เนื้อเรื่องต่อจากเดิม
ตอนนี้เด็กสาวนั้นกำลังยืนมองหน้าเจ้านายของตัวเองอยู่หลังจากที่เธอนั้นพึ่งจะโวยวายเรียกค่าเสียหายจากเค้าไป
“ยังไงคะ คุณจะจ่ายหรอป่าว?”
“หึ! ดูร้อนเงิน”
“ก็.. ก็มันเป็นสิทธิ์ที่หนูต้องได้! จริงๆ1ล้านหนูว่าน้อยไปด้วยซ้ำนะคะสำหรับคนรวยๆแบบบอส!”
“แต่ไม่คุ้มสำหรับฉัน”
“…” ประโยคของเฮดีลทำให้เด็กสาวนั้นต้องชะงักไปแต่ทว่าเธอนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ถ้าอยากได้ ก็ทำให้คุ้มสิ”
“กะ…ก็ได้ไปแล้วไงคะ! จะเอาอีกทำไม!”
พรึ่บ! เฮดีลไม่ได้สนใจเลขาของตัวเองเลยสักนิด เค้าดันตัวเองลุกขึ้นยืนและเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับกุญแจรถและเดินออกไปที่ประตูห้องทันที
“อ่าว!” เมื่อเด็กสาวทำอะไรไม่ได้ ทำให้เธอนั้นต้องรีบวิ่งตามเค้าออกมาจากห้องแต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องให้เค้าด้วย
เมื่อลงมาถึงหน้าคอนโดเด็กสาวที่กำลังเดินตามเจ้านายของตัวเองอยู่ก็ได้เอ่ยเรียกเค้าอีกครั้ง ฉุดให้เค้านั้นต้องหยุดเดินแต่ไม่ได้หันหลับมาคุยกับเธอ
“บอสคะ!”
“…”
“วันนี้ขอลานะคะ”
“…”
“ขาสั่นผับๆขนาดนี้หนูไปทำงานไม่ไหวหรอกค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ!”
“มุกริน!” ทันทีที่เด็กสาวพูดจบเธอนั้นก็รีบวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ทันทีทำให้เฮดีลที่ยังไม่ได้เอ่ยอนุญาตต้องส่งเสียงตะโกนเรียกเธอขึ้นแต่ทว่าไม่สามารถทำให้เด็กสาวนั้นหันกลับมาสนใจเค้าได้
“ยัยเตี้ย!” เฮดีลสบถคำด่าขึ้นอีกครั้งก่อนจะรีบเดินไปที่รถของตัวเองที่มีมือขวากำลังสตาร์ทรถรอเค้าอยู่
“อรุณสวัสครับนาย”
“กลับบ้าน”
“ครับนาย”
ทางด้านของเด็กสาวตอนนี้เธอนั้นได้เดินทางมาโรงพยาบาลแล้วหลังจากที่เธอนั้นแวะกลับไปที่บ้านมาก่อนเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“แม่~”
“ตัวแสบ! หายไปไหนมา เมื่อคืนแม่โทรไปก็มีผู้ชายรับสายแต่ไม่ยอมพูด! กว่าจะพูดได้ทำแม่หัวใจแถ้บวาย!”
“อะ..อะไรนะคะ! แม่โทรหาหนูหรอ” เด็กสาวเอ่ยถามพลางเบิกตากลมโตด้วยความตกใจ เพราะผู้ชายที่มารดาของเธอหมายถึงนั้นก็คงเป็นบอสของเธออย่างแน่นอน
“ใช่ เค้าบอกเค้าเป็นเจ้านายของลูก มีอะไรจะบอกแม่ไหม ?”
“อะ..เอ่อ~ คือว่าเมื่อคืนหนูไปพบลูกค้ามาค่ะ ก็เลยดื่มนิดหน่อยจ่ะแม่ บอสเค้าก็เลยให้หนูไปพักที่คอนโดเค้าก่อน แล้ว..เค้าบอกอะไรแม่บ้างหรือป่าวจ๊ะ~”
“บอกแค่ว่าลูกหลับอยู่ เค้าเป็นเจ้านายลูก”
“ตามนั้นเลยจ่ะแม่ แฮร่~ ขอโทษที่ไม่ได้โทรหานะคะ อย่าโกรธลูกเลยน้าาา~”
“แม่จะหัวใจวายนี่สิ!”
“โอ๋ๆน้า~ รักกันๆ~”
“แล้วนี่ไม่ไปทำงานหรือไงกันไอ้ลูกคนนี้”
“ไม่จ่ะ ขอลาอีกวัน ก็เลยรีบมาหาแม่เลย~”
“หยุดบ่อยขนาดนี้เดี๋ยวเค้าก็ไล่เราออกพอดี”
“ไม่หรอกจ่ะแม่~ หนูผลงานดีจะตายไป~”
“ไปๆ ไปทำงานเลย ไม่ต้องมาเฝ้าแม่แล้ว”
“ขออีกวันน้าๆ~” เด็กสาวว่าพลางเข้าสวมกอดมารดาของตัวเองอย่างออดอ้อนเพราะเธอเองก็ไม่มีแรงจะไปแล้วเช่นกัน
“จริงๆเลยนะไอ้ลูกคนนี้!”
“แฮร่~ แล้วนี่กินอะไรยังจ๊ะ”
“กินแล้ว” ภายในห้องพักตอนนี้มีแค่สองแม่ลูกที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ วันนี้เด็กสาวจึงอยู่ดูแลแม่ของเธอทั้งวัน
บ้านเฮดีล
ตอนนี้มาเฟียหนุ่มนั้นได้กลับมาถึงบ้านของตัวเองแล้ว ซึ่งบ้านของเค้านั้นมีขนาดใหญ่ราวกับคฤหาสน์ซึ่งเป็นบ้านของเค้าเองที่สร้างเอาไว้ได้ 7 ปีแล้ว
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะพบกับเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงมากมายที่ตั้งอยู่ แต่ที่ชั้นสองนั้นเมื่อมองขึ้นไปจะมีรูปของเค้าอยู่ซึ่งเป็นรูปที่ถ่ายคู่กับสัตว์เลี้ยงของเค้า และเป็นถาพที่มีขนาดใหญ่เต็มผนัง
“นายครับ”
“อืม”
“ผมเอาตัวมันมาแล้วครับ”
“พาไปห้องแซม”
“ครับนาย” เมื่อคิวได้รับคำสั่งแล้วเค้านั้นก็รีบเดินออกไปทันที ซึ่งประโยคที่คิวพูดกับเฮดีลเมื่อสักครู่นี้นั้นหมายถึงการ์ดคนนึงที่ลักรอบขโมยของของเค้าไปขายที่ชายแดน
ห้องแซม
“นะ..นายผมขอโทษครับนาย~” ทันทีที่เฮดีลเดินเข้ามาในห้องของสัตว์เลี้ยงของเค้า เสียงของการ์ดที่ถูกมัดอยู่ก็ดังขึ้นทันที
“รู้แต่มึงยังทำ!”
“ขะ..ขอโทษครับนาย ผมขอโทษจริงๆครับ ไว้ชีวิตผมเถอะนะครับนาย~” เสียงของการ์ดดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่ออ้อนวอนขอชีวิต แต่ทว่าเฮดีลผู้้เลือดเย็นเค้านั้นไม่เคยไว้ชีวิตใครโดยเฉพาะคนที่รู้กฏดีอยู่แล้วแต่ยังทำ..
“แซม!”
“โบ้ววว~” ทันทีที่แซมได้ยินเสียงเรียกของนายตัวเองมันก็ส่งเสียงร้องขึ้นทันที ก่อนจะกระโดดออกมาจากอีกฝั่งของรั้วเหล็ก
“มานี่!” แซมทำตามคำสั่งของเฮดีลอย่างว่าง่ายโดยที่ตอนนี้มันกำลังมานั่งอยู่ข้างๆนายของตัวเองพร้อมกับมองไปที่เหยื่อตรงหน้าด้วยสีหน้าแววตาของนักล่าผู้หิวโหย
“จัดการมัน!”
“ไม่นะครับนาย! ไม่นะครับโอ้ยยยยย!” ตอนนี้ภายในห้องของแซมจึงเต็มไปด้วยเลือดสดๆของมนุษย์ที่ถูกหมาป่าอย่างแซมฉีกเป็นชิ้นๆ
เมื่อเฮดีลเห็นภาพตรงหน้าพอใจแล้วเค้าจึงเดินออกมาจากห้องของแซมทันทีและไม่ลืมที่จะล็อคประตูเอาไว้ด้วย
“คิว!”
“คะ..ครับๆนาย!” คิวที่กำลังยืนหันหลังอยู่ต้องสดุ้งขึ้นเมื่อถูกเจ้านายของตัวเองจับเข้าที่ไหล่ เพราะตอนนี้เค้านั้นกำลังรู้สึกเสียวสันหลังกับเสียงร้องของคนด้านในที่กำลังถูกแซมขยำอยู่
“ไปบริษัท”
“ครับนาย~”
เช้าวันใหม่
เช้านี้เด็กสาวตั้งใจที่จะมาบริษัทแต่เช้าตรู่ เพื่อหวังว่าตัวเองจะมาก่อนบอสของตัวเอง และเมื่อเธอขึ้นมาถึงชั้นทำงานเธอนั้นจึงเห็นว่าห้องของเฮดีลยังคงปิดผ้าม่านเอาไว้อยู่ บ่งบอกได้ว่าเค้าน่าจะยังไม่มา
“คงไม่มาเช้าขนาดนั้นมั้ง~”
คลืดดด!
ในขณะเดียวกันผ้าม่านในห้องของเฮดีลก็ถูกเปิดออกด้วยมือของคนด้านใน ซึ่งทำให้เด็กสาวนั้นตกใจไม่น้อยเพราะวันนี้เธอนั้นก็มาเช้ากว่าวันไหนๆ
“บอส! ตกใจหมดเลย~”
“ทำขวัญอ่อน”
“ไม่แซะกันทุกวันจะได้ไหมคะเนี่ย~”
“…” เฮดีลไม่ได้สนใจที่เด็กสาวพูดเลยสักนิด แถมยังเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองอีกด้วย ทำให้เด็กสาวที่เห็นเช่นนั้นต้องรีบนำกระเป๋าไปวางที่โต๊ะทำงานและรีบลงมาชงกาแฟที่ชั้นล่างทันที
เด็กสาวใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเธอนั้นก็กลับขึ้นมาพร้อมกับกาแฟในแก้วที่เธอกำลังถืออยู่
“นี่ค่ะกาแฟ”
“เอาไป” เฮดีลพูดพลางดันซองเอกสารสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะให้กับเด็กสาว ซึ่งทำให้เธอนั้นรู้สึกงุนงงเล็กน้อยเพราะหน้าซองสีน้ำตาลนั้นไม่มีอะไรเขียนกำกับไว้ว่าด้านในคืออะไร
“อะไรคะ?”
“เงิน”
“ห้ะ! จะ..จริงๆหรอคะ!”
“…” เมื่อเด็กสาวเห็นเช่นนั้นเธอก็รีบหยิบซองเอกสารมาเปิดดูทันที เพราะเมื่อเช้าของวันนี้เธอพึ่งจะพูดคุยกับหมอเจ้าของไข้มารดาของเธอถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดพอดี
“หรือเธอตั้งใจอ่อย เพื่อต้องการเงิน?”
“อะ..อะไรคะ! ไม่ใช่สักหน่อย! คุณพลาดต่างหาก! แต่เงินหนูก็ต้องการ!”
“ค่าผ่าตัดแม่ ?”
“บอสรู้ได้ไงคะ!”
“…”
“ไม่บอกก็ไม่ต้องบอกค่ะ! แต่เงินนี้เป็นของหนูจริงๆหรือป่าวคะ ?”
“…”
“ของหนูแหล่ะ! จะว่าหนูว่าหน้าเงินก็ได้นะคะ แต่เรื่องเมื่อคืนหนุไม่ได้จงใจให้เกิดขึ้น แต่ไหนๆก็เกิดขึ้นแล้ว แล้วหนูก็ต้องการเงิน คิดส้ะว่าบอสจ่ายค่าพรหมจรรย์ของหนูก็แล้วกันนะคะ” เด็กสาวพูดออกมาด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจังเพราะเธอนั้นต้องการใช้เงินก้อนนี้จริงๆ
พรึ่บ!
“โอ้ย! เจ็บนะคะบอส~” เป็นเสียงของเด็กสาวที่ร้องท้วงขึ้นเมื่อเธอถูกเฮดีลจับเข้าที่แขน
“ของมา เงินไป!”
“ขะ..ของอะไรคะ!”
“ใสซื่อ หรือซื่อบื้อ?”
“เอ้า~ หนูผิดอะไรเนี้ย ปล่อยแขนหนูนะ!”
“…”
“หนูไม่มีอะไรจะให้บอสแล้วนะคะ บอสก็น่าจะรู้!”
“มี!”
ว๊ายยยย! สิ้นสุดเสียงของเฮดีลเด็กสาวนั้นก็ถูกกระตุกแขนจนเธอนั้นต้องนั่งทับลงมาบนตักของเค้า เมื่อเธอเห็นเช่นนั้นจึงรีบดันตัวเองออกทันทีแต่ทว่าเธอดันถูกมือหนาของเฮดีลล็อกเอาไว้ส้ะก่อนจนทำให้เธอนั้นไม่สามารถลุกออกจากตักของเค้าได้
“เดี๋ยวมีคนมา! ปล่อยเลยค่ะ!”
“เธอจะปล้นเงินฉันตั้ง1ล้าน จะให้ฉันปล่อยไปง่ายๆหรือไง!”
“งะ..งั้นหนูเอาแค่5แสนค่ะ!”
“เหมือนกัน!”
ติ๊ง! ในขณะเดียวกันเสียงของลิฟต์ก็ดังขึ้น ฉุดให้เด็กสาวต้องรีบดีดตัวขึ้นทันทีซึ่งเฮดีลนั้นก็ยอมปล่อยเธอเช่นกัน
“ไงไอ้ดีล หวัดดีครับน้องมุกริน”
“สะ..สวัสดีค่ะพี่ออสติน ขอตัวนะคะ” เด็กสาวรีบกล่าวทักทายออสตินกลับไปก่อนจะถือโอกาสนี้กลับมาที่โต๊ะของตัวเองเพื่อหนีเฮดีล
“แหน่ะ! ไอ้ดีลกูเห็นนะครับ” เมื่อน้ำรินออกไปจากห้องและปิดประตูลงแล้ว ออสตินจึงพูดขึ้นทันที
“…”
“นี่มึงบ้าจี้ทำตามคำท้าไอ้เกอร์หรอว้ะเนี่ย!”
“แค่ลอง”
“มึงก็บ้านะ สงสารน้องมัน!”
“หึ!”
ประโยคที่ทั้งสองคนกำลังหมายถึงนั้นก็คือเมื่อวันเกิดของวิวที่ผ่านมาก่อนที่เฮดีลและมุกรินจะจูบกันไทเกอร์ได้เอ่ยคำท้าขึ้น
ย้อนกลับไปวันเกิดวิว
“กูว่าจะจีบน้องมุกว่ะ! พวกมึงว่ากูจะจีบติดป้ะ” เป็นเสียงของไทเกอร์ที่พูดขึ้นในวงเหล้า
“555 ถ้าไอ้ดีลจีบก็ว่าไปอย่าง มันหล่อกว่ามึงอีก!”
“อ่าวไอ้ออสติน! มึงพูดงี้ก็สวยดิครับ!”
“แล้วไงครับ”
“งั้นมึงกับกูมาแข่งกันไอ้ดีล! ว่าใครจะจีบน้องติดก่อน!”
“ปัญญาอ่อน!” เอดีลด่าขึ้นอย่างไม่สนใจกับคำท้าของไทเกอร์
ต้นเหตุของความโบ้?
ฝากกดใจ + คอมเมนท์ให้ไรท์ด้วยนะค้าบบ ???
รีไรท์เมื่อ 17/04/66