STAR SECRETS :: CHAPTER 3 [70%]
1088 คำ
“แล้วจูบเพื่อ?”
“กะ ก็ไม่รู้ นายคิดจะทำบ้าอะไรของนายกันโซล ต้องการให้ฉันกระวานกระวายใช่ไหม”
“รู้ดีนี่นา” พริกหวานเม้มริมฝีปากก่อนจะเดินตรงไปที่รถของตัวเอง แต่ผมก็เดินไปดักเธอไว้ กันร่างบางไว้กับกระจกรถไม่ให้เธอไปไหน “โซล จะถอยไม่ถอย”
“พรุ่งนี้ต้องเป็นข่าวแน่”
“แล้วไง ฉันมีวิธีแก้ก็แล้วกัน” รอยยิ้มที่ร้ายกาจกระตุกขึ้นราวกับไม่แยแสอะไร เธอผลักอกผมออกไปและขึ้นรถขับไปโดยไม่กลัวเรื่องข่าวสักนิด ส่วนผมก็ยิ้มขำจนไหล่สั่น นิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากตัวเอง
“ร้อนแรงชะมัด ยัยพริกเน่า”
จูบครั้งแรกก็ทำให้ผมติดรสชาติเผ็ดหวานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
-PHRIKWAN TALK-
“น้องพริกหวานคะ นักข่าวมารออยู่เต็มเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พริกพร้อมแก้ข่าวค่ะ” ฉันวางสายจากพี่นุชทันทีที่กำลังจะเข้าบริษัท วันนี้ฉันมีงานเปิดตัวน้ำหอมในตอนเย็นก็เลยต้องเข้าไปเตรียมตัว
แต่ทว่า... เรื่องมันดันพีคตรงที่รูปของฉันกับโซลที่จูบกันมันร่อนไปทั่วแล้วไง บ้าจริง! ถ้าเขาไม่คิดจะแกล้งฉันด้วยการเปิดโปงเรื่องความลับ ฉันคงไม่พุ่งตรงไปจูบเขาแบบนั้นหรอก ก็ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออกนี่นา ไม่รู้จะหาอะไรยัดปาดหมอนั่นดี คิดดูตอนแรกรู้งี้เอารองเท้าส้นสูงเขวี้ยงกระแทกปากก็ดี ฉันไม่น่าไปจูบหมอนั่นให้เป็นมลทินกับตัวเองเลย แล้วเป็นไงล่ะ? ข่าวครึกโครมเลยน่ะสิ แฟนคลับที่เคยจิ้นฉันกับเขาก็ออกมาเปิดเพจตั้งเป็นกลุ่มโซลพริก คู่จิ้นสุดฮอต หลังจากที่แฟนคลับที่จิ้นสลายหายไปหมดเพราะฉันปฏิเสธเขาไป รถของฉันจอดที่ลานจอดรถหน้าบริษัทก็เห็นนักข่าวกำลังนั่งรออยู่ ฉันสูดลมหายใจเข้าเชิดเข้าไว้พริกหวาน แค่ปฏิเสธให้หมอนั่นหน้าแตกอีกครั้งเป็นพอ
คิดว่าฉันเป็นใครกัน? เจ้าแม่ปฏิเสธข่าวทุกเรื่องนะ ผู้จัดการส่วนตัวไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ พริกจัดการหมด!
“คุณพริกหวานมาแล้ว”
“สวัสดีค่ะพี่ๆ มีอะไรกันแต่เช้าคะเนี่ย” เสแสร้งตีหน้านิ่งและเชิดเข้าไว้พริกหวาน เพราะความหยิ่งจองหองของเธอเนี่ยล่ะ เอาชนะทุกอย่างนะ
“ก็ตอนนี้มีภาพหลุดของคุณพริกหวานกับคุณโซลน่ะสิคะ มันเรื่องจริงใช่ไหมคะ?”
“อ่อ เรื่องที่จูบ”
“ค่ะ”
“นั่นมันเป็นแค่ภาพมุมกล้องไม่ใช่หรือไงคะ โอเคนะพริกยอมรับว่าเป็นตัวเอง ใครจะไปกล้าจูบผู้ชายกันล่ะคะ”
“แต่มันก็จริงนี่ครับ เพราะพริกหวานเขาจูบผมก่อน”
“คุณโซล!” น้ำเสียงเข้มดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ฉันหันไปมองใบหน้าหล่อที่ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โซลถอดแว่นกันแดดสีชาออก “จริงไหมล่ะพริกหวาน”
“จริงเหรอคะ คุณพริกหวานจูบคุณโซลก่อนงั้นเหรอคะ?”
“ใช่ครับ อยู่ดีๆ เขาก็วิ่งเข้ามาจูบผม... จูบจนใจผมนี่สั่นเลยนะ”
“...”
“จูบดูดดื่มมากด้วย” ฉันยืนกำหมัดตัวเองแน่น มองโซลที่เดินผ่านฉันเข้าไปในบริษัท นักข่าวต่างพากันมองฉันด้วยสีหน้าที่ต้องการคำตอบที่ไอ้บ้านั่นทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บแสบ!
“คือเราเล่นเกมกันน่ะค่ะ แล้วพอดีพริกแพ้ก็เลยต้องโดนลงโทษ แต่ที่จูบดูดดื่มนี่ไม่มีนะคะ โซลเขาคงกำลังมึน”
“อ่อ เป็นเพราะเล่นเกมกัน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น”
“ไม่มีค่ะ พริกโฟกัสแต่งานค่ะ ไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ใบหน้าของฉันเชิดขึ้นเดินผ่านนักข่าวที่พยักหน้ารับ และฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะเชื่อคำพูดของฉันมากกว่าไอ้บ้านั่นด้วย เกือบไปแล้วไงพริก... เกือบเน่าของจริงนะ!
เย็นนี้ฉันมาถึงหน้างานที่ห้างสรรพสินค้าการเปิดตัวน้ำหอมจากแบรนด์ดัง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมด้วย แฟนคลับของฉันก็ยังเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนเลย
“พริกหวาน พริกหวาน กรี๊ดดด!”
“สวยมากเลย พี่พริกหวาน” ฉันฉีกยิ้มให้กับแฟนคลับ ใบหน้าที่หยิ่งจองหองการทะนงตัวเองถูกหยุดกลางคันเพราะว่าสำหรับฉันแล้ว แฟนคลับคือคนที่ดันฉันให้ยืนอยู่จุดที่สูงที่สุด ฉันไม่มีทางหยิ่งกับพวกเขาได้ลงหรอก แต่ถ้าเป็นการทำงาน ก็อีกเรื่องหนึ่ง
“วันนี้เรามีแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ และเป็นการต้อนรับกลับมาของนางแบบสาวที่โด่งดังไกลไปถึงต่างประเทศอย่างคุณพริกหวาน ขอเสียงปรบมือต้อนรับเธอหน่อยค่ะ” ทันทีที่พิธีกรประกาศชื่อฉัน แสงไฟในห้างก็ดับลงเป็นฉันที่เดินเฉิดฉายตามสปอร์ตไลท์ที่ส่องมาบนเรือนร่างที่สวมชุดเดรสสีขาวทั้งชุด ทุกคนในห้างฮือฮาและส่งเสียงดีใจที่ฉันกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ใบหน้าของฉันเชิดขึ้นเพื่อรับแสงแฟลชที่กำลังกดถ่ายกันเพื่อต้องการภาพที่ดีที่สุด รอยยิ้มของฉันผุดขึ้นที่มุมปาก มันเป็นท่าประจำของฉันเลยล่ะ
“คุณพริกหวานจะมาเป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่ของน้ำหอมดังจากอิตาลี ในชื่อว่า ‘La fragranza del corpo mistico della donna.’ ภาษาอิตาลีที่แปลว่ากลิ่นหอมของร่างกายลึกลับของผู้หญิง ซึ่งเหมาะกับคุณพริกหวานมากๆ” ฉันหยิบขวดน้ำหอมที่วางอยู่ตรงกลางฟอลออกมาฉีดไปตามตัว หอมจริงด้วยสินะ! สงสัยงานนี้ได้น้ำหอมกลิ่นใหม่มาใช้แน่ๆ
การเปิดตัวน้ำหอมสิ้นสุดลง ฉันก็ถ่ายรูปร่วมกับผู้บริหาร แต่ทว่าสายตาดันไปเห็นช่างภาพคนหนึ่งที่แต่งตัวธรรมดามาก แต่สำหรับฉันเขาไม่ธรรมดาเพราะเขาคือพี่นพยังไงล่ะ
มาได้ไงกันเนี่ยหรือว่าช่างภาพที่บริษัทไม่ว่างกัน แต่แบบนี้มันก็ดีไม่ใช่หรือไงกัน? รอยยิ้มของฉันปรากฏขึ้น และดูเหมือนว่าเขาจะรู้เลยผละสายตาจากเลนท์กล้องมาสบตากับฉันแทน
อบอุ่นที่สุด!
- ผู้เขียน
