บทที่15
ตัวอยู่ภูเก็ตใจอยู่กรุงเทพฯ
วันต่อมา
ผมพาพ่อกับแม่มานั่นดื่มกาแฟที่ร้านในโซนท่องเที่ยว พ่อผมรับหน้าที่ถ่ายรูปให้แม่ทุกมุมทุกจุด ระหว่างนั่งพักแม่ผมก็อัปรูปลงเฟซบุ๊กจนผมเห็นคอมเมนต์ของลัลลาเบล เธอมาชมว่าคุณป้าสวยจังเลย แหมปากหวานเอาใจคนแก่เก่ง ชิ!
แต่ผมไม่ได้หงุดหงิดนะถึงแม้เธอจะไม่ได้มาคอมเมนต์อะไรผมเลยก็ตาม มีเพียงกดไลค์เท่านั้นแต่ของแม่ผมเธอมากดหัวใจแถมยังคอมเมนต์ด้วย
“เฮ้วาโย คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ” แพนเดินเข้ามาทักทายจนพ่อกับแม่ผมหันมามองหน้าผม ผมเลยอธิบายว่าแพนเธอเป็นลูกเจ้าของรีสอร์ตเคยเจอกันตอนอยู่อเมริกาแม่ผมจึงยิ้มให้เธอ
“คุณลุงคุณป้าคงจำแพนไม่ได้ ตอนเด็กๆ แพนไปเล่นกับวาโยแล้วก็เด็กๆ ที่เกาะก็ไปด้วย”
“ป้าจำไม่ได้หรอกหลายปีแล้ว”
ติก! เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจนผมต้องรีบเปิดอ่าน เพราะลัลลาเบลเธอตอบแชตผมแล้ว จริงๆผมก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายหรอกแค่ถามอาการป่วยของเธอ
บทสนทนา
“ตื่นยัง”
“กินข้าวกินยาด้วยนะ”
“ยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า”
“วันนี้จะไปเดินซื้อของอยากได้อะไรไหม”
(ตื่นแล้วค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากหรอกค่ะเบลเกรงใจ ถ้าอยากให้ ให้เบลเข้าไปอยู่ในใจพี่บ้างก็ยังดี)
จบการสนทนา
ผมอ่านแล้วนั่งยิ้มอยู่คนเดียว มาขอเข้ามาอยู่ในหัวใจแบบนี้ได้เหรอ ผมละสายตาจากโทรศัพท์ก็เห็นทุกคนมองหน้าผม พ่อกับแม่ผมนี่อมยิ้มจนหน้าแดงส่วนแพนเธอยิ้มเจื่อนๆ จากนั้นก็ขอตัวกลับก่อน
แม่ผมเลยชวนผมไปหาซื้อของเพื่อเอาไปฝากบ้านของลัลลาเบล ผมไม่รู้ว่าผมควรจะซื้ออะไรไปฝากเธอเลยก็เธอบอกว่าไม่อยากได้อะไร ขอเข้ามาอยู่ในใจผมนี่หว่า
แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริงๆ นะ
บ้านพยัคฆ์เมฆา
สามหนุ่มทั้งพ่อไบร์ท พ่อเบย์และน้องชายอย่างโบ๊ทกำลังจับตาดูสาวน้อยลัลลาเบลที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอโทรศัพท์พ่อไบร์ทจึงทำเป็นแกล้งเดินไปหาหนังสือแต่สายตาก็พยายามมองหน้าจอโทรศัพท์ของลูกสาวแต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลย
สุดท้ายก็เป็นเจ้าโบ๊ทที่เดินเข้ามาแล้วยืนล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง สายตาก็จ้องมองพี่สาวตัวดี แต่ก็ถูกเบะปากใส่
“เจ้มีความรักเหรอ”
“สา-ระ-แน!!”
“ขอบ-คุณ!!!”
หมอเบย์กุมขมับให้สองพ่อลูกจากนั้นก็เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาลูกสาวเอง ลัลลาเบลจึงยิ้มหวานให้คุณพ่อของเธอแล้วคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง
“คุณพ่อมีอะไรกับเบลหรือเปล่าคะ”
“พ่อเห็นนั่งยิ้มอยู่คนเดียวเลยเดินมาดู”
“เบลแค่ดูอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ได้ออกไปไหนเหรอคะ”
“วันนี้พ่อหยุด ตอนเย็นว่าจะเข้าคลินิก แล้วเราเป็นยังไงบ้างยังปวดท้องอยู่ไหม หรือได้กำลังใจจนหายดีแล้ว”
ฉันหันไปมองหน้าคุณพ่อด้วยความตกใจพร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ ไม่มีกำลังใจจากที่ไหนหรือจากใครทั้งนั้นแหละแค่รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะเฉยๆ
“ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อ”
“พ่อไม่ว่าอะไรหรอก หนังสือเรียนวาโยฝากคนเอามาให้แล้วนะ ว่างๆ ก็อ่านบ้างนะลูก เรียนบริหารจบมาก็ไปช่วยงานพ่อไบร์ทก็แล้วกัน”
“รู้แล้วค่ะคุณพ่อ ว่าแต่วันนี้เบลขอตามคุณพ่อไปคลินิกได้ไหมคะ เบลอยากดูคุณพ่อทำงาน”
ฉันใช้ลูกอ้อนจนคุณพ่อพยักหน้าเป็นคำตอบ เมื่อมาถึงคลินิกที่ฉันไม่เคยคิดอยากจะมาเพราะเมื่อก่อนคุณพ่อชอบบังคับอยากให้ฉันปลูกฝังในอาชีพนี้ แต่ฉันทำไม่ได้ฉันมักจะเหวี่ยงทุกคนที่เข้ามายุ่ง
‘หนูลัลลาเบลหิวขนมไหมคะ’ พยาบาลสาวถามฉันด้วยความเอ็นดู แต่เด็กเอาแต่ใจที่ถูกคุณพ่อบังคับมากับไม่ชอบ ฉันตอบกลับด้วยสายตาจนเธอต้องก้มหน้าเดินออกไป
แต่วันนี้ฉันกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนเมื่อก่อน ฉันเดินตามคุณพ่อเข้ามาในคลินิกพี่พยาบาลคนนั้นยังอยู่ เธอยิ้มให้ฉีนพร้อมกับสวัสดีคุณพ่อ ฉันเลยเดินเข้าไปยืนตรงเคาท์เตอร์แต่เหมือนพี่พยาบาลยังกลัวฉันอยู่ เธอพยายามมองตามหลังคุณพ่อที่ยืนดูชาร์จคนไข้อยู่หน้าห้องตรวจ
“เบลเอาขนมมาฝากค่ะ คุณแม่เบลทำ^^”
“ขะ....ขอบคุณค่ะ” แม้จะแอบกังวลแต่พอเห็นหน้าคุณหมอเบย์ที่หันมายิ้มคุณพยาบาลก็หายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับรับขนมจากมือของสาวน้อย
“เมื่อก่อนหัวร้อนใส่ต้องขอโทษด้วยนะคะ^^”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เข้าใจวันนี้มาช่วยคุณหมอเหรอคะ”
“มาป่วนค่ะ อยู่บ้านแล้วเบื่ออีกเป็นเดือนกว่ามหาลัยจะเปิด”
ด้านหมอเบย์ที่เข้าไปในห้องตรวจก็หยิบสมุดสีชมพูที่เขียนชื่อลูกสาวเอาไว้ขึ้นมาเปิด ประวัติอาการของลูกสาวถูกหมอเบย์เขียนเอาไว้จนถึงตอนนี้
รู้จักให้อภัย
ยิ้มง่าย
พูดเก่งขึ้น
ไม่โวยวาย
รอยยิ้มของผู้เป็นพ่อที่เห็นอาการของลูกสาวดีขึ้นทำให้พยาบาลและผู้ช่วยและหมอจบใหม่พลอยยิ้มตามไปด้วย ทุกคนต่างรู้ฤทธิ์เดชของลัลลาเบลดี
“ดูน้องสดใสขึ้นนะครับ” หมอจบใหม่พูดชมหลังเห็นอาการของอาจารย์หมอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ใช่ ดีขึ้นเยอะเลยล่ะว่าแต่เราเถอะเมื่อไหร่จะมีข่าวดีสักที คบกับแฟนมาตั้งแต่เรียนไม่ใช่เหรอ”
หมอเพทายค่อยๆ หุบยิ้มลงหมอเบย์จึงมองหน้าลูกศิษย์พร้อมตบไหล่เบาๆ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกศิษย์โหมงานหนักแถมยังเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางจนแทบจะกินนอนที่คลินิกอยู่แล้ว
“ผมเลิกกับแฟนไปแล้วครับอาจารย์ตอนนี้ทุ่มกับเรื่องเรียนก่อน”
“ผมเป็นกำลังใจให้ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง”
“ขอบคุณครับอาจารย์”