคุยถามไถ่กันจบ เธอเข้ามาพักผ่อนในห้องของตัวเองที่แสนคิดถึง แม่ยังดูแลห้องให้เธออย่างดี ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิมจนเธอเผลอยิ้มออกมา วาคินที่ตามเธอเข้ามาก็อดยิ้มตามไม่ได้ เขาสพรวจห้องหญิงสาวอย่างกระตือรือร้น จนเธอรู้สึกเขิน “นี่รูปคุณตอนเด็กๆ หรอครับน่ารักจัง” เมื่อสายตาของเขาเหลือบไปเห็นรูปเชอร์รีนตอนเด็กเขาก้เอ่ยชมอย่างจริงใจ “นะ นี่ คุณวาคิน อย่ามองนะคะน่าอายจัง” เธอเขินจนหน้าแดงเมื่อรูปของเธออยู่ในมือชายหนุ่มและเขาก็ยิ้มกรุ้มกริ่มมองรูป “ไม่เห็นน่าอายเลยครับน่ารักออก” เขาชมจริงไม่ได้แกล้งชม เธอน่ารักตั้งแต่เด็กและใบหน้าของเธอที่ไม่ได้ผ่านการทำสวยมายิ่งมองยิ่งพาคนร่างใหญ่ใจเต้น “ไม่เอาหรอกเชอร์เขินนะคะ คุณวาคินเอาคืนมาเถอะค่ะ” เธอเล่นยื้อยุดฉุดกระชากรูปสักพัก วาคิดเห็นเป็นเรื่องสนุกที่ร่างบางกระโดดเหย่งๆ เพื่อแย่งรูปจากเขา เขาชอบใจแล้วเผลอแกล้งเธอใหญ่ จังหวะการกระโดดของหญิงสาวจังหวะหนึ่งมันดันไปสะดุดกับขาเตียงเบาๆ จนเธอเซถลาล้มทับร่างใหญ่ที่พยายามประคองเธอไม่ให้ล้มโดยสัญชาตญาณ พวกเขาทั้งคู่ล้มเซลงไปโดยมีเชอร์รีนล้มทับร่างใหญ่อยู่ บรรยากาศพาไปถึงขีดสุด ภายในห้องที่มีแต่พวกเขาทั้งคู่ ใบหน้าหล่อเหลาของวาคินกำลังเล่นงานเชอร์รีนอย่างหนัก และใบหน้าสวยกับตากลมโตของเชอร์รีนก็กำลังยั่วเย้าวาคินถึงขีดสุด ทั้งสองไม่อาจต้านทานความเสน่หาที่มีต่อกันและกันได้อีกแล้ว ชายหนุ่มแสนอ่อนโยนผู้ดูแลเธออย่างดีตั้งแต่เธอก้าวเข้าไปในบ้านหลังนั้นวันแรก เธอรีนใจเต้นตึกตักและไม่อาจห้ามปรามความรู้สึกของตัวเอง ริมฝีปากใหญ่เริ่มจูบเธออย่างแผ่วเบา และเหมือนเคย จูบที่แสนแผ่วเบาและอบอุ่น ร่างใหญ่ประคองตัวเองและเชอร์รีนลุกขึ้นนั่งทั้งๆ ที่ปากยังประกบกันอยู่ เขายกเชอร์รีนให้มานั่งคร่อมตักเขาบนเตียงงหลังเล็ก เมื่อเขาถอนจูบออก เขาก็เพ่งมองใบหน้านวลแดง งดงามที่กำลังจ้องมายังดวงตาของเขาอย่างไม่ลดละ เชอร์รีนกำลังจะถูกผีนางกากีเข้าสิงอีกครั้ง ไฟสวาทราคะเริ่มสุมทรวงเธอ ร่างกายวูบวาบและหวั่นไหวกับใบหน้าหล่อเหลาราวพระเจ้าปั้น คนตัวใหญ่ก็ไม่เกรงกลัวที่จะแสดงออกมาทางแววตาอย่างสุดโต่ง แววตาลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนาที่มีต่อตัวหญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง เขาใช้ฝ่ามือใหญ่เริ่มลูบไล้ไปที่กลางหลังของเธออย่างอ่อนโยน อึก หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอแล้วจ้องมองใบหน้าคมคายอย่างไม่ลดละ . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม