“ถ้างั้นขอสัมภาษณ์คุณพริกหวานหน่อยก็แล้วกันนะคะ หลังจากที่กลับมาจากการไปเล่นหนังที่ต่างประเทศแล้ว รู้สึกยังไงบ้างคะ?”
“อ่อ ก็ดีนะคะ ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ของตัวเองด้วย สองปีที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นต้องปรับตัวเองเยอะเลย แล้วก็ดาราดังที่ร่วมงานด้วยก็ให้การต้อนรับพริกดีมากเลยค่ะ”
“คุณพริกหวานเองก็โด่งดังจากการเป็นเนตไอดอลเหมือนกับคุณโซล รู้สึกยังไงบ้างคะที่ตอนนี้ดังไกลชนิดที่ว่าคุณเองก็รู้สึกตกใจ”
“จะถามหาเขาทำไม?” น้ำเสียงของฉันเรียบนิ่ง เพราะผู้สัมภาษณ์ดันพูดชื่อของคนที่ไม่ควรพูดขึ้นมาซะงั้น แต่พอได้สติฉันก็ปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม “ก็ไม่มีอะไรมากนะคะ ตกใจที่ตัวเองทำได้ดีกว่าที่คิดน่ะค่ะ”
“อะ อ่อค่ะ ถ้างั้นเรามีเซอร์ไพร์สให้กับคุณพริกหวานด้วยนะคะ”
“เซอร์ไพร์ส เหรอคะ?” ฉันมองไปที่หลังเวทีก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจอย่างสุดขีด เสียงกรีดร้องดังไปทั้งห้างสรรพสินค้าขณะที่ร่างสูงกำลังเดินตรงเข้ามาหาฉันด้วยใบหน้าที่... ร้ายกาจมากๆ
“ยินดีต้อนรับคุณโซลนะคะ เซอร์ไพร์สมากเลย”
เสียงปรบมือดังขึ้นตามด้วยเสียงเชียร์ชื่อฉันและชื่อของเขา โซลยื่นช่อดอกไม้ให้กับฉันที่ทำหน้าไม่ถูก เออมันตกใจนี่นา... ไอ้บ้านี้คิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย!
“ขอบใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก การมาเซอร์ไพร์สเธอเนี่ย มันเป็นอะไรที่ฉันอยากทำมากๆ เลยนะ”
“กรี๊ดดด! ไม่ไหวแล้วนะ จริงสักทีเถอะคู่นี้” มีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมา จนฉันเหวอไปในทันทีมองสบตากับพี่นพที่ขมวดคิ้วอย่างมึนงง
ไม่นะ! เขาจะมาเข้าใจผิดคิดว่าฉันกับไอ้บ้าลามกนี้เป็นแฟนกันไมได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด!
หมับ
“ปะ ปล่อยนะ”
“อะไรกัน เธอช่วยดูด้วยนะว่านักข่าวกำลังถ่ายรูปเราอยู่” โซลรั้งเอวฉันไว้ให้ยิ้มแย้มกับกล้องที่กำลังสาดแฟลช มาที่พวกเราสองคน ริมฝีปากของฉันเม้มเข้าหากัน
“นายมาทำบ้าอะไรที่นี่”
“ไม่เอาสิพริกหวาน กัดปากพูดแบบนี้ เดี๋ยวไม่สวยนะ”
O__O!
แชะๆ ~~
ใบหน้าของฉันขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของโซลที่กำลังจับจ้องริมฝีปากของฉัน นิ้วมือเรียววาดไปตามเรียวปาก จนฉันขยับตัวออกแต่เขาก็ไม่ยอม รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นจนฉันหันไปมองพี่นพ
“กำลังมองอยู่ล่ะสิ คนที่ชอบน่ะ”
“โซล...”
“ไหนๆ ก็มาพร้อมกันแล้ว เอาไงดีเนี่ยบอกเลยดีมะ”
“ยะ อย่านะ!”
“ถ้าไม่ก็อยู่เฉยๆ เบบี๋ อย่าให้ฉันต้องเหนื่อยจนปากมันขยับไปเองนะ” ฉันจ้องดวงตาคมที่ส่งความร้ายกาจออกมาให้เห็นชัดเจน
“กล้าหักหน้าฉันก็เอานะ เพราะฉันก็พร้อมจะหักดิบเธอเหมือนกัน”
“หวานกันจริงนะคะ จะได้เห็นผลงานคู่กันไหมคะเนี่ย?”
“อันนี้ต้องอยู่ที่ว่าคิวของผมกับคิวของพริกหวานจะว่างตรงกันหรือเปล่านะครับ”
“แบบนี้ก็มีให้ลุ้นคู่จิ้นรีเทิร์นอีกครั้งใช่ไหมคะ?”
“ก็คงใช่มั้งครับ ใช่ไหมพริกหวาน” โซลบีบเอวฉัน รอยยิ้มร้ายกระตุกจนฉันพยักหน้ารับ ร้ายกาจมาก! ไม่คิดว่าคนอย่างฉันจะต้องมาเสียท่าให้กับไอ้ผู้ชายใจหมาแบบนี้ โว้ย! กลับไปต้องอาบน้ำขัดตัวเองให้สะอาดหมดจด
งานเปิดน้ำหอมปิดตัวลง ฉันนั่งถอนหายใจอยู่ในห้องแต่งตัวซึ่งพี่นุชเองก็ถามฉันเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากเท่าไหร่ เหนื่อยจนจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาหนักใจกับเรื่องของโซลอีก
“ทำไมฉันจะต้องยอมนายด้วยเนี่ย ไอ้บ้า!”
“พริกหวาน”
“อะไร!”
“เออ...”
“พะ พี่นพ” ตายล่ะหว่า ดันตวาดไปซะใบหน้าหล่อยืนมึนอยู่หน้าห้อง ฉันรีบปรับสีหน้าทันทีพี่นุชออกไปก็ไม่บอก “พี่นพมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
“นุชบอกว่าต้องรีบกลับไปก่อนเห็นว่าลูกไม่สบาย ก็เลยขอร้องให้พี่ไปส่งเธอ”
รู้งานดีมากพี่นุช! ใจเต้นมากเลยนะเนี่ย กลับกับพี่นพเป็นอะไรที่ฉันวาดฝันไว้นานมากนะ
“จริงเหรอคะ พี่นุชทำไมไม่บอกพริกก่อนนะ รบกวนพี่นพเปล่าๆ”
เสแสร้างแอ๋บแบ๊วไว้นะพริกหวาน นาทีทองของเธอมาถึงแล้ว กรี๊ดดด!
“วันนี้ทำไมโซลถึงมาที่งานได้ล่ะ พี่ว่าตารางงานของเขาไม่มีอยู่ในงานนี้นี่นา”
“มะ ไม่รู้สิคะ สงสัยคงอยากเกาะกระแสพริกมั้งคะ... ช่วงนี้ไปวีนไปเหวี่ยงเขาไว้เยอะนี่นา” ถมมันเข้าไป หึ คิดเหรอว่าฉันจะยอมให้นายทำอะไรได้ตามใจชอบไอ้บ้าโซล พี่นพพยักหน้ารับก่อนจะช่วยฉันถือของเดินออกจากห้องแต่งตัว
“ใครเกาะกระแสเธอไม่ทราบ”
“!”
“อ้าวโซล พี่นึกว่านายกลับไปแล้วซะอีก” ฉันหันไปมองร่างสูงที่ยืนพิงกำแพงสูบบุหรี่อยู่ เขาทำหน้ายียวนกวนประสาทเหมือนเดิมเลย ได้ยินสินะ ดีจะได้รู้ไปไง!
“สูบบุหรี่อีกแล้วเหรอ ไหนว่าจะไม่สูบแล้ว”
“ก็มันติดนี่ครับ แต่ผมก็สูบตอนที่ทำงานเสร็จแล้วนะ ไม่ได้สูบตอนทำงานสักหน่อย” โซลยักไหล่และทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นใช้รองเท้าผ้าใบคู่โปรดของตัวเองที่มันทั้งเก่าและเยิ่นขยี้จนแหลก
“จะไปไหนกันเหรอครับ?”
“เลิกงานแล้ว พี่จะไปส่งพริกที่คอนโด”
“เหรอครับ พอดีเลยไปส่งผมด้วยนะ...รถผมเสียน่ะ”
“เสียแล้วนายมาที่นี่ได้ไง เหาะมาหรือไงกัน?” ฉันถามโซลน้ำเสียงขุ่นเคือง อุตส่าห์จะได้กลับกับพี่นพสองต่อสอง ทำไมจะต้องมีมารมาคอยขัดขวางด้วยเนี่ย “ไม่รู้สิ สงสัยเหาะมาจริงนั่นแหละ”
“พูดอะไร ตลกหรือไง?” ใบหน้าหล่อยกยิ้ม ไอ้ท่าเอียงคอมองเนี่ย ฉันเกลียดท่าทางแบบนี้ชะมัดเลย ให้ตายเหอะ!
“ไม่ได้ตลกนะ ไม่เป็นไรไม่กลับก็ได้ แต่พี่นพครับเดี๋ยวผมโทรหานะ... มีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยน่ะครับ”
“ปรึกษาเหรอ? เรื่องอะไรล่ะ” โซลยิ้มขำและฉันก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตสีดำปกคลุมหนาแน่นออกมาจากตัวหมอนี่ หรือว่าจะเป็นเรื่องนั้น ขู่ได้ขู่ดีจริงนะ!
“เรื่องของคนในบริษัทเรานั่นแหละครับ พอดีผม...”
“ให้โซลกลับด้วยก็ได้นะคะพี่นพ”
“ได้สิ ว่าแต่นายจะพูดอะไรเหรอโซล”
“ผมว่าผมลืมไปแล้วล่ะพี่นพ” ฉันถอนหายใจออมาอย่างโล่งอก พี่นพเองก็มึนงงแต่ก็พยักหน้ารับเดินนำเราสองคนไป ฉันแยกเขี้ยวใส่และผลักไหล่เขาให้ถอยออกห่างทางเดิน
หมับ
จุ๊บ
“!”
“ไปกันเถอะ *tesoro” ภาษาอิตาลีถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากร้อนที่เพิ่งจะขโมยจูบของฉันไป หนอย! ไอ้บ้าโซล มือของฉันกำเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มจนรับรู้ถึงความเจ็บปวด กรี๊ดดด!
“tesoro อะไรของนายกัน สำหรับฉันนายก็เป็นได้แค่ *Cattivo เท่านั้นล่ะ!”
“จะยืนตรงนั้นอีกนานมะ หรืออยากให้ฉันบอกพี่นพดี...” ใบหน้ายียวนทำให้ฉันสาวเท้าเข้าไปใกล้เขา ชี้หน้าเขาอย่างแค้นสุดๆ แต่ก็ทำได้เท่านั้นเพราะพี่นพเอารถหรูมาจอดเทียบฉันแล้ว
ต้องเอาคืน เอาคืน เอาคืนนน!
-PHRIKWAN TALK END-
*tesoro = ที่รัก , *Cattivo = เลว ไม่ดี