บทที่6
คู่หมั้นคู่หมาย
หลายวันผ่านไป...
ฉันถูกคุณแม่กับป้าพลอยปลุกตั้งแต่เช้าเพื่อมาจ่ายตลาดถึงบ้านก็ไม่ได้พักเพราะต้องรีบเข้าครัว ช่วยคุณแม่กับป้าพลอยทำอาหารเลี้ยงแขกของคุณพ่อ
วันนี้พ่อไบร์ทอยู่บ้านไอ้โบ๊ทไม่ยังไม่ตื่น ดีจริงๆฉันกลายมาเป็นแม่ครัว แต่ป้าพลอยจำเป็นต้องแกะสลักผักด้วยหรือไงมันจะอลังการงานสร้างไปหรือเปล่า
"เบลมานี่เดี๋ยวป้าจะสอนแกะสลัก"
"เหอะๆๆ" ฉันส่ายหน้ารัวๆเป็นคำตอบ แค่เห็นก็ปวดหัวรอแล้ว ไม่เอาอะคนสวยรับไม่ได้
"มาเถอะลูก ลองดูไม่เสียหายจะได้มีวิชาติดตัว" คุณพลอยรบเร้าให้หลานสาวลองทำอย่างน้อยจะได้มีวิชาติดตัวบ้างแต่หลานสาวส่ายหน้าอย่างเดียว
"ให้แกะสลักเป็นรูปหมูก็ได้อยู่ค่ะ"
"เรานี่จริงๆเลย"
ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าเดินลงมาจากบ้านคงไม่ใช่ใครนอกจากไอ้โบ๊ท มันเดินเกาหัวลงมาอย่างหมดสภาพ เมื่อวานเลิกเรียนคงโดนพ่อไบร์ทลากไปซ้อมยิงปืนหรือไม่ก็ซ้อมมวยแน่ๆ
"นี่น้ำจะท่วม พายุจะเข้า หิมะเมืองไทยจะตกหรือเปล่าเจ้มันเข้าครัวด้วยฮ่าๆๆ"
"หืม!!"
ปัก!
"โอ๊ย!! แม่ดูเจ้มันทำตัวดิแบบนี้ใครจะเอาไปทำเมียวะ ชาตินี้ขายไม่ออกหรอกลูกสาวบ้านนี้!!"
แครอทในมือฉันปลิวไปใส่หัวมันเต็มๆ คุณแม่ที่เห็นเหตุการณ์จึงหยิบก้านมะยมหวดฉันทันที ทำไมไม่มีใครเข้าใจฉันบ้าง!!
"อย่าทำน้อง!" ต้นหอมเอ็ดลูกสาวตัวดีจนลูกชายทำหน้าตาล้อเลียนใส่ ลูกแต่ละคนไม่รักกันเลย ตีกันตั้งแต่เด็กยันโต
"แม่ก็ดูมันสิ ปากเสียหาว่าหนูไม่มีใครเอาได้ไง >[]
"โบ๊ทมานี่เลย มาช่วยกันแกะสลัก"
"ไม่เอาอะแม่ให้ผมแทงคนอะได้อยู่ -_- "
"มาช่วยกันเลยเร็วๆ เอาผักไปล้างก็ได้วันนี้แขกคนสำคัญของพ่อเบย์เลยนะ!"
"ก็ได้ๆ ไม่เห็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่ผมเลยแม่!"
"ไอ้ลูกคนนี้เดี๋ยวเถอะ!!"
ดูเหมือนว่าทั้งบ้านจะมีเพียงแค่ลัลลาเบลคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องคู่หมั้นคู่หมายของตัวเอง ส่วนโบ๊ทพ่อไบร์ทคงบอกไปแล้วถึงได้ฝืนสังขารลงมาช่วยงานในครัว
"โบ๊ทแกทำอะไร!!" ฉันหันไปมองผลงานชิ้นโบว์แดงของมันแล้วถึงกับตกใจ นี่มัน...
"แกะสลักเป็นรูปควายไง สวยใช่ไหม"
"ฮะๆๆๆ ชอบๆๆ เอามั่งดีกว่า"
หลังจากนั้นสองพี่น้องก็แกะสลักสัตว์นาๆชนิดโดยที่โบ๊ทเป็นคนรับจบด้วยการจัดใส่จานเอาไว้รอว่าที่คู่หมั้นของพี่สาวที่กำลังเดินทางมา
เมื่อถึงเวลาผู้ใหญ่ฝ่ายชายเดินทางมาถึงต้นหอม หมอเบย์ คุณไบร์ทและคุณอาทิตย์ก็รีบออกไปต้อนรับ ส่วนเด็กๆคุณพลอยกำลังจับแต่งตัวให้เรียบร้อยเพราะลัลลาเบลเธอลงมาในชุดนอนลายหมี
"หล่อจริงๆเลยนะคะ ได้ยินคุณหมอพูดถึงบ่อยๆ หอมไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้"
"ทางนี้ก็อยากจะเห็นหนูลัลลาเบลจะแย่แล้วค่ะ"
วาโยมองไปรอบๆบ้านที่มีบอดี้การ์ดยืนคุมอยู่แทบทุกจุด จนกระทั่งคุณพลอยเดินลงมาพร้อมกับสองพี่น้องที่ทำหน้าเหมือนเด็กอดนอน
"เบลมาหาพ่อหน่อย" หมอเบย์เรียกลูกสาวตัวดีจนเธอเดินคอตกเข้ามาในห้องรับแขก เธอเดินเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือผู้ชายที่ช่วยเธอไว้ในคืนนั้น
"พี่!!"
"เฮ๊ยน้อง!"
"วาโยลูกรู้จักหนูเบลเหรอลูก" คุณแม่ของชายหนุ่มรีบหันมาถาม ลัลลาเบลจึงยกมือไหว้ทุกคนอย่างนอบน้อม
"คือ...เคยเจอกันครับแม่ ผมไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว"
ต้นหอมเริ่มหวั่นใจกลัวว่าฝ่ายชายจะไม่อยากคบหาหรือหมั้นหมายกับลูกสาวของเธอ ส่วนคุณไบร์ทและลูกชายก็มองวาโยอย่างพิจารณา สายตาที่เขามองลัลลาเบลเหมือนจะไม่ค่อยถูกชะตาซะมากกว่า
"หนูเบลทำความรู้จักกับพี่วาโยไว้นะลูก อนาคตต้องเกี่ยวดองกัน ปีหน้าป้าจะมาขอหมั้นเรียนจบจะได้ตบแต่งกันดีไหมลูก"
"ใครจะแต่ง!"
น้ำเสียงของลัลลาเบลเปลี่ยนไปทันที เล่นเอาผู้ใหญ่ทุกคนหน้าเสียกันไปหมด
"เบลเรื่องนี้พ่อยินยอมนะลูก เบลควรมีคนดูแล และพี่วาโยก็เป็นคนดี พ่ออยากให้ลองศึกษากันไว้ 1ปีถ้าลูกจูนกันไม่ได้ จะไม่หมั้นไม่แต่งพ่อก็ไม่ว่า"
"คุณพ่อ..."
"หมอเบย์คะ ไม่เป็นไรค่ะดิฉันเข้าใจ ให้เด็กได้ศึกษาดูใจกันไปก่อนดีกว่า เรายังมีเวลาค่ะ"
///วาโย///
ไม่รู้โลกกลมหรือชาติที่แล้วผมไปทำอะไรไว้ ทำไมว่าที่คู่หมั้นของผมถึงเป็นยัยเด็กนี่ ดูก็รู้ว่าใจแตก เหอะ! แม่นะแม่จะหาเมียให้ผมทั้งทีหาที่มันดีๆกว่านี้ไม่ได้หรือไง ลูกแม่บ้านผมยังเรียบร้อยกว่ายัยนี่เลย
ถึงเวลาทานข้าวเธอรับหน้าที่ตักข้าวให้ผมและทุกคน รวมถึงอาหารจานพิเศษที่เอามาเสิร์ฟผมแค่คนเดียว ปิดฝามาด้วยถ้ามีแมลงสาบนะจะกรี๊ดให้
"ตายจริงมีของพิเศษของพี่เขาด้วยเหรอลูก" ต้นหอมยกยอลูกสาวที่ทำตัวน่ารักรู้จักเอาใจว่าที่คู่หมั้น
เธอไม่ตอบแต่มองสบตาผมแปลกๆ แบบนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ที่รู้ๆผมไม่เปิดแน่นอน เพราะสายตาที่มองกันเหมือนมีแรงไฟฟ้าสถิตอยู่ตลอดเวลา
"เด็กๆดูเข้ากันได้นะครับ"
ขวับ!! ผมหันไปมองหน้าคุณพ่อผมที่พูดอะไรน่าขนลุกออกมา พ่อพูดออกมาได้ไงว่าเข้ากันได้ ให้ตายผมก็ไม่เอายัยเด็กนี่ทำเมียแน่
"อันนี้เจ้ผมหัดแกะสลักครับ ติชมได้ ^^"
ผมมองหน้าน้องชายของเธอที่ยกยิ้มอยู่ข้างคุณไบร์ท ทำไมผมรู้สึกไม่ดีเลยวะ ไม่เสี่ยงดีกว่า
"มาวาโยแม่เปิดให้^^"
ผ่าง!!!!