ภาพสะท้อนจากกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้าทำให้ดวงฤดีอึ้งไปนานเลยทีเดียว ผู้หญิงแสนสวยในชุดงดงามสีดำสนิทแบบแนบเนื้อตรงหน้าเหมือนไม่ใช่หล่อน ไม่ใช่เด็กสาวกะโปโลที่ไม่เคยใส่ใจกับหน้าตาและผิวพรรณของตัวเองอย่างหล่อน แต่มันก็คือหล่อน ไม่ใช่ใครที่ไหน หล่อนที่ถูกคนของเพริศพริ้งจับขัดเนื้อถูตัวจนขี้ไคลล่อนออกไป จากนั้นก็ถูกจับมาแต่งหน้าแต่งตาจนงามปานนางฟ้านางสวรรค์แบบนี้
“สวยมาก หนูฤดี...”
คนถูกชมยิ้มไม่ออก เพราะรู้ดีว่าเวลาต่อจากนี้ไปกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความอัปยศ ช่วงเวลาที่หล่อนจะต้องชนะเพียงเท่านั้น เพราะหากแพ้หล่อนจะต้องสูญเสียทุกอย่างไปอย่างไม่มีทางทวงคืนได้อีก
“สวยแบบนี้ เสี่ยทรงชัยจะต้องถูกใจแน่ๆ”
เพริศพริ้งยิ้มกว้างอย่างถูกใจ ก่อนจะหันไปสั่งให้คนของตัวเองพาดวงฤดีลงไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ที่ลานหน้าบ้านทันที
“จิตพาหนูฤดีไปขึ้นรถได้แล้ว...” คนพูดออกคำสั่งกับลูกน้องของตัวเองจบก็หันมาหาหล่อน
“หนูฤดี... เอาใจเสี่ยทรงชัยมากๆ นะ ถ้าเสี่ยรักเสี่ยหลงเมื่อไหร่ น้ารับรองว่าหนูสบายไปทั้งชาติ คราวนี้ ไม่ว่าลุงของหนูจะนอนโรง
พยาบาลนานแค่ไหน ก็ไม่มีทางมีปัญหาเรื่องเงิน เพราะเสี่ยแกเงินหนา...”
ดวงฤดีได้แต่ยิ้มตอบและกอดกระเป๋าสะพายของตัวเองแน่นเท่านั้น จากนั้นก็ก้มหน้าเดินตามคนของเพริศพริ้งลงไปยังลานจอดรถอย่างไม่มีทางเลือก
ชะตาชีวิตของหล่อนคงไม่มีทางรอดพ้นคำว่าสิบแปดมงกุฎอย่างแน่นอน หญิงสาวถอนใจออกมาเบาๆ ขณะก้าวขึ้นไปนั่งบนตอนหลังของรถคันงาม จากนั้นรถก็แล่นออกไป มุ่งหน้าพาหล่อนไปยังนรกขุมที่ลึกที่สุดอย่างไม่คิดปรานี
ไม่นาน รถก็มาจอดที่หน้าโรงแรมขนาดใหญ่ ซึ่งหล่อนจำได้ดีว่ามันคือโรงแรมเดียวกันกับโรงแรมที่หล่อนพบเจอกับเจ้าของแหวน
‘ซามายาส’ วงนั้น ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงระเบิดขึ้นมาในหัวอก ถ้าหล่อนเจอกับเขาอีก หล่อนจะสามารถหนีอุ้งมือของเขาได้พ้นไหมนะ จะหนีความอำมหิต เหี้ยมโหดของเขาได้พ้นเหมือนคราวที่แล้วหรือเปล่า
ไม่มีเวลาให้ดวงฤดีคิดมากนัก เมื่อหลังจากนั้นไม่ถึงเสี้ยววินาทีประตูรถฝั่งของหล่อนก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของลุงคนขับรถ
“เชิญคุณดวงฤดีลงได้แล้วครับ”
หญิงสาวไม่มีทางเลือกจำต้องก้าวลงมาจากรถ สายตาของลุงคนขับรถทำให้หล่อนอดสมเพชตัวเองไม่ได้ ลุงแกคงจะดูถูกหล่อนอยู่ในใจสินะ ก็คงจะใช่ ถ้าใครรู้ว่าหล่อนมาที่โรงแรมหรูหราแห่งนี้เพราะเหตุอันใดก็คงจะรู้สึกไม่ต่างจากคุณลุงแกหรอก
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณพริ้งสั่งให้คุณดวงฤดีขึ้นไปรอเสี่ยอยู่บนห้อง1113 ครับ”
หญิงสาวพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะหมุนตัวและเดินเข้าไปภายในโรงแรมสูงตระหง่านตรงหน้า ทุกย่างก้าวที่เดินไม่ต่างจากการเหยียบย่ำลงบนเนื้อหัวใจของตัวเองเลยสักนิด นี่ถ้าเพริศพริ้งรู้ว่าหล่อนมีความคิดอะไรอยู่ในหัว หล่อนคงถูกเพริศพริ้งฉีกอกตายแน่นอน ดวงฤดีปล่อยลมออกจากปากเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าประชาสัมพันธ์สาว
“สวัสดีค่ะ มาติดต่อห้องพักหรือคะ”
“เอ่อ... จองเอาไว้แล้วค่ะ ห้อง1113”
จบคำพูดของหล่อน ประชาสัมพันธ์สาวก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหน้าคอมฯ พักใหญ่ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงหวาน
“ห้องที่เสี่ยทรงชัยจองเอาไว้ใช่ไหมคะ”
แม้จะไม่อยากพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่มีทางเลือก “เอ่อ ใช่ค่ะ...”
ริมฝีปากของคู่สนทนาของหล่อนยังยิ้มอยู่ แต่สายตาที่มองมานั้นเปลี่ยนไปแบบปิดไม่มิด คงรู้แล้วสินะว่าหล่อนเป็นอีตัว
“เสี่ยรออยู่บนห้องแล้วค่ะ เชิญตามสบายนะคะ”
หัวใจเหมือนถูกทุบแรงๆ ด้วยค้อนใหญ่ เสี่ยทรงชัยมารอแล้วหรือนี่ แล้วตานั่น... จะทำยังไงกับหล่อนนะ และที่สำคัญหล่อนจะสามารถใช้มารยาหญิงที่เตรียมเอาไว้ได้สำเร็จหรือเปล่า
ดวงฤดีคิดอย่างหวาดหวั่น หล่อนกล่าวขอบคุณประชาสัมพันธ์สาว ก่อนจะเดินอย่างหมดอาลัยตายอยากไปยังลิฟต์ตัวใหญ่