ตอนที่ 11

830 คำ
นางกะพริบตาเพื่อขับไล่หยาดน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาอีก และเริ่มนึกถึงเรื่องราวเมื่อสองปีก่อนในโลกความฝัน แต่มันคือความจริงในระยะสองเดือนในโลกนี้ นางเอ่ยออกมาด้วยความคับแค้นใจ แม้นน้ำเสียงช่างราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความเย้ยหยันในชีวิตที่น่าอดสูของตน "แต่ช่างเถิด เรื่องของข้าไม่น่าฟังสักนิด อาหารที่เจ้ากินฝีมือข้านะ ข้ากับมารดามักเข้าครัวกันประจำ เพราะเราสองคนแม่ลูกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรือนใหญ่ ท่านว่าอร่อยหรือไม่" นางเห็นเขาพยักหน้า นางก็ยิ้มส่งให้ ดวงตานางหยาดเยิ้มด้วยฤทธิ์สุรา พร้อมที่จะหลับได้ทุกเมื่อ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นางหยุดกล่าว "ข้าอยากได้หนังสือหย่าท่านแม่ ข้าอยากได้อิสระ ใช้ชีวิตอย่างเสรี ข้าต้องการโบยบินไปที่ใดก็ได้ดังวิหค” นางพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมกับนอนลงให้หัวเอนพิงหลุมศพ และสายตาเหม่อมองท้องฟ้า "ข้าไม่กลับไปหรอก ข้าจะไม่กลับไป ท่านแม่! ข้าจะไม่เป็นอย่างท่าน ข้าไม่มีบุรุษให้รัก ข้าไม่มีสิ่งใดให้ปกป้อง สวรรค์ให้ข้ากลับมา ให้ข้ากลับมาอีกครั้ง" น้ำเสียงนางค่อยๆ แผ่วเบาลงพร้อมดวงตาที่ปิดลง ราวหนึ่งชั่วยามที่ซิ่นหนิงเยว่หลับไปด้วยอาการมึนเมา โดยมีหยวนเพ่ยนั่งอยู่ไม่ห่าง แสงแดดส่องมากระทบตาทำให้นางเผลอใช้ฝ่ามือปิดอย่างเสียมิได้ เมื่อม่านตาสามารถปรับกับแสงตรงหน้าได้ ซิ่นหนิงเยว่ก็ลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นตามตัวออก "ข้าหลับไปนานเท่าไหร่" "ประมาณหนึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ" "ชายใบ้เล่า” "เขาเห็นคุณหนูหลับไป เขาก็ลุกจากไปเจ้าค่ะ" "อืม ช่างเถอะ เรากลับกันเถิด" ทั้งคู่หมุนตัวกลับ หอบหิ้วสัมภาระที่นำมาไหว้หลุมศพ โดยไม่ทันเห็นว่าบุรุษใบ้ยืนซ่อนตัวอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และเขาก็มิเดินออกมาเพื่อเผยตัว สองนายบ่าวหิ้วตะกร้าอาหารกลับจวนอย่างมิรีบร้อน โดยที่ผู้เป็นนายยังไม่ลืมแวะเวียนถามไถ่ว่ามีจวนใดขายบ้าง ด้วยนางต้องการที่จะซื้อ แต่จนแล้วจนรอดก็มิมีจวนหลังใดประกาศขายเลย หรือที่จะขายก็ใหญ่เกินไปสำหรับนาง ทำให้นางรู้สึกท้อแท้ยิ่ง การเกิดเป็นสตรีนี้ช่างน่าอาภัพยิ่งนัก อำนาจไม่มีอยู่ที่มือ หากจะอวดอ้างว่าตนเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพจางเพื่อขอซื้อจวนสักหลังจะดีหรือไม่ ระหว่างที่นางกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น เสียงหวานหูของสตรีนางหนึ่งก็เรียกซิ่นหนิงเยว่ให้หลุดออกจากภวังค์ความคิด "ฮูหยินท่านอยู่นี่นี่เอง แอบเที่ยวไม่บอกข้าเลย" "ข้านึกว่าผู้ใด ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง หรงอี๋เหนียง" "เจ้าค่ะ ข้าน้อยเอง ข้าไปหาท่านที่เรือนแต่ไม่พบสักครั้ง” หรงเซียะเหม่ยย่อกายตามธรรมเนียม และเดินเข้ามาใกล้หวังตีสนิท "อย่าได้ลำพองตีเสมอข้า อาจู!" คำพูดรุนแรงจากปากของ ซิ่นหนิงเยว่ทำให้หรงเซียะเหม่ยยืนค้าง มิกล้าขยับเข้าใกล้อีก หากแต่เอ่ยคำออกมาเพื่อแจ้งความปรารถนาในใจ “ข้าแค่ต้องการทำดีกับเจ้านะ” "หึ! ตำแหน่งของเจ้าต้องทำดีต่อข้าอยู่แล้ว แม้ใจเจ้าจะต่อต้าน” นั่นคือความจริงบนโลกใบนี้ อนุต้องยกย่องภรรยาเอก ด้วยฐานะที่สูงกว่า หาได้เท่าเทียมกันดั่งโลกของอาจู แม้แต่ชายหญิงก็ไม่เว้น "เจ้า!" หรงเซียะเหม่ยสาดประกายออกมาทางแววตาว่าไม่พอใจ ชีวิตนางก่อนหน้านี้ไม่ต้องทำดีให้สตรีคนใด "จุ๊ๆ อย่าเสียงดังไป ควรระวังกิริยา ประเดี๋ยวผู้อื่นเห็นเข้าจะนำเรื่องของเจ้าไปป่าวประกาศว่าแม่ทัพแห่งบูรพานามจางหยูเยี่ยนเลือกสตรีที่ไม่ได้ความมาเป็นอนุ แม้แต่การสำรวมอาการยังเก็บมิมิด เรื่องนี้ถึงหูสามีเจ้าเมื่อไหร่ อย่าได้หวังออกมาเที่ยวเล่นได้อีก แล้วอย่าหาว่าข้าผู้เป็นฮูหยินไม่ได้อบรมตักเตือนเล่า" นางเอ่ยกับหรงเซียะเหม่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ หวังแค่ให้ได้ยินกันเพียงแค่สองฝ่าย ก่อนที่จะเดินกลับจวนพร้อมกับหยวนเพ่ย เมื่อโดนหักหน้ากลางผู้คนหมู่มาก แม้จะไม่มีใครได้ยินว่าตนกับซิ่นหนิงเยว่เอ่ยอะไรกัน แต่หรงเซียะเหม่ยก็รู้สึกอับอาย มือสองข้างกำเข้าหากัน หากเป็นโลกของนางที่จากมาคงมีเรื่องบาดหมางกันไม่รู้จบแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม