2

1331 คำ
แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือ ‘บุษบาบัณ นันทปภากร’ เลขาหน้าห้องแสนเฉย ที่สวมแว่นตาอันโต แต่งตัวราวกับคุณป้าหรือไม่ก็เอาเสื้อผ้าสมัยคุณแม่ของเธอยังสาวมาสวมใส่ จนเขาชอบเรียกเธอติดปากว่า ‘คุณป้าเลขา’ แต่หลัง ๆ บางครั้งก็เรียกว่า ‘มนุษย์ป้า’ ตามอย่างวัยรุ่น แต่วันนี้เธอกลับสวยจนทำให้เขาตะลึงงันประหนึ่งอิเหนาได้พบหน้านางบุษบาครั้งแรก เธอเป็นเลขาที่ทำงานร่วมกับเขามาเกือบจะสิบปีและเขาจ้างเธอมาเป็นเจ้าสาวกำมะลอก็เพราะเห็นว่าเธอดูเป็นผู้ใหญ่พอน่าจะเข้ากับครอบครัวเขาได้ แถมยังไม่ติดพันธะเพราะเธอยังโสด ส่วนสดหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจเพราะไม่เคยลอง และก็ไม่เคยจะสนใจมั้ง ก็เธอไม่เคยอยู่ในสายตาหรือเพราะกลัวจะถูกกล่าวหาว่าเป็นสมภารกินไก่วัด แต่ดูเหมือนเขาจะพอรู้ว่าเธอมีเสน่ห์ปลายจวัก ทำอาหารเก่ง ก็บ้านของบุษบาบัณมีร้านขนมไทยชื่ออะไรสักอย่างที่คนอย่างเขาไม่คิดจะใส่ใจ แต่ได้ยินคนในบริษัทพูดกันบ่อย ๆ ว่าขนมอร่อยมากอีกเรื่องที่สำคัญเธอถือศีลห้าทุกวันพระ ชอบไปทำบุญที่วัดบ่อย ๆ ตรงตามที่มารดาของเขา‘คุณหญิงชลัมพร อัครเดชโภคิน’ มหาเศรษฐีนีผู้ดีเก่าต้องการทุกข้อเพราะฉะนั้นเธอเหมาะกับตำแหน่งเมียบังหน้าของเขาที่สุด ชลลัมพีรู้สึกทึ่งกับเจ้าสาวในวันนี้เขาไม่คิดว่ายัยป้าเลขาจะสวยได้มากมายน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัว วันนี้เธอดูเหมือนสาวอายุ ยี่สิบกว่าๆ มากกว่าสามสิบสองหลังจากถอดไอ้แว่นตาอาราเล่แสนน่าเกลียดนั่นออกไปรู้แบบนี้จะใช้ความเป็นเจ้านายออกกฏห้ามเลขาสวมแว่นให้เปลี่ยนเป็นคอนแทคเลนส์นานแล้ว ประโยคแรกที่เขาทักลูกน้องและว่าที่เมีย “วันนี้คุณสวยจนผมจำเกือบไม่ได้เลยนะคุณป้าเลขาไม่เจอกันสองสัปดาห์คุณแม่ผมคงพาคุณไปชุบตัวที่ยันฮีมาล่ะสิท่าสงสัยจะหมดไปเยอะกี่แสนกันล่ะ” ชลลัมพีชมออกมาจากใจแต่คงไม่เข้าหูเจ้าสาวคนสวยสักเท่าไร หลังจากเขาให้เธอหยุดงานถึงสองสัปดาห์ตามคำขอร้องมารดาเพื่อเตรียมตัวแต่งงาน คุณหญิงชลัมพรเข้ามากำกับเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่งงานทั้งหมดรวมถึงจับบุษบาบัณไปเข้าคอร์สเจ้าสาว ผลปรากฏออกมามันก็ทำให้เขาทึ่งไม่น้อย ใครจะไปเชื่อเธอมันคือช้างเผือกชัดๆ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเลขาสวย รู้อย่างนี้บังคับให้ถอดแว่นตาทำผมแต่งหน้าใส่เสื้อผ้าดี ๆ เสียใหม่นานแล้ว “ขอบคุณค่ะหากนั่นคือคำชมจากใจ” วันนี้เจ้าสาวของเขาสวมชุดไทยจักรพรรดิ สีชมพูกลีบบัวขับผิวขาวเนียนละเอียด ท่อนบนเป็นเสื้อเปิดไหล่ ซิ่นเป็นผ้าทอมือแบบมีเชิงงดงาม จีบยกหน้านางแบบมีชายพกทาบทับด้วยสไบสีชมพูดูสวยหวานแลดูขับผิวขาวของบุษบาบัณให้นวลผ่องมาก ชลลัมพีเหลือบเห็นสร้อยจี้ระย้า เข็มขัด และต่างหูเข้าชุดกันนั่นทำให้เขาเลืองมองอย่างสนใจใคร่รู้เพราะจำได้ว่านั่นมันทับทรวงโบราณเครื่องประดับที่ทำจากทองคำแท้พร้อมต่างหูระย้า และเข็มขัดเข้าชุดกันซึ่งมันเป็นชุดเดียวกับเครื่องประดับที่มารดาใช้ในงานแต่งงานเป็นของเก่าแก่ราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะตัวเรือนทั้งหมดคือทองแท้ “เธอไปเอาเครื่องประดับพวกนั้นมาจากไหน” เขาเอียงคอมาใกล้ๆใบหน้าสวยและลอบกระซิบถามเจ้าสาวแสนสวยที่วันนี้เกล้าผมมวยสวมรัดเกล้าไว้ด้านหลังจะว่าไปวันนี้บุษบาบัณสวยราวกับนางวรรณคดีที่หลุดออกมาจากในนิยายปรัมปราก็ไม่ปาน ทำเอาเสียงที่แข็งกร้าวชอบเอ็ดใส่เลขาของตนในเวลานี้ฟังดูอ่อนลงชอบกล บุษบาบัณถอนหายใจคิดไว้แล้วว่าต้องถูกถาม “คุณหญิงบังคับให้ฉันนำมาสวมใส่ในวันงานค่ะ เสร็จพิธีฉันจะรีบส่งคืนคุณหญิงท่านทันทีค่ะ” รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากด้านซ้าย “ดีมากที่ไม่คิดทึกทักเอาเป็นของตัวเอง เพราะที่ผมให้คุณไปมันก็มากพอแล้วอย่าหลงดีใจว่าได้เป็นสะใภ้โปรดของท่านจริง ๆ ล่ะ เพราะนี่มันก็แค่งานแต่งงานกำมะลอคุณมันก็แค่เมียบังหน้า เมียกำมะลอ เมียชั่วคราวเข้าใจตรงกันนะ” เขากระซิบกรอกหูเธอเป็นระยะ ถึงเขาไม่บอกเธอก็จำได้แม่น แต่เขากลับวางท่าทางแนบเนียน สายตาและรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากดูมีเสน่ห์ไม่เขอะเขินราวกับว่าเขาเป็นเจ้าบ่าวแสนดีที่กำลังคุยหยอกเอินกับเธอทั้งที่แต่ละคำที่พูดมาเป็นการบีบบังคับให้เธอรู้จักสถานะของตัวเอง การแต่งงานครั้งนี้จึงเป็นแค่แสดง เสแสร้ง แทบทั้งสิ้นและมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน “เข้าใจดีค่ะ ฉันมีความเป็นมืออาชีพพอ และระลึกอยู่เสมอทุกลมหายใจว่านี่คืองาน และงานของฉันก็คือทำให้คนในครอบครัวของคุณคิดว่าเรารักกันจริง ๆ จบไหมคะ” เธอแอบเหวี่ยงค้อนใส่เขาไปทีหนึ่ง “ดีมาก ที่ไม่ลืมว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร” เขากระแทกเสียงใส่เบา ๆ ในขณะที่มุมปากยังมีรอยยิ้มปรากฏนอกจากเขาจะเป็นผู้บริหารที่เก่งและมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเธอคิดว่าถ้าเป็นนักแสดงเขาคงรุ่งไม่เบา “ไม่ลืมค่ะ ไม่เคยลืมสักวินาที” เจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานงดงามยกมือไปวางทาบบนมือที่หนากว่ามากซึ่งเอื้อมมาวางแหมะอยู่ที่สะโพกของเธอไม่รู้เมื่อไหร่ “คุณเองก็ด้วย อย่าลืมบอกตัวเองนะคะว่าดิฉันเป็นแค่ภรรยากำมะลอของคุณ ถ้าเข้าใจตรงกันแล้วล่ะก็คุณก็ช่วยเอามือของคุณออกจากสะโพกของดิฉันที ดิฉันยังไม่ชินและเราไม่จำเป็นต้องใกล้ชิดกันขนาดนี้ก็ได้” ชลลัมพีจึงรีบเอามือออกทันที “อย่าคิดว่าผมพิศวาสในตัวคุณนะป้าเลขา ที่ผมทำไปเพราะอยากให้คนในงานเห็นว่าเราดูสนิทสนมสมเป็นคู่จิ้นคู่รักกันคุณก็รู้ว่ามีหลายคนสงสัยรวมถึงคุณแม่ผม และท่านก็มีหูมีตามากมายคอยจับตาดูเราอยู่ ผมเลยต้องจับนิดจับหน่อยจะได้แนบเนียนไงคนในงานเขาจะได้ไม่สงสัย ถ้าเป็นมืออาชีพจริงเรื่องแค่นี้ก็อย่าได้คิดมากสิครับคุณป้าบุษ” ก็แน่ล่ะสิเป็นใครบ้างจะไม่สงสัยเมื่อวันดีคืนดีชลลัมพีคาสโนว่าอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยผู้เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง เกียรติและความสามารถอย่างเขาประกาศสายฟ้าแลบว่าคบหาดูใจกับเลขาหน้าห้องมานานหลายปีทั้งที่มีข่าวควงดาราคนนั้นคนนี้ อีกทั้งนางแบบที่แอบเลี้ยงไว้ ข่าวคาวของเขามีให้เพียบออกมาอยู่ตลอดเวลาและจู่ ๆ ประกาศลั่นระฆังวิวาห์อย่างเร่งด่วนมันเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนควรจะสนใจไม่ใช่หรือ แขกเหรื่อภายในงาน รวมทั้งนักข่าวแทบทุกสำนักพิมพ์เดินกันให้ขวักไขว่บนพื้นที่ของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ที่คุณหญิงชลัมพรผู้เป็นมารดาคัดเลือกให้เป็นสถานที่แต่งงานของบ่าวสาวในวันนี้ “เมื่อไหร่จะเริ่มรดน้ำสังข์ให้เสร็จ ๆ ไปสักทีผมเมื่อยจะแย่อยู่แล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม