เพลง สุดปรารถนา ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธ์
สุดปรารถนา สุดจะคว้า รักมาอยู่ใกล้
สุดปรารถนา สุดแลหา กลับมาแลหาย
ฝากรักจับจอง ไม่เป็นสองให้เราหมองไหม้
อกหญิงนิ่งเฉยอยู่ได้ สู้เจียมกาย เจียมตน
สุดสิ้นความหวังสิ้นพลังสิ้นทางพบกัน
สุดสิ้นความฝัน ดั่งตัวฉันสิ้นวันเป็นคน
ชั่วช้าเพียงไหน เหยียบย่ำไว้ ช้ำใจมิบ่น
ร่างกายหมองศรีปี้ป่น หลอกเราเสียจน เสียคนหม่นหมอง
ขอจารึกไว้ด้วยอักษร เป็นอุทาหรณ์ไว้สั่งสอนรุ่นน้อง
ทั้งความหวานชื่น ทั้งยามขมขื่น ร้อยกรอง
อ่านแล้วน้องแก้วไตร่ตรอง
อย่าได้ปองเกินปรารถนา
สุดปรารถนา สุดฟากฟ้า ไม่มาเห็นกัน
ก่อนเคยรำพันว่ารักมั่นต่อเราหนักหนา
เมื่อสมสะใจ ก็จากไปเหมือนเราไร้ค่า
รักคนรักเราดีกว่า อย่าปรารถนา ไปรักเขาเลย
มะเฟืองนั่งฟังเพลง มือก็แกะมะขามเปียกที่เอามาจากสวนที่เพชรบูรณ์ เธอนั่งอยู่กับคุณย่าผกาของหมอโป้งใต้ต้นหูกระจงในสวนหลังบ้าน
เพลงเปิดจากยูทูบฟังไปด้วย ซึ่งเพลงก็จะเป็นเพลงเก่า ๆ ของ สวลี ผกาพันธ์, ธานินทร์ อินทรเทพ, ชรินทร์ นันทนาคร และ ศรีไศล สุชาตวุฒิ เป็นต้น
“คุณย่าขา เพลงของใครคะ ชื่อเพลงอะไรคะ”
“ทำไมมะปรางเพราะเหรอจ๊ะ”
“ค่ะ เพราะมากค่ะ ฟังแล้วเศร้านะคะ”
“เอ้... ฟังเพลงนี้ แล้วพูดแบบนี้ หลงรักใครหรือเปล่าเอ่ย” คุณย่าช้อนตามองด้วยความเอ็นดู
“เปล่าสักหน่อยค่ะ” ปากปฏิเสธ แต่หน้าตาออกแดง ๆ
“เพลงชื่อ สุดปรารถนา ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธ์ จ้ะ”
“ผู้หญิงคงรักผู้ชายคนนั้นมากสินะคะ แล้วเขาก็ไม่เห็นค่าของเธอ ฟันแล้วทิ้ง” เธอนึกแล้วเศร้าตาม
“ฉะนั้นก็ต้องรักคนที่เขารักเราดีกว่า และก็อย่าไปมองคนที่เขาไม่ได้ปรารถนาในตัวเรา”
“เกินเอื้อมยังงั้นหรือคะคุณย่า”
“เรื่องความรักน่ะนะ ฟ้าไม่อาจจะกั้นหรอกลูก หากเรารักใครไปแล้วก็ยากที่จะเลิกรัก หรือให้หยุดรักได้ เราก็ต้องรักเขาตลอดไป แต่สิ่งสำคัญที่สุด ต้องรู้จักหักห้ามใจตัวเองต่างหากจ้ะ”
“ค่ะ” เธอรับปากและรับน้ำคำ
คุณย่าผกาก็ร้องเพลงคลอตามไปเบา ๆ ทำงานไปด้วยความสุข มะเฟืองมองท่านแล้วยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกัน คงไม่มีใครมีความสุขเท่ากับคุณย่าท่านอีกแล้ว
“เอ้อ...อย่าลืมไปถามพี่โป้งสิจะรับของว่างไหม” ท่านห่วงหลานชายคนเดียวของท่านเหลือเกิน
“ค่ะ” เธอรีบลุกไปทันที เพราะเงยหน้าดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้ว เห็นว่าบ่ายคล้อย
ริมสระว่ายน้ำ สวนข้างบ้านของหมอกวินวิทย์
“สรุปแกก็พลาดอีกแล้วนะโป้ง”
“โธ่แม่ครับ นิกกี้ไม่ได้รักผมสักหน่อย”
“แล้วโป้งละ อกหักละสิ”
“แม่ครับ ผมแค่เอ็นดูนิกกี้แบบน้องเท่านั้นเอง”
“แน่นะ” ท่านส่งสายตามาคาดคั้น
“ครับ”
“เฮ้อ... แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้อุ้มหลานละเนี่ย ยายลูกปัดก็ไม่ยอมแต่งงาน บ้าแต่ทำงาน ๆ วันไหนไม่รู้ละจะไข้ขึ้นล้มป่วย” คุณรุ่งรัตน์เดินบ่นหายเข้าไปในเรือน
“โชคดีนะนิกกี้” คุณหมอได้แต่อวยพรให้กับไศลทิพย์ สายตามองข้ามรั้วไปยังเรือนใหญ่ของคุณยายโอบบุญ
มะเฟืองเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าเบา ๆ เธอยังมีนิสัยขี้เกรงใจ และกลัวว่าการทำอะไรเสียงดังในบ้านนี้เพราะเป็นการไม่เหมาะสม หญิงสาวถอดแบบคุณย่าผกามาเกือบทุกกระเบียดนิ้ว ท่านอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูมากับมือของท่านเอง
“พี่โป้งคะ คุณย่าให้มาถามว่าจะรับของว่างหรือเปล่า” มะเฟืองเอ่ยปากทันทีที่เขาหันหน้ามามอง
หมอหนุ่มยิ้มกว้างให้กับเด็กสาวในบ้าน คุณย่ารับเลี้ยงมะเฟืองมาตั้งแต่หกเจ็ดขวบ ท่านพามาจากบ้านสวนที่เพชรบูรณ์ ตอนนี้เธอก็เต็มสาวแล้ว อยู่ปีหนึ่งของวิทยาลัยคหกรรมแห่งหนึ่งแถวใกล้ ๆ บ้าน
“เฟืองของว่างจะเอาให้พี่กินได้ไง เอามาเต็มจานเลยนะ”
มะเฟืองได้แต่หัวเราะ หมอโป้งขี้เล่นแบบนี้ทุกที เธอไม่กล้าแม้จะสบตากับเขามานานแล้ว ด้วยความที่เจียมเนื้อเจียมตัว ถึงคุณย่าจะให้เธอเทียบเสมอกับคุณลูกปัด กับหมอโป้ง แต่ภายในใจลึก ๆ เธอก็แค่เด็กที่คุณย่าเก็บมาเลี้ยง จะไปยกตัวเสมอกับหลานของคุณย่าท่านได้อย่างไร
“ค่ะ” เธอยิ้มให้ก่อนจะหมุนกลับไปทางหลังบ้านอย่างรวดเร็ว
กวินวิทย์กระโดดตูมลงน้ำไป ต้องว่ายน้ำให้คลายเครียดสักหน่อย จริงๆ เขาก็อยากจะมีคู่นะ แต่ไม่มีเวลาไปหานี่สิ
เช้ามาไปทำงานที่โรงพยาบาล ตอนกลางวันมาพักเบรก เย็นก็ไปทำงานที่คลินิก สองทุ่มต้องไปอยู่เวรต่อที่โรงพยาบาลเอกชน
‘ใครว่าเป็นหมอสบายวะ โคตะระไม่มีเวลาเลย’ เขาบ่นอยู่ในใจ
มะเฟืองยกจานผลไม้ออกมาให้กับหมอโป้ง มะละกอสุกแกะสลักนิด ๆ พอสวยงาม และแตงโมที่ทำเป็นรูปหัวใจ จัดเรียงมาในจานอย่างสวยเช่นเดียวกัน
“แบบนี้อีกแล้ว พี่จะกล้ากินหรือเนี่ย” เขาสัพยอกตอนเธอวางจานลงตรงหน้า พร้อมกับน้ำมะนาวปั่นที่เขาชอบดื่ม
“ของกินค่ะ กินได้หมดเลย”
“พี่รู้แล้ว แต่ทำออกมาสวยแบบนี้ ใครจะกล้ากิน”
มะเฟืองยืนยิ้ม เพราะเธอถือว่าเป็นคำชม ในบ้านหลังนี้คงมีแต่หมอโป้งที่มักจะเอ่ยปากชมสิ่งที่เธอทำทุกครั้ง ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องราวเล็ก ๆ แบบนี้
หญิงสาวทำท่าจะหมุนตัวกลับ
“เดี๋ยวมะเฟือง”
เธอชะงักฝีเท้าทันที
“มีอะไรคะ พี่โป้งจะเอาอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
“เปล่าจ้ะ ช่วยถ่ายรูปให้พี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่จะโพสต์ลงไอจี”
เขายื่นมือถือให้ เธอรีบหันกล้องไปทางเขาทันที