"คืนนี้คงต้องนอนที่นี่" สิ้นคำพูดของเขาทำให้ฉันอ้าปากค้างทันที เขาที่กำลังเดินมานั่งข้างๆฉัน ทำให้ฉันขยับออกห่างโดยไว
"ฉันไม่น่ามืดทำอะไรทอมอย่างเธอหรอกนะ" ปากนะปาก เขาจะพูดดีๆกับฉันไม่ได้หรือไง
"ฉันไม่ได้เป็นทอมสักหน่อย" ทว่า เขากลับโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนทำให้ฉันถอยชิดกำแพง สายตาที่มองลงมาที่ริมฝีปากของฉันมันทำให้เกิดอาการประหม่า
"อย่าคิดทำอะไรบ้าๆนะ" ฉันเม้มปากแน่น ฉันไม่ยอมเสียจูบเป็นครั้งที่สองให้ผู้ชายเจ้าชู้แบบเขาแน่ๆ
"ทำไม ทำเหมือนเราไม่เคยจูบกันอย่างงั้นแหละ" ฉันรีบผลักเขาออกทันที แต่เสียงหัวใจฉันที่กำลังเต้นรัวๆมันพลอยทำให้หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมา เขามันอันตรายต่อหัวใจฉันจริงๆ
"ฉะ ฉันง่วงแล้ว" ว่าจบก็ล้มตัวนอนทันที มีเสือแบบเขานอนอยู่ข้างๆ คืนนี้ฉันจะนอนหลับไหมเนี่ย ฉันพยายามข่มตานอน แต่สุดท้ายต้องเบิกตากว้างทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆพาดอยู่ที่เอว และมันก็คือแขนของร่างสูงที่นอนข้างกาย
"นี่ หมออย่าทำเป็นเนียนนะ ปล่อยเดี๋ยวนี่นะ" ฉันที่นอนหันหลังให้เขาทำให้รู้สึกถึงลมหายใจที่กำลังรินรดต้นคอของฉันอยู่
"ถ้าฉันไปเป็นนายแบบให้มหาลัย เธอจะออกไปจากชีวิตฉันจริงๆใช่ไหม" คำถามของเขาทำให้ฉันหยุดชะงักทันที
"หมอก็อยากให้ฉันออกไปจากชีวิตหมออยู่แล้วนี่ แล้วจะถามฉันทำไมล่ะ" เขาไม่พูดอะไรแล้วนอนหันหลังให้ฉันทันที อะไรของเขา สงสัยจะเพี้ยนแฮะ
"นี่นายเป็นอะไรอ่ะ วันนี้นายแปลกไปนะ" ฉันสะกิดแขนเขาเบาๆ แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบกลับ สงสัยจะหลับแล้ว ฉันจึงลุกมานั่งมองไปยังเขาที่กำลังหลับตาอยู่ เหตุการณ์วันนี้ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวในอดีดขึ้นมาทันที
"นายรู้ไหม ตอนเด็กๆฉันมักจะไม่มีเพื่อนคนไหนที่อยากคบฉันเลย ทุกคนต่างพากันบอกว่าฉันเป็นปีศาจ ตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมากๆเลยนะ ฉันกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนคบ จนกระทั่งฉันเจอ มอคค่า ธาม เต้ และฟ้าใส พวกเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลยล่ะ" ฉันนั่งยิ้มพร้อมกับพูดกับร่างสูงที่หลับอยู่ หมับ!! ฉันไปมองคนข้างที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือมากุมมือฉัน
"นะ นายยังไม่หลับเหรอ" เขาไม่ตอบแล้วมองหน้าฉันนิ่งๆ
"ถ้าเธอไว้ใจฉัน เธอก็พูดมาเถอะ" แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ
"จริงๆแล้วฉันเคยถูกตามฆ่า"
ย้อนไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว
เวลา 23:50 คืนวันพระ
"ป้าพรคะ หนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ" ฉันเอ่ยปากบอกป้าพร ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารที่ฉันรับจ้างล้างจานอยู่ ด้วยฐานะที่บ้านของฉันไม่ได้รวย ฉันจึงช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่
"จ้ะ กลับบ้านดีๆนะ" ฉันพยักหน้าพร้อมกับเดินออกจากร้าน ระหว่างทางฉันเดินไปเรื่อยๆซึ่งทางก็เริ่มมืดขึ้นไปเรื่อยๆเช่นกัน จนกระทั่งฉันเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีดำ ปิดหน้าปิดตา แต่แววตาของเขากลับทำให้ฉันรู้สึกกลัว
"ไง โตขึ้นเยอะแล้วนี่ ฉันไม่น่าไว้ชีวิตแกเลยจริงๆ" ผู้ชายตรงหน้าก็ชักปืนมาจ่อที่ฉัน ทันใดนั่นฉันก็รีบวิ่งทันทีเมื่อรู้ถึงภัยอันตราย ด้วยความตกใจทำให้ฉันวิ่งล้ม และไม่นานผู้ชายคนนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน เพราะความตื่นกลัวน้ำตาจึงไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"อย่าฆ่าหนูเลย ไว้ชีวิตหนูเถอะ" ฉันยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนให้ผู้ชายคนนั้นไว้ชีวิต
"หึ ฉันคงไว้ชีวิตหนูไม่ได้หรอก เพราะการที่หนูมีชีวิตอยู่มันทำให้ฉันเดือดร้อน" ฉันรีบลุกแล้ววิ่งทันที คล้ายกับการดิ้นรนชีวิตเพื่อให้ได้อยู่รอด
"ช่วยหนูด้วย ใครก็ได้ช่วยหนูที" ฉันวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งฉันหยุุดวิ่ง และวันนั้นก็คือวันตายของฉัน เมื่อข้างหน้าเป็นแม่น้ำ ฉันเงยหน้าไปมองพระจันทร์ที่กำลังเต็มดวงสวยงามพร้อมน้ำตาที่ค่อยไหลออกมาไม่หยุด
"หึ หมดทางหนีแล้วล่ะสิ" ผู้ชายคนนั้นที่จ่อปืนมาที่ฉัน ปัง!! ปัง!! อึก กระสุนสองนัดที่มุ่งเข้ามาหาฉัน ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดที่อกข้างซ้ายมาก เพราะคืนนี้มีพระจันทร์เต็มดวงทำให้ฉันมองเห็นรอยสักรูปดอกกุหลาบอยู่ที่หลังมือขวาของผู้ชายคนที่ยิงฉัน ตู๊ม ก่อนที่ร่างฉันจะตกลงสู่แม่น้ำ ฉันพยายามว่ายน้ำหาทางรอดแต่ร่างกายฉันกลับไม่ตอบสนอง และขณะที่ร่างฉันกำลังจมลงสู่เบื้องล่าง ก็ปรากฎร่างผู้ชายคนหนึ่งที่กระโดดลงมาช่วยฉัน ซึ่งเขาก็คือพ่อ พ่อที่ช่วยฉันแต่ท่านกลับทิ้งฉันไปแทน
จนกระทั่งวันหนึ่งฉันฟื้นลืมตาขึ้นมาที่ห้องดับจิต ก็ปรากฎร่างผู้ชายที่เคยอยู่กับฉัน ผู้ชายที่พาฉันไปโรงเรียนทุกวัน ผู้ชายที่คอยปลอบใจฉันเวลาฉันร้องไห้ ซึ่งตอนนี้เขาไม่หายใจแล้ว
"ฮือ พ่อตื่นสิ อย่าทิ้งหนูไป พ่อตื่นสิ" ฉันเขย่าร่างไร้วิญญาณทั้งที่รู้โดยตลอดว่าร่างไร้วิญญาณของท่านไม่มีวันลืมตามาพูดคุยกับฉันได้อีก
ปัจจุบัน
น้ำตาที่กำลังไหลออกมา "ทำไมต้องเป็นพ่อฉันด้วย ทำไมไม่เป็นฉัน" ร่างสูงค่อยดึงตัวฉันเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจ
"แม่บอกว่าพ่อเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจกำเริ่บตอนไปช่วยฉัน และวันที่ฉันได้ออกจากโรงพยาบาลฉันก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน นั่นก็คือฉันสามารถมองเห็นวิญญาณ จนบางครั้งแม่ต้องพาฉันไปพบจิตแพทย์แต่กลับไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกๆครั้งที่ฉันเห็นแม่น้ำฉันมักจะคิดถึงพ่อฉันตลอด ฉันกลัวการเข้าใกล้มัน" มือหนาค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ฉัน พร้อมกับจับปลายคางฉันขึ้นเพื่อสบตากับเขา
"เพราะแบบนี้สินะ เธอถึงมักทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงตลอด " เขาส่งยิ้มมาให้ฉันเป็นรอยยิ้มที่รู้สึกปลอดภัยมากๆ "ฉันจะไปเป็นนายแบบให้มหาลัย"
"ถ้ามันฝืนใจ หมอไม่ต้องทำก็ได้นะ"
"ฉันเต็มใจ แต่มีข้อแม้" ฉันมองเขาทันที รอยยิ้มที่อบอุ่นตอนนี้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที
"ข้อแม้อะไร" เขาค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
"เธอต้องไปเป็นคู่ถ่ายแบบให้ฉัน" ฉันเบิกตากว้างทันที นี่มันอะไรกัน
"ฉันว่านีน่าดาวคณะบริหารก็ดีอยู่แล้วนี่ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ และอีกอย่างอาจารย์ไม่มีทางยอมแน่ๆ" แถเข้าไปค่ะ คนอย่างฉันเนี่ยนะไปถ่ายแบบไม่มีทางค่ะ ให้ไปต่อยมวยยังง่ายกว่าเลย
"งั้นฉันก็จะไม่ช่วยเธอ"
"โอเคๆ ฉันยอม" จุ๊ป ฉันเบิกตากว้างเพราะจู่ๆเขาก็โน้มหน้าเข้ามาจูบปากของฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
"นายทำอะไรของนายห้ะ"
"รางวัลไง มัดจำไว้ก่อน" ว้าว ไอ้หมอเจ้าเล่ห์
กลิ่นหอมทำให้ฉันตื่นลืมตาขึ้นมาก็พบกับเจ้าของร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆ แถมยังกอดฉันอีกด้วย ฉันค่อยๆยกแขนหนักๆของเขาออกจากตัว หมับ!! และฉันต้องตกใจอีกครั้งเมื่อร่างสูงกระชับกอดแน่นขึ้น
"จะไปไหน เธอควรดีใจนะเพราะฉันไม่เคยนอนกอดผู้หญิงคนไหนเลย" อย่าบอกนะว่านายนี่ฟันแล้วแยกทาง โห่ เหลือเชื่อ แล้วฉันจะยิ้มทำไมเนี่ย
"มาบอกฉันทำไมไม่ทราบ แล้วก็กรุณาปล่อยฉันด้วย"
"โอ้ย ฉันเจ็บนะ" เขานิ่วหน้าพร้อมกับลูบแขนตัวเอง
"คนชอบฉวยโอกาสแบบนาย ต้องเจอแบบนี้แหละ" ฉันลุกเดินออกมาข้างนอกทันที
"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน" หญิงชราคนนั้นส่งยิ้มมาให้พร้อมพยักหน้า
"งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ" ฉันยกมือไหว้ก่อนที่จะเดินนำหน้าหมอต้าที่กำลังเดินตามฉันมา เขาเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ ฉันสะบัดหน้าเบาๆเพื่อไม่ให้คิดเรื่องนี้อีก
เมื่อเดินมาไม่นานก็ถึงที่พัก ทุกคนต่างจับจ้องมาที่ฉันกับหมอต้าทันที
"มะนาวมึงเป็นไงบ้างวะ พวกกูเป็นห่วงแทบแย่" ฉันเดินไปตบแขนธามเบาๆ
"ฉันไม่ตายง่ายหรอกน่า"
"ต้าหายไปไหนมา มินนี่เป็นห่วงนะคะ" ยัยนี่หายเร็วกว่าที่คิดไว้แฮะ
"ผมขอตัวก่อนนะ" ฉันมองหมอต้าที่กำลังเดินเข้าไปในที่พัก โดยปล่อยให้ยัยมินนี่ยืน งง อยู่คนเดียว ฉันส่ายหัวเบาๆ
" นี่เธอ ถ้าผู้ชายเขาไม่อยากเล่นด้วย ก็อย่าเสียเวลาตามตื้อเขาเลย มันจะทำให้เธอมีค่าน้อยลงนะ" มินนี่หันมามองฉันด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่
"เธอเป็นใครถึงมาสอนฉัน หัดดูสารรูปตัวเองบ้างนะ ผู้ชายก็ไม่ใช่ ผู้หญิงก็ไม่เชิง" ทำคุณบูชาโทษจริงๆ ฉันค่อยๆเดินไปหายัยมินนี่อย่างใจเย็น เจอยัยนี่ทีไร ชวนไฟร้อนประทุทุกครั้ง
"แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาด่าฉัน เธอเคยเห็นเวลาพวกชาววิศวะเลือดร้อนไหม มันเป็นยังไง เธออยากเห็นหรือเปล่าฉันจะได้ทำให้ดู" ยัยมินนี่มองหน้าฉันด้วยอาหารสั่นนิดๆ หึ คงกลัวสินะ
"พอเลยไอ้นาว แกจะไปแกล้งเขาทำไม" ฉันยกยิ้มแล้วยืนกอดอกมองยัยมินนี่ที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในที่พัก
" เกิดมาพึ่งเคยพบเคยเห็น ผู้หญิงอะไรตามผู้ชายต่อยๆ"
" แกก็ตามหมอต้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ"
โป้ก ฉันตีหัวไอ้เต้ จนทำให้มันนิ่วหน้าเจ็บ "มันไม่เหมือนกันเว้ย" ฉันกระโดดขี่หลังไอ้เต้ทันที ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากแกล้งมันเฉยๆ
"เฮ้ย แกจะขี่หลังฉันทำไมวะไอ้นาว"
"เขาเจ็บขาอ่ะ เต้เต้ ช่วยพาเขาไปที่พักหน่อย"
ฉันที่ขี่หลังเต้อย่างสบายใจ จู่ๆก็ต้องชะงักเมื่อพบกับสายตาคู่หนึ่งมองมาที่พวกเรา
"เป็นอะไร ทำไมต้องขี่หลังกันด้วย"
"อ้อ ไอ้นาวมันบ่นว่าเจ็บขา แล้วมันก็กระโดขี่หลังผมนะหมอ" แกจะบอกเขาทำไมวะไอ้เต้ ฉันแค่แกล้งแกเฉยๆเอง
" ลงมาเดี๋ยวนี้ มันไม่เหมาะสม" ตุ๊บ จู่ๆไอ้เต้ก็ปล่อยฉันลงโดยไม่บอกกล่าวทำให้ฉันรู้สึกปวดที่ข้อเท้าขึ้นมาจริงๆ
"งั้นฝากหมอด้วยนะ" จู่ๆไอ้เต้ก็วิ่งออกไปทันที
" เอ้าเฮ้ย ไอ้เต้ทิ้งฉันได้ไง ฉันเพื่อนแกนะเว้ย"ตะโกนเรียกดังแค่ไหนเต้ก็ไม่กลับมา ชิ๊ ฉันหันไปมองหมอต้าที่กำลังยืนมองฉันอยู่ เขาเป็นอะไรไป
"จะลุกขึ้นได้ยัง" ฉันค่อยๆ พยุงตัวเองลุก แกรก "โอ้ย" ฉันจับไปที่ข้อเท้าเพราะรู้สึกเจ็บขึ้นมา แกล้งเขาจนได้เรื่องไหมล่ะไอ้นาว ทว่า จู่ๆมือหนาก็จับข้อเท้าฉันพร้อมกับนวดเบาๆ
"มะ หมอจะทำอะไร"
"ข้อเท้าเธอคงเคล็ดนะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันให้ไอ้เต้นวดให้ก็ได้" เขามองกน้าฉันนิ่งๆ ทำไมฉันพูดอะไรผิด สมัยเด็กๆตอนที่ฉันซ้อมมวย ไอ้เต้นี่แหละที่เป็นหมอนวดชั้นดีของฉันเลยล่ะ
"ทำไม ฉันแตะต้องตัวเธอไม่ได้เลยหรือไง" แล้วทำไมต้องโมโหด้วยเล่า
"แล้วทำไมหมอต้องทำเหมือนไม่พอใจด้วยเล่า" ขณะนั้นเอง จู ๆ ร่างฉันก็ลอยขึ้นหมอต้าที่กำลังอุ้มฉันเดินไปในเต็นท์
"หมอปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นซ่ะหน่อย" เขาปล่อยฉันลงในเต็นท์โดยที่มีเขาเข้ามาด้วย เขาค่อยๆขยับเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ
"ถ้าหมอเข้ามาอีกนิด หมอได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่" ฉันตั้งการ์ดขึ้นมาเพื่อขู่คนตรงหน้า เขาส่ายหน้าก่อนจะยิ้มออกมา "โอ้ย หมอจะฆ่าฉันหรือไงเนี่ย" จู่ๆคนตรงหน้าก็จับข้อเท้าฉันหัก จนน้ำตาเล็ด ฉันค่อยๆขยับข้อเท้าเบาๆ ซึ่งตอนนี้ไม่รู้สึกปวดแล้ว
"รู้สึกยังไงบ้าง" เขาถามฉันแบบหน้านิ่งๆ
"อืม หายแล้วล่ะ ขอบใจนะ"