Chapter 3 อ่อยเก่ง

1343 คำ
• Nott part “ว่าไง” (ไอ้เวย์แม่งไม่จบ) “อือ เดี๋ยวกูไป” ผมวางสายไอ้ธูป ขับรถออกจากหอเหมือนฝันด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด แล้วยังเผลอเหยียบคันเร่งในขณะที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีส้ม คาดว่าคงมีใบสั่งส่งไปถึงบ้านให้พ่อกับแม่บ่นอย่างแน่นอน แต่ช่างเถอะ เพราะมันคือเรื่องที่ยังไม่เกิด ตอนนี้ผมต้องโฟกัสปัจจุบัน อย่างการรีบไปจัดการไอ้ห่าเวย์ “อย่าหงอยดิวะ ทำไมไม่เก่งเหมือนตอนแรก เห็นคนเยอะเข้าหน่อยคอหดเลยละสิ” แค่เดินเข้าใกล้ ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน คาดว่าเป็นไอ้เวย์กับพวก ที่กำลังทำตัวได้ใจอยู่ตอนนี้ “แล้วมึงละ เก่งนักรึไง” ได้ยินเสียงผม ไอ้ธูปรวมถึงเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ขยับตัวหลีกทางให้ ผมเดินขึ้นไปเผชิญหน้ากับไอ้เวย์แล้วก็พวกของมัน กะจากสายตาน่าจะประมาณสิบคนได้ “มาแล้วเหรอ ได้ข่าวว่าไปส่งยัยเด็กนั่น ว่าแต่ส่งถึงเตียงป่ะ” มันถามผมด้วยสีหน้ายียวน พอเห็นผมไม่โต้ตอบก็พูดขึ้นมาอีก “บอกกันบ้างสิวะ อยากรู้ว่าเด็ดเปล่า” “กูว่า ถ้าปากมึงพูดเรื่องดีไม่ได้ ก็เก็บไว้กินข้าวอย่างเดียวจะดีกว่า” “มึงแคร์อะไรยัยนั่นนัก หรือมันเป็นเมียมึง? ก็อย่างว่า มันตามจีบมึงต้อย ๆ จะเหลือเหรอ เป็นกู กูก็จัด” ว่าจบมันก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง เสียงของมันระคายหูผมอยู่มาก ชักเริ่มอยากจะทำให้ปากหมา ๆ ของมันพล่ามไม่ได้ ทั้งที่ก่อนมาตั้งใจแล้วแท้ ๆ ว่าจะไม่ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมยังไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ไอ้เวย์พูดอะไรกับเหมือนฝันเธอถึงได้ปรี๊ดแตก ถึงภาพลักษณ์จะเป็นผู้หญิงแรง ๆ แต่เธอไม่ใช่คนพูดอะไรไม่คิด ดังนั้นการที่ไอ้เวย์โดนเธอด่า แสดงว่าการกระทำของมันสมควรแล้ว “กูไม่จำเป็นต้องบอกให้มึงรู้” คนอย่างมันสำคัญอะไรให้ผมพูด ผมเลือกยกมือลูบท้ายทอยขณะจ้องไอ้เวย์ด้วยสายตาอันว่างเปล่า เอียงซ้ายทีขาวทีเพื่อคลายกล้ามเนื้อช่วงต้นคอ “ว่ามาเลยดีกว่าว่ามึงจะเอายังไง กูเสียเวลามากพอแล้ว” “ปากดีนักนะมึง” “อือ ใครจะปากหมาอย่างมึงละ” “ไอ้เหี้ยน็อต!” ไอ้เวย์กันฟันกรอด มือกำเข้าหากันแน่นทั้งสองข้าง ตอนนี้มันคงโกรธควันออกหู แต่ไม่รู้ทำไมยังคงยืนอยู่ที่เดิม แน่จริงก็ลองเดินเข้ามาสิ จะได้รู้ว่าความโกรธที่แท้จริงเป็นยังไง “พวกมึงเล่นอะไรอยู่ ขอแจมด้วยได้ป่ะ” ผมละสายตาจากไอ้เวย์เป็นเจ้าของเสียงขี้เล่นเมื่อสักครู่ พอเห็นว่าเป็นใครผมก็ถึงกับลอบถอนหายใจ “เงียบทำไม หรือกูขอเล่นด้วยไม่ได้?” มันมองฝั่งผม สลับกับฝั่งของไอ้เวย์ ผมแน่ใจว่ามันเข้าใจว่าสถานการณ์เป็นยังไง แต่ก็ยังอยากสอด ตามประสาคนขี้เสือก “ไปไหนก็ไปไป่” ผมสะบัดแขนที่ตั้งท่าจะพาดลงมาบนลาดไหล่ให้ถอยห่าง “อย่าใจร้ายนักสิวะ มีเรื่องสนุกไม่แบ่งกันได้ยังไง” “กูไม่มีอารมณ์เล่นกับมึงหรอกนะฟิลด์” “ก็ไม่ได้มาเล่น แต่มาช่วย” ผมถอนหายใจออกมาให้มันได้ยิน แถมด้วยการกรอกตาอีกหนึ่งรอบ แต่คนพูดมากก็ยังไม่ยอมหยุด “กูว่ามึงกลับไปเถอะ สู้ไปก็ไม่คุ้ม” ไอ้ฟิลด์ปัดมือไล่ “ใหญ่มาจากไหน มีสิทธิ์อะไรมาสั่งกู” ไอ้เวย์ถามเสียงแข็ง “กูก็โตมาจากท้องแม่กูนะสิ ถามโง่ ๆ” ไอ้เคกับไอ้หยากลั้นขำ แต่สุดท้ายก็หัวเราะจนดังลั่น ผมยกมือกุมขมับ หัวปวดตุบ ๆ กับความกวนตีนของไอ้ฟิลด์ “เล่นมันเลยไหม” หนึ่งในพวกของไอ้เวย์พูดขึ้น “คิดดีแล้วเหรอ ที่มึงจะมีเรื่องกับน้องเจ้าของผับอย่างกู” ไอ้ฟิลด์ชี้มือเข้าหาตัวเอง “แค่กูดีดนิ้วครั้งเดียว การ์ดตัวโต ๆ ที่อยู่ตรงนั้นก็พร้อมใจแจกยำตีนพวกมึงฟรี เอายังไง ยังอยากเล่นกูอยู่ไหม?” “แน่จริงมึงก็อย่าหมาหมู่” “เผอิญว่ากูไม่แน่ซะด้วยสิ กูสนแค่ผลลัพธ์ ไม่สนหรอกวิธีการ” “พอแล้ว” ผมเบรกไอ้ฟิลด์ที่กำลังยิ้มหน้าระรื่นอย่างกวนตีน มันไหวไหล่เดินถอยไปด้านหลัง แล้วปล่อยให้ผมจัดการต่อ “กูไม่อยากมีปัญหากับมึงหรอกนะเวย์ ยังไงเราก็คงหนีกันไม่พ้น เพราะฉะนั้นให้มันจบแค่นี้จะดีกว่า” ยังไงผมกับมันก็ต้องเรียนด้วยกันอีกสองปี คงไม่ดีถ้าจะเอาแต่เขม้นกันไม่ยอมเลิก ผมมาเรียนก็อยากตั้งใจเรียน ถึงพร้อมบวกแต่ถ้าไม่ได้บวกมันก็คงจะดีกว่า อีกอย่างผมไม่อยากให้พวกไอ้ฟิลด์เข้ามามีปัญหาด้วย สุดท้ายไอ้เวย์ก็ล่าถอย จะด้วยกำลังคนทางผมมีมากกว่า หรือว่ามันคิดได้ไม่อยากจะเจ็บตัว แต่ด้วยอะไรก็ช่างเถอะ ไม่มีการปะทะก็ถือว่าดีแล้ว แต่ก่อนไป ผมให้ไอ้เวย์รับปากว่าจะไม่ไปยุ่งกับเหมือนฝัน มันดูไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมพยักหน้า “ไอ้เราก็อุตส่าห์ดีใจ ว่าจะได้ยืดเส้นยืดสาย” “ยืดเส้นยืดสายบ้านมึงสิ” ผมโยนถั่วในมือใส่ไอ้ฟิลด์ “ไฟไหม้ แทนที่จะเอาน้ำดับ แต่มึงดันเอาน้ำมันราด” “ทรงมันกวนตีนนี่หว่า สรุปมันทำอะไรให้” “มันลวนลามรุ่นน้องกู” “หน้าตาไม่ดีแล้วยังนิสัยเหี้ย” “แหม๋พ่อคุณ พูดอย่างตัวเองดีมากมั้ง” ไอ้หยาค่อนขอดอย่างหมั่นไส้ “ของมันก็เห็นอยู่ หรือจะเถียง” ผมส่ายหน้าเมื่อพวกมันสองคนเริ่มตีกันอีกแล้ว ไม่รู้คบกันมาถึงตอนนี้ได้ยังไง ในเมื่อกัดกันทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ “ว่าแต่พี่มึงเป็นเจ้าของผับ?” ผมถามไอ้ฟิลด์ถึงเรื่องที่มันโม้ไว้ก่อนหน้านี้ “เออ หุ้นกับเพื่อนมันอีกสองคน” “แล้วไม่บอกพวกกูวะ จะได้ขอกับแกล้มฟรี” “มึงจะขอฟรีได้ไงธูป ขนาดกูที่เป็นน้อง มันยังบอกให้จ่ายเต็ม” ผมส่ายหน้าเมื่อเห็นสีหน้าเหม็นเบื่อของไอ้ฟิลด์ ผมรู้จักไอ้ฟิลด์ ไอ้หยา แล้วก็ไอ้เควันรับน้องรวมของมหา’ ลัย พวกมันเข้ามาพยุงผมตอนที่ผมเล่นเกมแล้วเท้าพลิก จากนั้นมาก็นัดกันเตะบอลอยู่บ่อย ๆ ถึงพวกมันจะเรียนสถาปัตย์ ส่วนผมเรียนบริหาร แต่ว่าผมก็สนิทกับพวกมันมาก อาจจะมากกว่าเพื่อนร่วมคณะอย่างไอ้เวย์แล้วก็อีกหลาย ๆ คน ตืด~ ตืด~ แรงสั่นจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมต้องละมือจากแก้วเหล้า เอนตัวไปกับโซฟาเล็กน้อยเพื่อดึงอุปกรณ์สื่อสารออกมา ฝัน ที่เหมือนฝัน : ถึงห้องรึยังคะ? ผมอ่านแต่ไม่ตอบ แล้วไม่นานก็ส่งเข้ามาอีก ฝัน ที่เหมือนฝัน : คืนนี้อย่าลืมฝันถึงฝันด้วยนะคะ สุดหล่อ ฝัน ที่เหมือนฝัน : อีโมจิเด็กผู้หญิงทำปากจู๋ “อ่อยเก่งไม่มีใครเกิน” ผมเก็บโทรศัพท์กลับที่เดิม ไม่ได้คิดจะตอบอะไรกลับ “แฟน? ชื่อน่ารักแฮะ” “ไอ้ห่า ทำไมเสือก” ผมดันหน้าไอ้ฟิลด์ให้ถอยห่าง ไม่รู้สึกตัวเลยว่ามันขยับมาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ “มีบอกมี เพื่อนไม่ว่าอะไรหรอก” “สัส!” End part.
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม