เกือบเที่ยงคืนที่พชรพงศ์ยังคงนั่งดื่มเหล้าอยู่เพียงลำพัง สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส มือขวายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มด้วยความเสียใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ภาพที่แฟนสาวกำลังเดินเข้าไปในโรงแรมกับผู้ชายคนอื่นอย่างสนิทสนม
“ทำไมลูกแก้วถึงทำแบบนี้กับผม เพราะอะไรเหรอลูกแก้ว”
ชายหนุ่มได้แต่คร่ำครวญออกมาอย่างเจ็บเจ็บปวด ทั้งที่ในใจพยายามจะคิดไปในทางที่ดี ว่าบางทีแฟนสาวอาจจะไปทำธุระกับใครก็ได้ หรืออาจจะเป็นลูกค้าของร้านเสื้อ แต่มันคงไม่มีทางเป็นจริงอย่างที่เขาคิด เพราะการติดต่อลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของคุณหญิงปาลิตามารดาของปนัดดานั่นเอง
แก้วเหล้าถูกยกขึ้นแก้วแล้วแก้วเล่าโดยไม่สนใจว่าใครจะมองว่าอย่างไร แต่หากมองไกลออกไปจะพบว่ามีใครบางคนที่ยืนมองการกระทำของชายหนุ่มอยู่ไม่ไกลอย่างมาดหมาย
พิมพ์นารายืนมองชายหนุ่มที่เธอเล็งมาตั้งแต่ช่วงค่ำ โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าคนที่เธอหมายปองอยู่นั้นเป็นคนรักของพณิตพิชาผู้เป็นพี่สาว
“ภัทรว่าผู้ชายคนนั้นหล่อไหม” เสียงแหลมตะโกนถามเพื่อน แต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่เป้าหมาย
ภัทรพลหันไปมองตามพิมพ์นาราแล้วก็ต้องตกใจ เพราะชายหนุ่มที่เพื่อนสาวชี้ให้ดูนั้นเป็นคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเลย พชรพงศ์ เลิศกิจจาภิภักดิ์ แฟนหนุ่มของผู้หญิงที่เขาหลงรัก
“อ๋อ นายพชรพงศ์ เลิศกิจจาภิภักดิ์ น้องชายของนักธุรกิจหนุ่มแห่งแอล.พี. อีเล็คทรอนิกส์กรุ๊ป”
“ภัทรรู้จักด้วยเหรอ”
คราวนี้พิมพ์นาราหันมามองเพื่อนด้วยความสนใจ หากพูดถึงแอล.พี. อีเล็คทรอนิกส์กรุ๊ปแล้วไม่มีใครที่ไม่รู้จัก สายตามองเลยไปยังชายหนุ่มที่นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวอย่างพอใจ
“ใช่! แต่น่าเสียดายนายพชรพงศ์เขามีแฟนแล้ว”
“แฟนเหรอ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอภัทร”
“ก็ลูกแก้วไง”
“อย่าบอกนะว่าน้ำไม่รู้ว่านายนั่นเป็นแฟนกับลูกแก้ว”
“น้ำไม่เคยรู้เลยนะภัทรว่าลูกแก้วมีแฟน เห็นเงียบๆ ไม่คิดว่าจะร้ายลึกขนาดนี้” น้ำเสียงเขียวเอ่ยขึ้นทั้งที่ในใจเกิดความริษยาพี่สาวอย่างรุนแรง
“แต่น้ำไม่สนใจหรอกว่าคนที่ลูกแก้วชอบจะเป็นแฟนใคร ถึงเป็นแฟนลูกแก้วน้ำก็จะเอา”
เพียงแค่พูดเท่านั้นพิมพ์นาราก็เดินออกมาจากโต๊ะตรงไปยังโต๊ะของผู้ชายที่เธอสนใจ หญิงสาวไม่ได้หันกลับมามองเลยว่าเพื่อนชายยืนยิ้มอย่างพอใจกับสิ่งที่เธอกำลังกระทำอยู่
ภัทรพลยืนมองพิมพ์นาราอย่างพอใจ และรู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากเธอสามารถดึงพชรพงศ์ออกไปจากพณิตพิชาได้ ถือว่าแผนขั้นแรกของเขาสำเร็จลงด้วยดี
“ขอบใจนะน้ำที่ทำให้ฉันได้คนที่ฉันรักกลับคืนมา ฉันไม่สนใจหรอกว่าจะต้องใช้วิธีไหน ฉันรู้แต่ว่าลูกแก้วต้องเป็นของฉัน”
ชายหนุ่มเลิกสนใจเพื่อนสาว แล้วหันมาสนใจเพื่อนในโต๊ะอย่างสบายใจ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบอย่างมีความสุข หากทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เขาคิด อีกไม่กี่วันพณิตพิชาก็ต้องรู้ว่าน้องสาวที่แสนดีได้ช่วงชิงพชรพงศ์จากเธอไปแล้ว
//////////////
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ”
พชรพงศ์ละสายตาจากแก้วเหล้าหันมามองเจ้าของน้ำเสียงหวานอย่างไม่พอใจ รู้สึกขัดใจเหลือเกินที่มีคนเข้ามารบกวนเวลาอันมีค่าของเขา พอสบตาจึงรู้ว่าผู้หญิงที่เข้ามารบกวนเขาคือใคร
“เธอเองเหรอพิมพ์นารา”
“คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ”
พิมพ์นาราเอ่ยถามอย่างแปลกใจ หรือพี่สาวเธอจะเป็นคนบอก สายตาเชิญชวนสบตาคมอย่างยั่วเย้า ก่อนจะพาร่างอันแสนเย้ายวนกระแซะเข้าไปนั่งบนตัก
พชรพงศ์ได้แต่ยิ้มเหยียดๆ กับการกระทำของหญิงสาว แต่พอนึกถึงใบหน้าหวานซึ้งของแฟนสาวก็ได้แต่เจ็บปวด สายตาคมเงยขึ้นมาสบตาพิมพ์นาราอย่างชั่งใจก่อนจะเอ่ยถามว่า
“คุณไม่รู้เหรอ?...ว่าผมเป็นแฟนพี่สาวคุณนะ”
พิมพ์นารามองพชรพงศ์อย่างออดอ้อน ถึงชายหนุ่มจะเป็นแฟนพี่สาวเธอแล้วยังไง ในเมื่อเธออยากได้พณิตพิชาก็ต้องยอมหลีกทางให้เธออย่างแน่นอน
“ฉันไม่สนใจหรอก เพราะตอนนี้คุณเป็นแค่แฟนลูกแก้ว ยังไม่ได้แต่งงานกันเสียหน่อย อีกอย่างลูกแก้วก็ยังมีผู้ชายอีกเยอะแยะ ฉันว่าลูกแก้วคงไม่สนใจคุณเท่าไรหรอก”
คำพูดของพิมพ์นาราส่งผลให้พชรพงศ์เจ็บปวดไม่น้อยเลยทีเดียว สายตาคมแข็งกร้าวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ภาพที่เขาเห็นเมื่อช่วงเย็นมันเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าแฟนสาวนอกใจเขาอย่างแน่นอน
“ถึงลูกแก้วไม่สนใจคุณ แต่ฉันจะไม่ทิ้งคุณอย่างแน่นอน”
“คุณแน่ใจเหรอที่พูดออกมานะ”
ชายหนุ่มถามเหมือนละเมอ หรืออาจเป็นเพราะคืนนี้เขาดื่มมากไปหรือเปล่าถึงได้ถามเธอไปแบบนี้
“แน่ใจสิคะ หากคุณเลิกกับลูกแก้วแล้วมาคบกับฉัน”
มือบางยกขึ้นมาลูบไล้แผงอกอย่างเชิญชวน ก่อนจะก้มใบหน้าลงมากระซิบเบาๆ ข้างหูอีกว่า
“ถึงลูกแก้วไม่ต้องการคุณแต่น้ำต้องการคุณนะ”
พชรพงศ์เงยใบหน้าคมขึ้นมาสบตาพิมพ์นาราอย่างค้นคว้า ก่อนที่เขาจะโดนอีกฝ่ายก้มลงมาจูบปากเขาอย่างเร่าร้อน มือหนาวางแก้วเหล้า ยกมือหนาขึ้นมาโอบต้นคอระหง ก่อนจะกดริมฝีปากหนากลับไปอย่างร้อนแรงไม่ต่างกัน
ภัทรพลยืนมองการกระทำนั้นอย่างพอใจ ก่อนขอตัวเพื่อกลับบ้าน อีกไม่นานความฝันของเขาก็กำลังจะเป็นจริง ผู้หญิงที่เขารักกำลังจะเป็นอิสระ
/////////
ร่างสูงใหญ่นั่งรอน้องชายด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่ชายหนุ่มพาน้องชายไปเจอพณิตพิชา ตั้งแต่เมื่อวาน ป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่เห็นหน้าน้องชายเลย รู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก สายตาเหลือบขึ้นไปมองนาฬิกาบนโต๊ะอย่างกังวล
“นายหายไปไหนนะเล็ก”
เสียงเข้มพึมพำด้วยความเป็นห่วง ไม่เคยเลยสักครั้งที่น้องชายจะทำตัวแบบนี้ รู้สึกชิงชังพณิตพิชาไม่น้อยที่ทำให้ครอบครัวเขาต้องเป็นแบบนี้
“เพราะเธอคนเดียวพิชา ถ้านายเล็กไม่รู้จักเธอ น้องชายฉันก็คงไม่ต้องเจ็บปวด”
น้ำเสียงเครียดแฝงไปด้วยความโกรธแค้น จากนี้ไปทุกอย่างคงจะดีขึ้นหากพณิตพิชาไม่เข้ามาวุ่นวายกับพชรพงศ์อีก ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมตัวใหญ่อย่างเหนื่อยล้า บางทีเขาคงต้องไปคุยกับพณิตพิชาอีกครั้ง และขอให้เธอเลิกยุ่งกับน้องชายเขา เพราะตอนนี้เหตุการณ์มันยังไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าพชรพงศ์จะเชื่อในสิ่งที่เขาบอกแค่ไหน หากทั้งสองเจอกันทุกอย่างอาจจะล้มไม่เป็นท่าก็ได้
“มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง เข้ามาหาฉันหน่อยสิ” พิชิตพงศ์ตะโกนเสียงดังลั่นจนเลขาหน้าห้องถึงกับสะดุ้งไปเลยทีเดียว หญิงสาวหันไปมองสองหนุ่มด้วยความตกใจ
“ดาวว่าคุณนารากับคุณกรรชัยรีบเข้าไปเถอะค่ะ ถ้าช้ามีหวังท่านประธานคงเดือดกว่านี้ ช่วงนี้ท่านก็แปลกไปนะคะ อารมณ์เสียบ่อยมาก” เลขาสาวบ่นออกมาอย่างไม่ตั้งใจ มองสบตาสองหนุ่มอย่างหวาดกลัว นับวันอาการของเจ้านายเธอก็ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน
กรรชัยและนาราได้แต่อมยิ้มกับท่าทางของดวงดาวเลขาสาวของเจ้านายหนุ่ม ไม่ใช่แต่หญิงสาวหรอกที่หวาดกลัว พวกเขาก็ยังหวั่นใจ อยู่เหมือนกัน นับวันอาการของนายหนุ่มก็เปลี่ยนไปจนน่ากลัวนับตั้งแต่เกิดเรื่อง…
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...