"สิ่งที่เธอขอมามันไม่ใช่น้อยเลยนะ เธอคิดว่าตัวของเธอมีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ" คำพูดของเขาที่พูดออกมาแต่ละคำมันช่างไม่น่าฟังยิ่งนัก
แต่หญิงสาวต้องได้กล้ำกลืนทนฟัง เพราะเหตุผลบางอย่าง
"ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีคุณค่ามากขนาดนั้น แต่คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้เพื่อแลกกับมัน"
"ทำอะไรก็ได้? นอกจากเรื่องบนเตียงแล้ว.. เธอยังทำอะไรได้อีก..ไหนลองพูดมา"
น้ำลายได้ถูกกลืนลงคอของคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า เธอพยายามจะสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่ให้เขารู้ว่าเธอไม่พอใจกับคำพูดมากแค่ไหน
"ฉันไม่รู้ว่าคุณเครียดแค้นอะไร แต่สิ่งที่คุณยึดไป มันสำคัญมากกับคนที่ใกล้จะ.." น้ำตาได้ไหลออกมาจากดวงตางามคู่นั้น เธอพยายามจะกลั้นมันไว้แต่ก็กลั้นไม่อยู่
เขาไม่ได้เอาไปแค่เงินทองที่เธอมี แต่สิ่งที่มีค่ากว่านั้นก็อยู่ในมือของเขา...
"เสี่ยครับ" ทันใดนั้นลูกน้องคนสนิทก็เดินเข้ามาส่งสัญญาณ
"รู้แล้ว" เขารู้ทั้งๆ ที่ลูกน้องยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
"วันนี้ฉันยังไม่ว่างเล่นกับเธอ" จบคำพูดผู้ชายร่างสูงใหญ่ แต่ทว่าดูแล้วสมส่วนมาก ก็ได้ยันกายลุกขึ้นยืน
"คุณจะไปที่ไหน กว่าฉันจะขอเข้าพบคุณได้ ฉันขอคุยกับคุณอีกแป๊บหนึ่งได้ไหม" หญิงสาวถึงกับหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นเขาสวมเสื้อสูท เพื่อเตรียมพร้อมจะออกไป
แต่ดูท่าทางเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูดเลย เพราะเขาจงใจให้เธอเข้าพบยากเอง
สิงหราชก้าวเดินมาที่รถโดยมีคนตัวเล็กวิ่งตามหลังมา พอประตูรถเปิดออก หญิงสาวก็รีบเปิดประตูอีกฝั่งเพื่อขึ้นไปนั่ง ยังดีวันนี้เธอต้องพูดกับเขาให้รู้เรื่อง..
"ออกรถ"
"แต่เสี่ยครับ"
คนที่นั่งด้านหน้าประกบคู่กับคนขับ หันมามองหน้าเจ้านาย เหมือนเป็นเชิงถามว่าพาเธอไปด้วยได้จริงเหรอ
"มึงจะกลัวอะไรก็แค่ตายเพิ่มอีกคน"
รถคันหรูได้ถูกขับออกจากคฤหาสน์หลังงาม ตามคำสั่งของผู้เป็นนาย
หญิงสาวร่างบางที่นั่งมาด้านข้าง พยายามมองออกไปด้านนอกตลอดเวลาว่าเขาจะไปที่ไหน
"มันส่งของกันที่ไหน"
"แถวโกดังห้าครับ"
..ส่งของ? ย***าเหรอ หรือว่าอาวุธปืน.. คิ้วงามขมวดเข้าหากัน แต่ก็ไม่กล้ามองกลับมาดูคนที่นั่งอยู่ข้างกาย เพราะกลัวเขาจะรู้ว่าเธอสนใจสิ่งที่เขาพูดกับลูกน้อง
และเพียงไม่นานหลังจากที่พวกเขาพูดคุยกัน รถก็ได้มาหยุดอยู่ที่โกดังแห่งหนึ่ง
ผู้ชายร่างกำยำทั้งสาม ได้ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโกดังแห่งนั้น ทิ้งให้เธอได้แต่มองตาม
..อะไรกันจะให้เราอยู่ในรถคนเดียวเหรอ.. หญิงสาวมองซ้ายมองขวา และทันใดนั้นเธอก็ตัดสินใจลงจากรถแล้วแอบเดินตามเข้าไป
"ไปไหนกันแล้ว? ก็เราเห็นเดินมาแถวนี้นี่??" ตอนนี้ดูท่าทางไม่ปกติแล้ว เธอก็เลยรีบออกมาข้างนอก ..รถหาย? ไอ้บ้าเอ๊ยมันหลอกฉันเหรอเนี่ย!!
หญิงสาวได้แต่ยืนมองซ้ายขวา ..แล้วเราจะกลับยังไงเข้ามาลึกขนาดนี้ ตอนนี้รู้แล้วว่าเสียรู้
เย็นวันเดียวกันนั้น..
"ไปทั้งวันไม่ได้เรื่องอะไรเลยเหรอ"
"คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ"
"จะถามทำไม!"
"ฉันขอเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อหน่อยได้ไหม"
"ถ้าทำงานแค่นี้แล้วไม่สำเร็จ ก็ไม่ต้องเสนอหน้าเข้าไปให้คุณพ่อเห็น!..กลับบ้านแม่ของเธอซะ!!"
"พี่คะ" อัปสรสุดา..คือชื่อของเธอ ชื่อเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ใช่ไหมล่ะ แต่จริงๆ แล้ว ชีวิตของเธอไม่ได้งดงามเหมือนดังชื่อและหน้าตาเธอเลย
"ใครพี่มึง!" อัจฉราภรณ์..คือชื่อของพี่สาว ซึ่งหมายถึงนางฟ้าเหมือนกัน
..ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่สาวถึงมีคำพูดแบบนี้กับน้องสาว ใช่แล้วอัปสรสุดาเป็นลูกสาวอนุภรรยาของตระกูลใหญ่โต..แต่นั่นเป็นเพียงอดีตนะ เพราะเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ตระกูลนี้เริ่มเจอกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพราะฝีมือของใครบางคนที่ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว จนถูกฟ้องล้มละลาย และพ่อของพวกเธอทั้งสองถึงกับเส้นเลือดในสมองตีบตัน..ขยับตัวแทบจะไม่ได้
"ก็ได้ค่ะ น้องจะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง" สายตางามมองเข้าไปในห้องแบบตาละห้อย เพราะเป็นห่วงผู้เป็นพ่อที่นอนอยู่ในนั้น
หลายวันต่อมา..
"ทำไมเราต้องได้มาที่แบบนี้ด้วยเนี่ย" อัปสรสุดามองดูป้ายสถานบันเทิงขนาดใหญ่ ที่ที่ไฮโซโก้หรูชอบมาเที่ยวกัน
"ได้ผู้หญิงมาหรือยัง" แชมป์ลูกน้องมือขวา ถามพวกลูกน้องที่เขาสั่งไปอีกที
"ได้มาสามคนครับ ขาวจั๊วะทั้งนั้นเลย ถ้าเสี่ยไม่เอาผมขอนะ" มีการกระซิบกระซาบเกิดขึ้น
"พูดมาก! ไปเอาตัวมา.."
"มาแล้วครับ"
"ทำไมผู้หญิงคนนี้หน้าคุ้นจังวะ" แชมป์มองดูผู้หญิงคนที่สาม..ที่เดินก้มหน้าก้มตาเข้ามากับอีกสองคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาก่อน
"เสี่ยขาาา" พอเข้ามาถึงด้านใน สาวๆ ต่างก็แย่งกันไปนั่งข้างสิงหราช
"อุ๊ย..นี่แก!!" ผู้หญิงคนที่สอง ถูกคนที่สามเบียดออก เพราะแย่งเข้าไปนั่งข้างชายหนุ่มที่ทุกคนเรียกว่าเสี่ย
พอเธอนั่งเบียดเขาได้ สายตาคมก็มองไปที่ลูกน้องคนสนิท เพราะตอนนี้สิงหราชรู้แล้วว่าผู้หญิงหนึ่งในสามนี้คือใคร..