มีหรือคนอย่างนายชลลัมพีจะยอมให้จับคลุมถุงชนง่าย ๆ เขาจึงรับคำท่านไปก่อน แล้วเมื่อมานั่งคิดพิจรณาทีหลังก็ไม่มีสาวข้างกายคนไหนพอจะเข้าสเปค
จนกระทั่งวันหนึ่งเขามองไปที่หน้าห้องทำงานและพบว่ายัยป้าเลขาที่เขาไม่ค่อยจะแยแสเธอเพราะเธอคือเลขาเก่าของแม่ที่เขาไม่ได้เลือกด้วยตัวเองแต่ติดตรงที่บุษบาบัณทำงานดีมาตลอดจนเขาหาเรื่องไล่ออกหรือย้ายตำแหน่งเธอไม่ได้ เธอนี่เองที่มีคุณสมบัติตามที่แม่ของเขาต้องการทุกข้อ กิริยา มารยาทดีพูดจาน่าเชื่อถือ ดูเป็นกุลสตรี รักษาศีลห้าทุกวันพระ มีเสน่ห์ปลายจวัก ยกเว้นเขาไม่เคยมีใจหรือสนใจเธอเลยหรือแท้จริงแล้วสนใจอยู่ลึก ๆ แต่ถูกกลบความรู้สึกเพราะคำว่าเจ้านายกับลูกน้องก็ไม่อาจรู้ได้
และแล้วฟ้าก็เข้าข้างผู้ชายที่แม้จะไม่ค่อยสด แต่ยังอยากครองความโสดหลังแต่งงาน เขาบอกตัวเองว่าไม่ต้องการภรรยาจริง ๆ เสียหน่อยเขาแค่ต้องการผู้หญิงที่แม่ยอมรับและพร้อมจะทำตามข้อเสนอแต่จะทำอย่างไรดีให้บุษบาบัณยอมช่วยเหลือนั่นคือปัญหา
และสวรรค์ก็เข้าข้างคนที่ไม่อยากถูกผูกมัดด้วยคำว่าแต่งงานอย่างเขาอีกครั้ง ฟ้าท่านคงเห็นใจคนถูกแม่บังคับ บุษบาบัณเข้ามาหาเขาในบ่ายวันหนึ่งด้วยสีหน้าซีดเผือดเป็นกระดาษขาวรอพิมพ์งาน ทำหน้าตื่นกลัวเขาเหมือนตอนที่ถูกอาละวาดใส่หากเธอปล่อยให้ผู้หญิงของเขาหลุดเข้ามาหาถึงห้องทำงานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
บุษบาบัณนั่งตัวรีบเหมือนมีปัญหาหนักอกหนักใจเขาถามเธอว่ามีอะไรต้องการให้เขาช่วยเหลือหรือเปล่า เธออ้ำอึ้งอยู่สักพักก่อนจะขยับปากพูดว่าจะมาขอกู้เงินจากเขาเป็นจำนวนเงินห้าล้านบาทเพื่อไปปรับปรุงโรงแรมเก่าของครอบครัว และร้านขนมไทโบราณอันเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ของเธอและครอบครัว เธอขอให้เขาเห็นใจที่เธอตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์มานานตลอดหลายปี
บุษบาบัณกู้ธนาคารไม่ผ่านเนื่องจากได้เคยกู้เงินจากธนาคารมาครั้งหนึ่งแล้วเพื่อนำไปซื้อรถยนต์ให้น้องชายและยังผ่อนไม่หมด เธอยินดีให้เขาคิดดอกเบี้ยได้ตามกฎหมายร้อยละสิบห้าต่อปี และให้เขาหักทั้งต้นและดอกเบี้ยจากเงินเดือนประจำของเธอในทุก ๆ เดือนซึ่งเธอมีรายได้ประจำประมาณสี่หมื่นบาทต่อเดือน เขาลองจิ้มเครื่องคิดเลขให้เธอดูและส่ายหน้า ดอกเบี้ยแค่นั้นเล็กน้อยมากสำหรับเขา ดูไม่เห็นจะคุ้มค่ากับการลงทุน
บุษบาบัณหน้าซีดผือดหลังจากเขาตอบกึ่งปฏิเสธ เขาจึงยื่นข้อเสนอใหม่ให้เธอทันที และเมื่อยัยป้าเลขาฟังจบเธอขยับกรอบแว่นตาคล้ายแว่นตัวการ์ตูนอาราเล่อันโตที่มีผลทำให้ใบหน้าสวยใสนั้นดูแก่กว่าวัยไปมากโข แล้วมองหน้าเขาราวกับว่าเจ้านายของเธอที่ใคร ๆ เปรียบเทียบกันว่าหล่อเหมือนดารา ติ๊ก เจษฎาภรณ์ กลายเป็นปีศาจมาจากอเวจีเพื่อยื่นข้อเสนอร้ายกาจที่สุดในชีวิตให้
หลังจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าแดงก่ำราวกับจะวิ่งออกไปร้องไห้นอกห้อง เขาจึงเรียกเธอไว้ให้นั่งลงและอธิบายว่าทำไมเขาถึงคิดจะจ้างเธอมาเป็นภรรยาตามกฎหมายอธิบายอยู่หลายชั่วโมง
เขาชี้แจงให้เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าเขาไม่เคยพิศวาสหน้าตารูปร่างของเธอแม้แต่น้อย เพราะสาว ๆ ของเขานั้นล้วนมีแต่คนงามระดับซุปตาร์ทั้งนั้น แต่ที่ต้องยื่นข้อเสนอให้เธอพิจารณาเพราะมารดาบังเกิดเกล้าบังคับให้หาภรรยาที่เป็นกุลสตรีโบราณ มีเรือนสามและน้ำสี่ มีความเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมดีทั้งกาย วาจาใจ และไม่ได้มีอาชีพเป็นดาราหรือนางแบบซึ่งเขาเห็นว่าหลายข้อมีอยู่ในตัวเธอ
และเอ่ยปากสัญญาว่าหากบุษบาบัณยอมรับข้อเสนอของเขา เขาจะไม่แตะต้องเธอโดยเด็ดขาดโดยเขาขอเวลาแค่หนึ่งปีแล้วจะรีบหาเรื่องหย่าขาดจากกันและเมื่อตอนนั้นเธอจะมีอิสระจะไปแต่งงานกับใครยังไงก็ได้ เธอปฏิเสธในทีแรกพร้อมทั้งบอกว่าจะลองไปยื่นเรื่องที่ธนาคารอื่นดูแต่พอหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์เธอก็ต้องยอมรับและยอมแต่งงานเป็นเจ้าสาวเพียงในนามเพราะเขามีวิธีบางอย่างทำให้เธอกู้กับทุกธนาคารไม่ผ่าน มิหนำซ้ำบุษบาบัณยังถูกธนาคารเร่งรัดหนี้สิ้นอย่างหนักด้วยฝีมือใครคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังจนในที่สุดบุษบาบัณก็ยอมรับข้อเสนอของเขาอย่างจำใจ
ขณะคิดอะไรเพลิน ๆ ประตูห้องแต่งตัวก็ถูกเคาะก่อนจะถูกเปิดออกพร้อมกับนางต้นห้องของมารดาที่เปลี่ยนชุดอีกแล้วทำราวกับจะเป็นเจ้าสาวเองเขมศรีมาในชุดเดรสสีชมพูกระโปรงผ่าลึกเธอเข้ามาฉีกยิ้มหวานและแจ้งว่างานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสใกล้จะเริ่มแล้วเขาควรจะลงไปในงานได้แล้วพร้อมบรรยายความสวยของเจ้าสาวว่าคืนนี้สวยนักหนา
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะคุณพี คืนนี้คุณพีของเขมล้อหล่อ” พร้อมกับถึงเนื้อถึงตัวเช่นเคย สองมือตรงเข้ามาควงแขนชลลัมพีและพยายามดึงให้เขาตามเธอไป
“อะไรนี่เขม จะมาเร่งอะไรกันนักกันหนา” เขาสะบัดแขนนั้นออกอย่างเคยชิน ไม่ได้รังเกียจที่เขมศรีเป็นสาวประเภทสอง แต่มีรำคาญอยู่บ้างเป็นบางครั้ง
“ก็คุณหญิงน่ะสิคะเร่งเขมมาว่ายี่สิบนาทีต้องพาคุณพีลงไปที่งานให้ได้ไม่งั้นเขมจะถูกหักเงินเดือน”
ชลลัมพีไหวไหล่อย่างรำคาญแต่ก็ชินเสียแล้วกับนางต้นห้องคนสนิทของคุณแม่ ที่วันนี้แต่งตัวเสียสวยเช้งหากไม่รู้จักกันและมึนเมา ๆ ไปเจอข้างนอกเขาอาจเผลอจีบเธอก็ได้แต่ที่จริงแล้วเขมเป็นสาวประเภทสองที่แปลงเพศแล้ว
“เงินเดือนเธอไม่ใช่เงินเดือนฉัน คุณแม่จะหักเงินเดือนเธอแต่ฉันขอเตะเธอสักทีได้ไหมยัยเขมศรีจอมเจ้ากี้เจ้าการดีนัก ปล่อยสิบอกให้ปล่อยแล้วออกไปได้แล้ว”
“ว้าย!!! คุณพี ใจร้าย ไม่มีมนุษย์ธรรมกับกระเทยเลยนะคะเนี่ย” เขมศรีทำสีหน้าผิดหวัง
คุณมือแกะมือที่เกาะแขนล่ำ ๆ ของเขาออก สาวประเภทสองคนงามรีบปล่อยแขนชลลัมพีทันที พร้อมท่าทางสะบัดสะบิ้งและสายตามองค้อน “หน้าตาก็หล่อราวกับเทพบุตร แต่พูดจาเข้าสิอย่างกับอสูรกายปากร้ายจริงเชียวคุณพีนี่ แต่งงานแล้วขอแช่งให้กลัวเมีย” พร้อมกับเมินหน้าหนีเหมือนงอน
ชลลัมพีส่งยิ้มร้ายและหัวเราะเบา ๆ “จะร้ายกว่านี้อีกถ้าเธอยังไม่เลิกยุ่งกับฉันยัยเขม พูดมากเดี๋ยวจะจับโยนออกไปนอกหน้าต่าง” ชลลัมพีทำหน้าบอกบุญไม่รับแต่เขมไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มเป็นคนใจดีวาจาขวานผ่าซากแต่เนื้อแท้นั้นไม่ได้ใจร้ายเป็นยักษ์เป็นมารเหมือนสีหน้าท่าทางที่แสดงออก
เขมศรีชักสีหน้า “โธ่! แกล้งเขมอยู่ได้เร็วสิคะคุณพี รีบลงไปดูสิคะวันนี้คุณบุษเธอสวยผิดหูผิดตาแค่ไหนชุดเมื่อช่วงเช้าว่างาม
เหมือนนางในวรรณคดี แต่ชุดฉลองมงคลสมรสคืนนี้เธอยังสวยเหมือนซิลเดอเดลราอีก นี่ถ้าไม่รู้ว่าคุณบุษบาบัณอายุสามสิบสอง
เขมต้องคิดว่าเธออายุไม่เกินยี่สิบห้า คุณพีนี่ตาถึงจริง ๆ ใครจะคิดว่าคุณป้าเลขาที่แต่งตัวเฉย ๆ สวมแว่นตาหนาเตอะแค่ถอดแว่นตาและจับไปขัดสีฉวีวรรณทำผมเสียใหม่แค่นี้ก็ ไฉไลไม่แพ้ดารา….อ้อที่สำคัญคงไม่มีใครคิดว่าที่คุณพีแกล้งว่าแกล้งใช้งาน และเรียกคุณบุษว่ายัยป้าเลขา ที่แท้เป็นการสับขาหลอกให้ทุกคนจับไม่ได้ว่าคุณพีกำลังคบหาดูใจกับเลขาของตัวเอง แหม...ช่างแนบเนียนจังเลยนะคะเจ้านาย” สายตานางต้นห้องของมารดามองมาที่เขาอย่างจับผิดมากกว่าจะชื่นชม