Chapter 21

2190 คำ
คลั่งรองคลุ้มคลั่ง หนึ่งในสมาชิกระดับขุนศึกของแก๊งขวานซิ่ง ในอดีตถูกทิ้งให้ตายบนกองขยะ ไม่มีใครรู้ว่าแม่ของทารกน้อยคือใคร ภายหลังทารกถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า คลั่งรองคุ้มคลั่งอายุได้เจ็ดปี ด้วยรูปร่างที่ผอมมักถูกเด็กคนอื่นกลั่นแกล้ง แต่ได้เด็กโตคนหนึ่งช่วยเอาไว้ พร้อมกับเด็กอีกคนที่อายุน้อยกว่า ทั้งสามตัดสินใจพากันหนีออกจากบ้านเด็กกำพร้า เนื่องจากหนึ่งในสามเผลอทำร้ายลูกชายของ ผอ. บ้านกำพร้าจนถึงชีวิต ส่งผลให้เด็กทั้งสามต้องเอาชีวิตรอดในฐานะเด็กเร่ร่อน พร้อมทั้งให้คำสัตย์สาบานเป็นพี่น้องไม่ทิ้งกัน กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนชีวิตก็คือ การได้เจอกับโอโตฮวาแห่งแก๊งขวานซิ่ง ซึ่งมันทำให้เด็กเร่ร่อนไร้ที่พึ่งพิงมีที่ซุกหัวนอน และได้กินอาหารให้อิ่มท้องแม้ว่าในอนาคต จะต้องแลกกับสิ่งที่จะทุกข์ทรมานตามมาก็ตาม นั้นคือคลั่งรองคลุ้มคลั่งในวัยไม่ถึงสิบสองปี ถูกนำตัวไปดัดเเปลงร่างกายจนบิดเบี้ยวผิดรูปผิดร่าง จนเรียกได้ว่าไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ และมันก็เริ่มเข้าสู่การเป็นมือสังหารของแก๊งขวานซิ่ง ภายใต้บัญชาการมาเฟียตระกูลปลาทอง ปีศาจร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายเช่นนี้ ใครกันล่ะ ? ที่จะมาดับลมหายใจของมัน +++++ หลี่ชิงชิงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ขยายมาทางคลั่งรองคลุ้มคลั่ง เธอรับรู้ได้ในทันทีว่าต่อจากนี้ต่างหากล่ะคือศึกหนัก ฉับพลันยังไม่ทันจะนับลมหายใจหนึ่งถึงสิบ ร่างของศัตรูก็หายไปต่อหน้าต่อตาแล้ว สร้างความตกใจให้กับหลี่ชิงชิงพอสมควร ทว่าขณะเดียวกันก็สามารถตั้งสติของตัวเองกลับมาได้ หลี่ชิงชิงจับกระบี่แน่นและกวาดตามองไปรอบ ๆ กลับไม่พบตัวศัตรูจนกระทั่งมีอะไรบางอย่าง อยู่เหนือศีรษะของหลี่ชิงชิงฟาดแหวกอากาศตรงมาที่เธอ เดชะบุญที่หลี่ชิงชิงไหวตัวทันและเบี่ยงหลบไปทางซ้าย ทำให้รอดจากท่อนแขนอันใหญ่ยาวของคลั่งรองคลุ้มคลั่งได้แบบเส้นยาแดง ทว่ามันไม่ได้จบแค่นั้นเมื่อแขนขาว ไล่หวดฟาดใส่หลี่ชิงชิงชนิดที่ไม่ให้เธอโต้กลับได้ แถมเธอยังพบว่าแขนของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง แม้จะมีขนาดใหญ่และยาวจนไม่น่าจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ซึ่งหลี่ชิงชิงคิดผิดเพราะนอกจากจะโจมตี ด้วยความเร็วแล้วมันยังให้ความรู้สึกเหมือนว่า แขนของคลั่งรองคลุ้มคลั่งเคลื่อนไหวราวกับงู ที่กำลังเลื่อยไล่ล่าเหยื่อของมัน ความคิดแวบแรกของหลี่ชิงชิงคือ แก๊งขวานซิ่งทำอะไรกับร่างกายของคนนี้กันแน่ "มองไปทางไหนหรือ นังหนู !" "ข้างบน !" หลี่ชิงชิงม้วนตัวหลบการโจมตีของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง ชนิดเส้นยาแดงเพราะอีกนิดเดียวเธออาจแหลกคาแขนของมัน เมื่อถอยมาตั้งหลักได้แล้วเธอรวบรวมพลังไฟธาตุวายุ ไว้ที่กระบี่ของตัวเองอีกครั้งพร้อมเพ่งสมาธิ จ้องมองการเคลื่อนไหวการบังคับแขนของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง เห็นได้ชัดว่าแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่กลับเคลื่อนที่ได้แบบอิสระแสดงให้เห็นว่า ศัตรูคนนี้คงฝึกฝนมาอย่างหนักเพื่อใช้งานร่างที่บิดเบี้ยวนี้ได้ วิธีเดียวที่จะเอาชนะคลั่งรองคลุ้มคลั่งได้ ก็คงไม่พ้นต้องดับลมหายใจของมัน หลี่ชิงชิงพุ่งตัวเข้าโจมตีด้วยความเร็วสูง เพื่อให้ศัตรูไม่อาจจับความเคลื่อนไหวของเธอได้ แขนใหญ่พุ่งเข้าจู่โจมเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย นาทีนั้นหลี่ชิงชิงจึงตวัดกระบี่เฉือนผิวเนื้อ ของคลั่งรองคลุ้มคลั่งไปได้หลายแผลทว่าหลี่ชิงชิงสัมผัสได้อีกอย่าง ตอนที่เธอตวัดกระบี่ออกไป ในจังหวะที่คมกระบี่เข้าสัมผัสตรงผิวเนื้อ หลี่ชิงชิงรับรู้ว่าผิวแขนของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง คมกระบี่ของเธอฟันเข้าเนื้อไม่ลึกมาก มันเหมือนเธอเอากระบี่ฟันกับเนื้อไม้มากกว่า [พลังมานาของหมอนี้แกร่งมาก กระบี่เราเลยฟันไม่ลึก] หลี่ชิงชิงคิด ทันใดนั้นเอง.... หลี่ชิงชิงสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น เธอก้มมองที่บริเวณท้องถึงเอวมีมีดสองเล่มแทงที่ท้องกับเอว หลี่ชิงชิงตกใจไม่น้อยและไม่รู้ว่ามีดพุ่งมาทางไหน กระทั่งคลั่งรองคลุ้มคลั่งปรากฏตัวต่อหน้า ที่มือซ้ายปกติของมันถือมีดอยู่สามถึงสี่เล่ม หลี่ชิงชิงพยายามฝืนที่จะลุกขึ้น โดยเอากระบี่ยันตัวให้ลุกขึ้นยืน อีกทั้งยังดึงมีดทั้งสองออกจากตัวออก เดชะบุญที่มันแทงไม่ลึกมาก ทว่าหลี่ชิงชิงก็เสียเลือดไม่น้อยเลยเช่นกัน เธอโยนมีดทั้งสองทิ้งลงพื้นและเตรียมสู้ต่อ คลั่งรองคลุ้มคลั่งคาดไม่ถึงว่าศัตรูคนนี้ จะใจเด็ดสู้ตายไม่เกรงกลัว เมื่อเทียบกับศัตรูในอดีตที่ผ่านมา มันจึงคิดว่าไม่ควรประเมินเด็กสาวตรงหน้าต่ำเกินไป เพียงเพราะอายุยังน้อยและเป็นสตรี ที่สำคัญความใจเด็ดเดี่ยวของหลี่ชิงชิงก็มีไม้แพ้กับบุรุษ เห็นทีคงถึงเวลาที่คลั่งรองคลุ้มคลั่งต้องดับหายใจเธอคนนี้เสียแล้ว เสี้ยววินาทีนั้นมันก็ใข้แขนขวา เข้าโจมตีใส่หลี่ชิงชิงหวังปิดเกมในคราวเดียว ขณะเดียวกันแม้ร่างกายจะบาดเจ็บหนัก แต่เธอก็รวบรวมทั้งสมาธิและพลัง พร้อมเพ่งจิตไปที่แขนเพซฌฆาตตรงหน้า [เจอแล้ว !] หลี่ชิงชิงรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีพุ่งตัวตรงไปข้างหน้า โดยเธอกัดฟันทนต่อความเจ็บปวด และหลบหลีกการโจมตีของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ส่วนกลางของแขน ซึ่งมันก็คือข้อพับแขนในจังหวะโอกาสเดียว หลี่ชิงชิงสะบัดกระบี่ตรงไปยังเป้าหมาย พริบตาเดียวคมกระบี่ก็ฟันเฉือนข้อพับไปหลายแผล มันทำให้คลั่งรองคลุ้มคลั่งชะงักและหยุดโจมตี แม้จะแค่เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเดียว หลี่ชิงชิงก็ต้องการจะปิดงานนี้ให้เร็วที่สุด เธอจึงพุ่งเข้าโจมตีใส่ศัตรูอีกรอบ ทว่าแขนอันใหญ่โตของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง ก็ฟาดเข้าที่ข้างลำตัวของหลี่ชิงชิงจนเธอปลิวกระเด็นล้มไถลพื้น ตามด้วยเสียงคำรามกึกก้องของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง มันจ้องมองหลี่ชิงชิงด้วยแววตากินเลือดกินเนื้อ เสี้ยววินาทีนั้นหลี่ชิงชิงรู้ในทันทีว่า เธอทั้งใจร้อนและประมาทเกินไป ที่สำคัญดูเหมือนศัตรูตรงหน้า เริ่มเอาจริงแล้วด้วยการปล่อยพลังมานาออกมา ไม่นานคลั่งรองคลุ้มคลั่งก็พุ่งตัวเข้าหาหลี่ชิงชิง โดยหมายจะใช้กรงเล็บในมือซ้ายปลิดชีพเธอเสีย เสี้ยววินาทีนั้นแม้มันจะสั้นแต่มันช่างยาวนานมากพอ ที่จะทำให้หลี่ชิงชิงหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต ภาพของคลั่งรองคลุ้มคลั่งทับซ้อนกับภาพของพลตำรวจตรีหลี่เฉิงไห่ ปู่ทวดที่กำลังฝึกฝนสอนวิชากระบี่แก่เธอ พริบตานั้นเองหลี่ชิงชิงตั้งสติได้ก็หลบการโจมตี ด้วยการก้มตัวลงต่ำส่งผลให้กรงเล็บของคลั่งรองคลุ้มคลั่ง เฉียดศีรษะของหลี่ชิงชิงไปเล็กน้อย เสียงเสียดสีของกรงเล็บกับผิวหมวกเหล็ก แสบแก้วหูเล็กน้อยก่อนเธอจะใช้ฝ่ามือซ้าย ซัดไปที่ข้างลำตัวของศัตรูเต็มแรง ฝ่ามือไฟธาตุวายุอัดกระแทกจนกระดูก รวมทั้งอวัยวะภายในปั่นปวน จนคลั่งรองคลุ้มคลั่งถึงกับทรุดฮวบ พร้อมอาเจียนของเหลวปนเลือดออกมา หลี่ชิงชิงสบโอกาสตั้งใจจะจัดการศัตรูในกระบี่เดียว "พี่รอง ! ข้ามาช่วยแล้ว" เสียงตะโกนจากฝั่งด้านซ้ายมือทำให้หลี่ชิงชิง รีบก้าวถอยหลังในทันทีจึงรอดพ้นจากอาวุธสังหารของศัตรูไว้ได้ ไม่ต้องถามถึงว่ามันเป็นใครให้เสียเวลา เพราะหลี่ชิงชิงจำได้ว่ามันคือ คลั่งสามเพ้อคลั่ง น้องเล็กสุดในสามคลั่ง และมีพละกำลังด้อยสุด ทว่าก็ยังไม่ควรประมาทเนื่องด้วยอาวุธประจำกายคือ นวมเหล็กตุ้มหนามสองอันที่มันสวมไว้ คราบเลือดเกาะอยู่บริเวณนวมเหล็กตุ้มหนาม บอกให้รู้ว่าอาวุธชิ้นนี้ประหัตประหารชีวิตคนไปมากแค่ไหน ด้านคลั่งรองคลุ้มคลั่งก็ลุกขึ้น "นั่นศัตรูของข้า อย่าเข้ามายุ่ง !" มันหันไปตวาดใส่คลั่งสามเพ้อคลั่งอย่างไม่พอใจ "แต่พี่รอง ! มันเกือบฆ่าพี่แล้วนะ ถ้าผมไม่มาช่วย..." คลั่งสามเพ้อคลั่งพูดขึ้น และใข้นวมเหล็กตุ้มหนามชี้มาทางหลี่ชิงชิง ทันใดนั้นเองพื้นดินบริเวณใกล้ ๆ ลานจอดรถก็พังครืน พร้อมกับการปรากฏตัวของชายร่างใหญ่ คลั่งใหญ่บ้าคลั่งนั้นเอง สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่าย่ำแย่มากสำหรับหลี่ชิงชิง แค่ศัตรูอย่างคลั่งรองคลุ้มคลั่ง ก็รับมือยากพอแล้วแต่นี้มันมีกันสามคนสามคลั่ง เธอรู้ดีว่าไม่มีทางรับมือกับพวกมันได้แน่ "พี่ใหญ่ ! พี่รองบาดเจ็บ" คลั่งสามเพ้อคลั่งพูดขึ้นและชี้มาทางหลี่ชิงชิง "ฝีมือนางนั่น !" คลั่งใหญ่บ้าคลั่งหันขวับมาทางคลั่งรองคลุ้มคลั่ง พบร่องรอยของบาดแผลตามแขนขวา และรอยช้ำบนตัว "ฝีมือมันใช่ไหม น้องรอง" มันถามน้องชายของมัน ก่อนจะหันมาแผ่จิตสังหารใส่หลี่ชิงชิง สร้างแรงกดดันมหาศาลไม่น้อย เล่นเอาเธอหายใจแทบไม่ออก แต่ถึงกระนั้นเธอก็เลือกที่จะสู้หากไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ฝั่งสามคลั่งเองก็คงไม่ปล่อยศัตรูอย่างหลี่ชิงชิงเช่นกัน ทว่าทันใดนั้นเองที่มีใครบางคน วิ่งตรงเข้าหาสามคลั่งด้วยความเร็วสูงและจบด้วยการกระโดดถีบใส่พวกมัน คลั่งรองคลุ้มคลั่งเห็นพี่ใหญ่กับน้องเล็ก ถูกลอบโจมตีมันก็ตั้งใจจะไปช่วย แต่ถูกขัดขวางไว้โดยหลี่ชิงชิง เธอพุ่งตรงเข้าหาคลั่งรองคลุ้มคลั่ง และซัดฝ่ามือเข้ากลางอก ส่งร่างของมันปลิวกระเด็นไปหลายเมตร หลี่ชิงชิงหันมาทางขวามือพบว่าคนที่แจกลูกถีบสองคลั่ง ก็คือปรมัตถ์กับบุญธร ซึ่งเธอแปลกใจที่เห็นปรมัตถ์วิ่งมาถึงตรงนี้ เพราะถูกจากระยะทางไม่ได้ใกล้กันเลย ปรมัตถ์แม้จะเหนื่อยหอบมากแค่ไหน แต่เขาก็สนใจอาการบาดเจ็บของหลี่ชิงชิงมากกว่า "เธอบาดเจ็บนี่ !" ปรมัตถ์พูดและรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น "ฝีมือใคร" เขาถามด้วยเสียงที่พร้อมจะบดขยี้คนที่บังอาจทำร้ายหลี่ชิงชิง "ฉันไม่เป็นไร บอม" หลี่ชิงชิงพูดขณะที่ตายังคอยระวังภัยให้ปรมัตถ์ "ฉันก็เป็นทหารนะ อย่าลืมสิ" ด้านบุญธรก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่พุ่งมาทางเขา ฉับพลันคลั่งสามเพ้อคลั่งซึ่งไม่รู้ว่าปรากฏตัวม่ตอนไหน แค่มันวิ่งเข้าชนใส่บุญธรจากทางขวามือ โดยการเหวี่ยงหมัดนวมเหล็กตุ้มหนามใส่ยุวชนทหาร เดชะบุญเขาไหวตัวทันจึงสร้างบาเรียอันเกิดจากพลังไฟธาตุอัคคี ป้องกันการโจมตีของคลั่งสามเพ้อคลั่งได้ทัน ทว่าแรงหมัดก็ส่งร่างบุญธรถอยรูดไปหลายก้าวพอสมควร ปรมัตถ์กับหลี่ขิงชิงตกใจไม่น้อย แต่ก็มีเวลาตกใจได้ไม่นาน คลั่งใหญ่บ้าคลั่งวิ่งตรงมาทางทั้งสองชนิดไม่ให้ตั้งตัว เคราะห์ดีที่ปรมัตถ์จับอุ้มหลี่ชิงชิง และใช้พลังควบคุมวายุหลบคลั่งใหญ่บ้าคลั่งแบบฉิวเฉียด ทั้งสองตามมาสมทบกับบุญธรและหันมาเผชิญหน้ากับสามคลั่ง "นายบาดเจ็บตรงไหนไหม" ปรมัตถ์หันมาถามบุญธร "อวัยวะยังอยู่ครบ" บุญธรตอบและมองหน้าคลั่งสามเพ้อคลั่ง "ไอ้นวมเหล็กตุ้มหนามนั่น ฉันขอละกัน" พูดจบบุญธรก็บิดข้อมือเสียงดัง เป็นการบอกว่าพร้อมลุย "ส่วนฉัน.... มีบัญชีจะสะสางกับคลั่งรองคลุ้มคลั่งเอง" หลี่ชิงชิงตอบโดยไม่ต้องให้ปรมัตถ์ถาม เขาถอนหายใจและจ้องมองคลั่งใหญ่บ้าคลั่ง ก่อนที่ดวงตาของปรมัตถ์จะกลายเป็นสีฟ้า "ดีเลย ฉันขอจัดการไอ้แรงควายนั่นก็แล้วกัน" +++++

อ่านด้วยแอป

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม