เขาก็ได้แต่อมยิ้ม ได้แต่คิดว่ามะเฟืองคงอาย “เช้า ๆ คุณย่าตื่นกี่โมง” “ตีห้าค่ะ” ทั้งสองกระซิบคุยกัน พี่โป้งหยิบมือถือออกมาตั้งเป็นนาฬิกาปลุก แล้วซุกมันไว้ใต้หมอน ใกล้ๆ มือ “นอนเถอะ...” เสียงพี่โป้งกระซิบที่ข้างหู ก่อนจะหอมแก้มเธอเบา ๆ และกดปลายคางที่ศีรษะของเธอเอาไว้ มะเฟืองพ่นลมหายใจออกมากอดรัดร่างพี่โป้ง แล้วหลับตาลงสนิท เขาก็หลับตาลงด้วยความสุขเช่นกัน ตีสี่ของวันรุ่ง “มะเฟือง ลุกพาย่าเข้าห้องน้ำหน่อยลูก” เสียงคุณย่าปลุก เธอถลันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะคลานขึ้นไปนั่งบนเตียง ตาแตก ใจตื่นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่โป้งยังนอนหลับปุ๋ย ๆ อยู่ข้างเธออยู่เลย “ทางนี้ค่ะคุณย่า” เธอพยุงท่านลงจากเตียง สายตาเป็นกังวลกลัวคุณย่าจะเห็นร่างของพี่โป้งที่นอนอุตุอยู่ในผ้าห่ม ดีว่าเธอขยับตัว เสียงกรนของเขาจึงเบาลง หญิงสาวพาคุณย่าเข้าห้องน้ำ แล้วจัดการให้ท่านนั่ง “คุณย่านั่งก่อนนะคะ” มะเฟืองบอกท่าน