บทที่ 15 ความจริง

1356 คำ
“คุณย่า!” คาริสาเอ่ยเรียกท่าน ก่อนจะวางช้อนลง แล้วยกมือไหว้อย่างทุลักทุเล “หนูเคส! ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วแขนไปโดนอะไรมา” “เคสเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ แดนก็เลยอาสาดูแล” “ตายจริง! เจ็บมากไหมลูก แล้วหลานย่ามันทำอะไรหนูหรือเปล่า” “แดนเขาดูแลเคสเป็นอย่างดีเลยค่ะคุณย่า ถ้าเคสไม่ได้แดนมาช่วยก็คงจะแย่กว่านี้” บทสนทนาของคาริสากับย่าน้อยดูสนิทสนมกัน จนลูกน้องที่วิ่งตามมาเมื่อครู่ทำหน้างง คิดว่าจะเกิดเรื่องซะแล้ว “ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูเคสเป็นการส่วนตัว พวกเธอออกไปก่อน” ย่าน้อยหันไปสั่งลูกน้องทุกคนที่ยังยืนอึ้งอยู่ในห้อง คาริสาทานขนมอีกคำสองคำแล้วดื่มน้ำผลไม้เพียงนิด ก่อนจะส่งสัญญาณให้ป้าแม่บ้านเอาของว่างออกไปด้วย “หนูยังเจ็บอยู่ไหม ย่ามารบกวนหนูหรือเปล่า” ย่าน้อยเดินมานั่งข้างเตียงพลางกุมมือคนเจ็บเพื่อส่งกำลังใจ “อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ คุณย่าสบายดีนะคะ ไม่ได้เจอตั้งนานยังแข็งแรงเหมือนเดิมเลย” ถึงแม้ว่าย่าน้อยจะอายุหกสิบปีปลาย ๆ แต่ท่านก็ยังคงแข็งแรง เนื่องจากดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี “ว่าแต่คุณย่ามาหาแดนมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ย่าแวะมาเยี่ยมตาแดนน่ะ ตั้งแต่กลับมาไทยตาแดนก็ไม่เคยไปหาย่าเลย เอาแต่ทำงานอยู่นั่นแหละ” “แดนนี่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ปล่อยให้คุณย่าเหงาได้ยังไงเนี่ย” คาริสาบ่น “เจอหนูก็ดีแล้ว ย่ามีเรื่องจะให้ช่วย” “ช่วย? เรื่องอะไรคะ” “ปลายเดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งประธานบริษัทฯ คนใหม่ ตอนแรกย่ากะจะให้หนูมาเซอร์ไพรส์ตาแดน แต่น่าเสียดายที่เราสองคนเจอกันก่อนแล้ว” “คุณย่ามีแผนอะไรหรือเปล่าคะ เคสช่วยทำตามแผนของคุณย่าได้นะคะ” “เอาไว้เดี๋ยวย่าคิดออกจะบอกหนูนะ หลานย่านี่มันจริง ๆ เลย นอกจากจะได้เจอหนูแล้ว ยังพาหนูมาอยู่ด้วยอีก ตาแดนมันขู่บังคับอะไรหนูหรือเปล่า” “ไม่เลยค่ะ คุณย่าก็รู้ว่าไม่มีใครบังคับเคสได้” “แล้วมันกล่อมหนูด้วยวิธีไหนล่ะ” “ไม่มีค่ะ ถ้าไม่ติดว่าเคสเจ็บอยู่ เคสก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่” คาริสาปฏิเสธทุกคำถามของย่าน้อย แต่ดูเหมือนว่าท่านจะรู้ทันคำโกหก “ไม่จริง! ถ้าหลานย่าแค่ต้องการจะช่วยดูแล มันให้หนูไปอยู่ห้องนอนรับรองก็ได้ บ้านหลังนี้ออกจะใหญ่โต ห้องนอนก็มีเยอะแยะ การที่ตาแดนให้หนูมาอยู่ในห้องนอนส่วนตัวแบบนี้ มันแปลก ๆ นะหนูว่าไหม” “...” คาริสาได้แต่ยิ้มเจื่อน ย่าน้อยรู้ทันตลอด “ย่ารู้ว่าหลานย่ามันไม่ธรรมดา หนูบอกย่ามาเถอะว่าตาแดนใช้วิธีไหน” คาริสาพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด โกหกคุณย่าไม่ได้แล้วสินะ แต่ก็เอาเถอะ ปกติเธอก็พูดกับคุณย่าได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว “แดนเขาให้เคสมาช่วยเป็นไม้กันหมา! เคสหมายถึงให้มาช่วยกันผู้หญิงที่ชอบตามตื๊อเขาน่ะค่ะ แต่ดูท่าแล้วเคสคงมาเป็นภาระมากกว่ามาเป็นไม้กันหมานะคะ” “ถ้าเป็นอย่างนั้นย่าก็คงจะทำอะไรไม่ได้สินะ” แม้คาริสาจะยอมเล่าความจริงให้ย่าน้อยฟัง แต่เธอก็บอกไม่หมด เธอจะบอกท่านได้อย่างไร ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้หญิงของแดเนียล “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณย่า ดีซะอีก แดนเขาดูแลเคสเป็นอย่างดี” คาริสาเอ่ยให้ท่านสบายใจ “ถ้าหนูนอนห้องนี้แล้วตาแดนนอนห้องไหน” คาริสาไม่พูดอะไรนอกจากอมยิ้มอย่างเขินอาย “อย่าบอกนะว่า...” “ปะ...เปล่านะคะคุณย่า ถึงเราจะนอนห้องเดียวกัน แต่เราก็นอนกันคนละที่ค่ะ คือ แดนเขานอนอยู่บนโซฟาตัวนั้นน่ะค่ะ” คาริสาใช้มือข้างที่ไม่เจ็บชี้ไปยังโซฟาตรงมุมห้อง เธอไม่ได้มีพิรุธเลยจริง ๆ “ย่าก็ไม่ได้ว่าอะไร เราทั้งคู่ก็โต ๆ กันแล้ว” ย่าน้อยพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างมีหวัง ถึงจะมีอายุมากแล้ว แต่ท่านก็ไม่ใช่คนหัวโบราณที่จะรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ “จะว่าไป ถ้าย่าเป็นตาแดน ย่าจะให้หนูมาอยู่ด้วยสักสิบปีเอาให้คุ้ม” “คุณย่า! เยอะไปแล้วค่ะ เคสก็ไม่ต้องทำอะไรเลยพอดี” “ผมเห็นด้วยครับ” เสียงนั้นดังมาจากประตูห้อง เขาคือคนที่อยู่ในบทสนทนาของคาริสากับย่าน้อย “แดน!” “ตาแดน! เป็นยังไงบ้างหลาน ตั้งแต่กลับมาไม่เห็นไปเยี่ยมย่าบ้างเลย” “งานที่บริษัทฯ เยอะจนผมไม่มีเวลาเลยครับ” แดเนียลเดินมากอดคุณย่า พร้อมหอมแก้มท่านหนึ่งทีให้หายคิดถึง “คุณย่ามีธุระต่อไม่ใช่เหรอครับ” “นายคิดจะทำอะไร คิดจะไล่คุณย่าเหรอ?” คาริสาคว้าท่อนแขนแกร่งมาหยิกแรง ๆ ให้หายหมั่นไส้ “คุณย่ามีธุระต่างหาก” แดเนียลหันไปทำสีหน้าอ้อน ๆ ให้คนเป็นย่าเห็นใจ ไม่ทันไรก็ไล่ย่าซะแล้วเจ้าหลานคนนี้ สงสัยจะอยากอยู่กับคนรักสองต่อสอง ย่าน้อยอมยิ้มกริ่ม เห็นหลานรักอยู่กับคนที่ท่านอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้แต่ไหนแต่ไร ก็ปลื้มปิติจนเก็บอาการไม่อยู่ “งั้นย่าไม่กวนแล้วดีกว่า หนูเคสจะได้พักผ่อน ย่าไปก่อนนะเดี๋ยวจะแวะมาเยี่ยมใหม่” “ไม่กวนเลยค่ะคุณย่า อยู่กับเคสต่ออีกหน่อยนะคะ” “ย่ามีธุระต้องไปต่อน่ะหนูเคส เดี๋ยวว่าง ๆ ย่าจะมาเยี่ยมใหม่นะ” ว่าแล้วย่าน้อยก็เดินจากไปอย่างรู้งาน โดยมีแดเนียลหลานรักเดินตามไปส่ง แดเนียลส่งคนเป็นย่าขึ้นรถเสร็จสรรพก็หันหลังเดินเข้าบ้านทันที เขาฮัมเพลงพร้อมกับเดินขึ้นบันไดไปอย่างอารมณ์ดี แต่เสียงสวรรค์ดังขัดเมื่อไอ้ลูกน้องเวรไม่รู้กาลเทศะตะโกนขึ้นมา “อาการคุณเคสเป็นยังไงบ้างครับนาย” เอกถามไถ่อาการของคาริสา เพราะหลังจากเกิดเหตุเขาก็ยังไม่ได้เจอเธอเลย “ไอ้เอก!” แดเนียลเค้นเสียงเรียกลูกน้องหมายจะตำหนิ “แต่จะว่าไปก็คงไม่เป็นอะไรมากหรอกนะครับ ตกบันไดสามชั้นอย่างมากก็แค่ฟกช้ำ” “อะไรนะ! เคสตกบันไดแค่...” เขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พลางก้มมองบันไดที่ตนยืนอยู่ “...สามชั้นเองเหรอ?” “ครับ” เอกขานรับแล้วยื่นแท็บเล็ตที่บันทึกภาพเคลื่อนไหวของคาริสาตอนตกบันไดให้เจ้านายดู “ตกบันไดแค่นี้ไม่น่าจะกระดูกร้าวได้นะ” “คุณเคสกระดูกร้าวเหรอครับ” “หมอบอกอย่างนั้น” “แล้วหมอจะโกหกไปทำไม” เอกเกิดความสงสัย ขนาดเขาไม่ได้เป็นหมอยังวินิฉัยได้เลยว่าคาริสาคงไม่ได้เป็นอะไรมาก “ถ้ากระดูกร้าวก็ต้องใส่เฝือกนานเป็นเดือน เธอต้องการอะไรกันแน่” แดเนียลครุ่นคิดอยู่ในใจ เขาเริ่มไม่ไว้ใจในตัวคาริสาเสียแล้ว เอกเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ จึงไล่ดูกล้องวงจรปิดทุกตัวในบ้าน “นายครับ” เขายื่นแท็บเล็ตให้เจ้านายดูอีกครั้ง เมื่อวานก่อนเกิดเหตุ คาริสาดูท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ เธอเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ราวกับกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง “เคส!” มาเฟียหนุ่มเรียกคาริสาเสียงเหี้ยม เธอกำลังจะทำในสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น ถ้าเธอลงมือเมื่อไหร่ เขาก็จะไม่ละเว้นเธอเหมือนกัน

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม