“งั้นกูไปก่อนแล้วกัน เจอกันที่บริษัท” ฉันโบกมือให้กับตังที่ออกจากห้องไป “สงสัยอะ”
“อะไร?”
“นายกับตังเป็นคู่เกย์กันใช่ปะ”
“แค่กๆ พะ พูดบ้าอะไรของเธอวะ ฉันกับมันเป็นเพื่อนกัน!”
“อ้าวเหรอ นึกว่าจะได้รู้ความลับของนายซะอีก ไม่ใช่หรอกเหรอ” ฉันจิ้มผักเข้าปากเคี้ยวอย่างหงุดหงิด แต่เดี๋ยวสิฉันก็เอาเรื่องนี้ไป... หึๆ คิดอะไรที่มันแสนจะดีได้แล้วล่ะ
“เธออยากรู้ปะล่ะ”
“หือ?”
“ขยับมาใกล้ๆ ดิ จะบอกให้ว่าฉันกับมันเป็นหรือเปล่า” โซลกวักมือให้ฉันขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ด้วยความสอดรู้และอยากเอาคืนเขาก็เลยเอียงหูไปใกล้ริมฝีปากของเขา
“อะไรเหรอ”
“อยากรู้ต้องพิสูจน์...”
“อะ เอ๋?”
จุ๊บ!
“นะ นาย!”
“เป็นไหม? ถ้าไม่รู้จะลองอีกก็ได้นะ แต่คราวนี้จะเป็นบนเตียง จะได้รู้กันไปเลยว่าเป็นหรือเปล่า” ฝ่ามือของฉันกุมแก้มซ้ายของตัวเองที่เพิ่งโดนไอ้บ้าลามกตัวนี้ขโมยไปอีกแล้ว โซลเก็บจานบนโต๊ะไปล้างและเขาก็สั่งให้ฉันรอเขา แน่นอนว่าฉันไม่รอหรอกนะ
“ถ้าคิดจะไปก่อน คอยดูนะคราวนี้ไม่ใช่แค่ขู่”
“เป็นงูหรือไง ขู่อยู่ได้!” โซลตะโกนมาจากชั้นบน และฉันก็ยืนอยู่ด้านล่าง สักพักใบหน้าหล่อกวนประสาทก็โผล่มากำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทของตัวเองไปด้วย
“มั้ง”
“เหอะ”
“ถ้าไม่ใช่คงจะขู่ไม่ได้ ที่สำคัญนะ... งูตัวนี้มันจะรัด จะกิน จะกลืนเธอไปทั้งตัวเลยด้วย หึ” แป๊บเดียวเขาก็เดินลงบันไดมาหยุดตรงหน้าฉัน “ชิ ลองสิ จะตีให้ตายเลย!”
“อยากโดนตีจัง ตีให้หนักๆ นะพริกหวาน” โซลเดินนำฉันออกจากห้องเขาไป แน่นอนว่าฉันก็ได้นั่งรถหรูของเขาที่มีแค่เขาเท่านั้นที่ขับ เราสองคนมาถึงบริษัทแน่นอนว่าพนักงานต่างพากันมองเราสองคนด้วยสีหน้าที่ตกใจและพากันซุบซิบ จนฉันกุมขมับตัวเอง
“วันนี้เธอมีงานที่ไหนหรือเปล่า?”
“ถามทำไม” ฉันกอดอกอยู่ในลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนตรงไปที่ห้องประชุม เห็นว่าวันนี้พี่นพเรียกประชุมหรือไงเนี่ยล่ะ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรนะ เห็นโซลแล้วเจ็บใจชะมัดหมอนี่มันทำให้ฉันอดกลับกับพี่นพสองต่อสอง
“ก็อยากรู้ แล้วเบอร์ฉันนะเก็บไว้ด้วย เราคงต้องใช้ติดต่อกันอีกนานเลย”
“เชอะ” ร่างสูงเดินต้อนฉันจนแผ่นหลังติดกับกระจกลิฟต์ ใบหน้าหล่อก้มลงจนจมูกของเราสองคนชนกัน ฝ่ามือของฉันยันไหล่หนาให้ถอยห่าง จู่ๆ ทำไมรู้สึกใจมันเต้นแปลกแบบนี้นะ โซล ผู้ชายที่ต้านทานยาก แต่นั่นมันสำหรับคนอื่นนี่นาไม่ใช่สำหรับฉันสักหน่อย
“ถอยไปเลย”
“หึ เย็นนี้กลับพร้อมฉันก็แล้วกันนะ”
“ไม่ เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องกลับกับนายด้วย”
“ใช่ๆ ไม่ใช่เรื่องนี่นา เนาะ” พอฉันเชิดหน้าใส่เขาก็ชูมือถือที่มีความลับของฉันให้ดู หนอยไอ้บ้า! ดีแต่ขู่ตลอดเลยนะ จะทำยังไงให้หมอนี่มันเลิกเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างนะ
ขโมย?
ใช่ ฉันต้องขโมยมือถือของเขามาและจัดการลบคลิปเสียงนั่นซะ รอยยิ้มของฉันปรากฏขึ้นในทันทีจนเขามึนงง
“ก็ได้ งั้นวันนี้ฉันจะไปที่ห้องนาย ทำอาหารให้กินด้วยล่ะ”
“เฮ้ ว่าง่ายดีจังแหะ”
“ฉันไม่อยากโดนขู่บ่อยๆ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินก็รู้กันพอดี เพราะงั้นจะยอมให้ก่อนก็ได้” ประตูลิฟต์เปิดขึ้นฉันเลยเดินหนีเขาออกมา ต้องทำให้แนบเนียนที่สุด เขาจะได้คิดว่าฉันไม่ได้แกล้ง หมอนี่มันฉลาดจะตายไป
เมื่อมาถึงห้องประชุมตอนนี้ทุกคนก็กำลังรอพี่นพที่ยังมาไม่ถึง ส่วนฉันก็นั่งข้างพี่นุชที่บอกว่ามีงานชิ้นหนึ่งเข้ามา แต่ยังไม่บอกว่าคืองานอะไร เพราะพี่นพจะปรึกษาตัวฉันอีกที
“มาครบกันแล้วนะทุกคน อ้าวตังมายัง”
“มาแล้วครับ พอดีผมแวะไปเอาของฝากมาให้คุณนพครับ”
“อ่อขอบใจนะ มีงานต่อเลยเธอตกลงไหมเพราะจอยเขาก็ให้ถามเธออีกที” ฉันมึนงงในทันทีที่รู้ว่าผู้จัดการคนเดียวกับโซลจะเป็นผู้จัดการของตังด้วย ดูเหมือนจะสนใจแค่โซลคนเดียว เหอะ แต่อย่างว่าตังน่ะดูสุขุมกว่าหมอนั่นที่ขยันหาเรื่องหาราวมากกว่า พี่จอยคงจะไม่หวงอะไรมาก
“ครับผมรับงานต่อเลยก็ได้ครับ”
“ดีแล้วล่ะ เพราะเดี๋ยวที่บริษัทจะจัดการเลี้ยงนะก็ขอให้เคลียร์งานก่อนแล้วกัน... พริกหวาน”
“ค่ะๆ” น้ำเสียงนุ่มลึกของพี่นพทำเอาฉันตกใจ ฉีกยิ้มให้กับเขาที่หัวเราะกับท่าทางหลุดของฉัน คนอะไรหัวเราะยังดูน่ารักเลยนะ
“พอดีมีเอเย่นต์ชุดว่ายน้ำแบรนด์ดังติดต่อมา พริกหวานโอเคไหมเพราะเป็นถ่ายงานชุดว่ายน้ำ ไม่เคยถ่ายด้วยนี่นา...”
“คือพริกยังไงก็ได้ค่ะ กลับมาก็เพื่อมารับงานไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธงานที่พี่นพรับไว้หรอกค่ะ”
“ไม่เป็นไรนะ พี่ให้นางแบบคนอื่นได้ถ้าพริก...”
“พริกถ่ายค่ะ พริกอยากถ่าย!” ทุกคนจับตามองฉันที่ลุกขึ้นเท้ามือลงกับโต๊ะ สบตากับพี่นพที่เหวอไปกับท่าทีของฉัน บ้าจริง! ทำไมจะต้องหลุดอาการใจเต้นแรงแบบนี้ด้วย สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พริกหวาน
“พริกรับงานนี้ค่ะ” เหมือนไบโพลาห์เข้าไปทุกวันสินะฉัน เดี๋ยวหลุดเดี๋ยวหยิ่งเดี๋ยวไม่แคร์ใคร โอ๊ย! คนสวยปวดหัวค่ะ
“รับงานนี้นะ แล้วโซลล่ะรับหรือเปล่า?”
“แน่นอนสิครับ ผมรับอยู่แล้วได้ถ่ายงานกับคู่จิ้นที่ห่างหายไปนาน ใครบ้างจะไม่โอเคล่ะครับ”
“วะ ว่าไงนะ!” เป็นอีกครั้งที่ฉันตกใจจนทุบโต๊ะ สายตาของทุกคนจับจ้องฉันอีกครั้ง อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดตายตรงนี้... นี่มันบ้าอะไรเนี่ย
“ทะ ทำไมเกี่ยวกับโซลด้วยคะพี่นพ”
“ก็เอเย่นต์เขาติดต่อมาเป็นงานคู่ และโซลก็รู้แล้วว่าใครจะมาถ่ายงานคู่กับเขาก็เลยตกลง”
“จริงเหรอ?” โซลยักไหล่พลางส่งยิ้มให้อย่างกวนส้น... ฝ่ามือของฉันกำจนแน่น จะปฏิเสธตอนนี้คงไม่ทันแล้วสินะ ดันพูดกับพี่นพไปซะเยอะเลย “หรือพริกจะเปลี่ยนใจเหรอ?”
ใครจะไปเปลี่ยนใจกันเล่า เล่นทำหน้าตาไร้เดียงสาแบบนั้น พริกใจละลายแล้วนะพี่นพ!
“เปล่าค่ะ พริกแค่ตกใจที่เป็นงานคู่ก็เท่านั้น”
“อ่อ ถ้างั้นก็ทำงานในส่วนของตัวเองให้ดีนะ เพราะพี่จะจัดงานเลี้ยงพวกเราทั้งบริษัทเลย เป็นแบบส่วนตัวนะเดี๋ยวมาคุยเรื่องนี้อีกทีแล้วกัน เลิกประชุมได้” ฉันทำหน้าบูดทันทีที่พี่นุชจดรายละเอียดงาน
“ยินดีด้วยนะที่จะได้ร่วมงานกันอีกครั้ง พริกหวาน”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยนะ รู้อยู่แล้วทำไมไม่บอกฉันเล่า! อยู่ด้วยกันเมื่อเช้าแท้ๆ”
O__o!!
“อะ เออหมายถึงพริกกับโซลทานกาแฟด้วยกันเมื่อเช้าก่อนเข้าบริษัทน่ะค่ะ” ทุกคนที่เก็บของอยู่ถึงกับชะงักที่ฉันเผลอพูดบ้าๆ ออกไป โซลกอดอกมองฉันที่นั่งไขว่ห้างไม่ขยับไปไหน
“ก็เธอไม่ได้ถาม ทำไมต้องบอกล่ะ”
“พริกหวาน กลางวันนี้ไปทานข้าวกันไหม?”
“ไปค่ะ!” ไม่ต้องคิดอะไรมากทันทีที่พี่นพชวนฉันไปทานข้าวกลางวัน ใบหน้าหล่อมีหนวดขึ้นนิดหน่อยมันเพิ่มเสน่ห์ให้เขามากเลยนะ ฉันอยากโดนหนวดแข็งๆ นั่นซุกไซ้จัง เอิ่ม... คิดบ้าอะไรเนี่ย ลามกจังเลยยัยพริก!
“โซลไปด้วยกันไหม?”
“...” เขาเงียบและสบตากับฉันที่โบกมือไปมา ส่ายหน้าไม่ให้เขาไป แน่นอนว่าโซลยกยิ้มมุมปาก
“ไม่ดีกว่าครับ พอดีผมมีงานต่อด้วย” ฉันถอนหายใจออกมาและแลบลิ้นใส่เขาที่เบ้ปากใส่ฉันเช่นกัน พี่นพเดินนำฉันออกจากห้องโดยที่โซลกับตังยังอยู่ แต่ก็ช่างเถอะ
วันนี้จะเป็นวันที่ฉันมีความสุขมากแน่ๆ
คอยดูเถอะโซล ฉันจะเอาความลับของตัวเองกลับมาจากนายให้ได้!
-PHRIKWAN TALK END –