บทที่3

1540 คำ
“นั่นมันเป็นปัญหาของพวกคุณจริงไหม!” ดวงตะวันเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเจอเข้ากับคำสวนที่ทำให้เธอเถียงไม่ออกนานนับนาที ดูเหมือนว่าเขาจงใจแกล้งกันซะมากกว่าคิดอยากจะทวงหนี้กันจริงๆ “ดวงไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ มันพอจะเป็นไปได้ไหมคะถ้าคุณจะให้ดวงทำงานชดใช้หนี้แทนน้าธนา” หญิงสาวเอ่ยขึ้นหลังจาก ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำห้องทั้งห้องมาพักใหญ่ๆ “เงินตั้งสามล้านเธอคิดว่าตัวเองต้องทำงานไปสักกี่ชาติกว่าจะชดใช้ให้ฉันได้หมด!”วาคิมตอบแบบไม่ต้องใช้ความคิด สายตาของเขาจ้องมองกันเหมือนจะสมเพชนั่นยิ่งทำให้คนมองมันยิ่งเจ็บปวดยิ่ง ท่าทางของเขาดูเปลี่ยนไปมากในความรู้สึกของเธอ “ถ้างั้นก็จับฉันส่งตำรวจเถอะคะ เพราะว่าฉันคงไม่มีปัญญาหาเงินมากมายขนาดนั้นมาคืนให้คุณ” ดวงตะวันเอ่ยตอบพร้อมเรียกแทนตัวเองว่าฉันเหมือนอย่างที่เขาใช้แทนตัวเองเวลาพูดกับเธอ ไม่จำเป็นเลยที่เธอจำต้องทำตัวสนิทสนมกับคนที่ไม่อยากสนิทด้วย ก็รู้ว่าเขาโกรธและเกลียดกันมาก แต่ก็อาจห้ามความไม่พอใจของตัวเองได้เลยเวลาที่เห็นเขาทำท่าเหมือนเธอไม่มีความหมายอะไรกับเขา ทั้งๆ ที่ถ้าเขาจะรู้สึกแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด “ฉันมีข้อเสนอมาให้เธอขึ้นอยู่กับเธอแล้วว่าจะรับหรือไม่รับ” “ข้อเสนอแบบไหนคะ” “มาเป็นนางบำเรอให้ฉันสิดวงตะวัน! ฉันให้เธอต่อครั้งครั้งละสามแสน สักสิบครั้งก็น่าจะทำให้เธอปลดหนี้ให้น้าได้แล้ว…เป็นไงข้อเสนอของฉัน น่าสนออกว่าไหม งานง่ายๆ ก็แค่นอนถ่างขาบนเตียง” ข้อเสนอของเขาทำให้อีกคนแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้ฟังมัน ดวงตะวันได้แต่จ้องมองผู้ชายที่เธอรักด้วยสายตาผิดหวัง ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะกล้ายื่นข้อเสนอแบบนี้มาให้ ไม่อยากเชื่อเลย “คุณ!” “เก็บเอาไปคิดดูก่อนก็ได้ ยังเหลือเวลาตัดสินใจอีกตั้งสามวัน…แต่เธอควรคิดถึงลมหายใจของน้าเธอให้มากๆ เพราะว่าถ้าควรเจ็บวันแล้วฉันยังไม่ได้ที่ต้องการ ลูกปืนนัดต่อไปที่มันจะทะลุเข้าร่างน้าเธอมันอาจจะมาจากลูกน้องของฉันก็ได้!” คนใจร้ายฝากคำพูดเอาไว้เท่านั้นก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินหนีกันออกไปจากห้อง ทิ้งข้อเสนอเอาไว้ให้ดวงตะวันคิด และได้ตัดสินใจด้วยตัวเองตามลำพัง หญิงสาวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพาตัวเองกลับมาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อไหร่ กว่าจะได้สติก็ตอนที่ได้เห็นคุณหมอวิ่งเข้าออกในห้องพักฟื้นของน้าเธอไม่ต่ำว่าสามคน เธอพยายามจะเข้าไปด้านในแต่กลับถูกกันเอาไว้จากพยาบาลโดยที่ให้เหตุผลแค่ว่าอาการของน้าเธอกำลังแย่ และหมอกำลังยื้อชีวิตของเขาด้วยทุกความสามารถที่มี “หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ คนไข้เสียชีวิตแล้ว” ทว่าความหวังทั้งหมดกลับสูญสลายลงไปในครึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อคุณหมอเดินออกมาจากบอกข่าวร้ายที่ทำให้โลกทั้งใบของเธอดับวูบ “ฮึก! ไม่จริง….” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากสวยก่อนที่สติทั้งหมดของเธอจะดับไปพร้อมกับความจริงที่ยากจะยอมรับได้ว่าน้าชายที่เป็นญาติเพียงคนเดียวบัดนี้ได้จากกันไปแล้ว จากไปพร้อมๆกับหนี้สินที่ท่านทิ้งเอาไว้ให้ต้องชดใช้ก่อนจาก คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าต้องมานั่งรับรู้ถึงหนี้สินของผู้เป็นน้าในงานศพอีกแล้ว ตลอดวันทั้งวันดวงตะวันต้องรับมือกับเจ้าหนี้ไม่ต่ำกว่าหกคนของน้าชายเธอที่ต่างก็ปรี่เข้ามาแสดงความเสียใจก่อนจะข่มขู่ให้เธอชดใช้หนี้สินทั้งหมดแทน แม้ว่าบางรายอาจจะไม่มากเท่าไหร่ แต่บางรายก็ทำให้เธอรู้สึกหน้ามืดได้เหมือนกันโดยเฉพาะรายสุดท้ายที่เดินเข้ามาภายในงานพร้อมพวงหรีดพวงใหญ่ที่คนสนิทเขาถือตามหลังมาติดๆ จนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “เสียใจด้วย” วาคิมเอ่ยเพียงสั้นๆ ก่อนหันไปพยักหน้าให้ประวีจัดการนำพวงหรีดไปแขวนส่วนเขาก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ อีกคนอย่างถือวิสาสะ “ขอบคุณค่ะ” ดวงตะวันตอบกลับไปพร้อมเบือนหน้าหลบสายตาที่มันไม่ได้อบอุ่นอีกแล้วในตอนนี้ พี่คิมที่แสนใจร้ายของเธอตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ที่เหลืออยู่ตรงหน้ามีแค่คุณวาคิมคนใจร้ายเท่านั้น “ตัดสินใจได้รึยังว่าจะเลือกทางไหน…” “ยังเหลือเวลาอีกสองวัน ดวงขอคิดดูก่อนค่ะ” เธอตอบพร้อมนึกไปถึงเสี่ยไพบูลย์เจ้าหนี้รายใหญ่ของน้าชายที่หนี้สินที่ต้องชดใช้ให้ฝ่ายนั้นก็มากพอๆ กับวาคิมถึงสองล้านบาท แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่ยื่นข้อเสนอแบบนั้นมาให้ เสี่ยแก่คนนั้นก็เป็นอีกคน หากให้เลือกแน่นอนว่าเธอขอเลือกวาคิมคนที่เธอรักและยังรักอยู่ แต่นั่นมันก็แค่การตัดปัญหาหนี้สินของเขาไปคนเดียวเท่านั้น แล้วหนี้สินจากเจ้าหนี้รายอื่นๆ เล่าจะไปหาเงินมาจากไหนเพื่อชดใช้ “คุณวาคิมคะ…” “มีอะไรพูดมา” ดวงตะวันสูดลมหายใจเข้าปาดก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าดวงตกลงรับข้อเสนอของคุณ…คุณจะช่วย…จัดการหนี้ของคนอื่นๆ ให้ดวงได้ไหมคะ” คนได้ฟังหัวเราะออกมาเบาๆ ซึ่งการกระทำของเขานั้นทำให้ดวงตะวันปวดร้าวไม่น้อย เขาคงมองว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย ที่พร้อมจะอ้าขาให้เขาทุกเมื่อเพื่อแก้ปัญหาไปแล้ว แต่ให้เธอทำอย่างไร ในเมื่อมองหาทางเลือกอื่นแทบไม่เจอ “เท่าที่ฉันรู้แค่หนี้ของไอ้เสี่ยไพบูลย์นั่นก็สองล้านกว่าเข้าไปแล้ว เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมเสียเงินมากขนาดนั้นเพราะผู้หญิงอย่างเธอเหรอดวงตะวัน” คนฟังเจ็บลึกไปถึงกลางใจ มันเจ็บจนต้องมองเขาให้ชัดๆ ว่าเจ้าของคำพูดใช่คนที่เคยอ้าแขนปกป้องเธอมาตลอดรึเปล่า ยิ่งได้เห็นว่ามันคือเขาหัวใจของเธอก็ยิ่งเจ็บ นี่คงเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะได้เห็นมาโดยตลอดใช่ไหม ความเจ็บช้ำในใจเธอ “ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือซะว่าฉันไม่เคยพูดมันออกมานะคะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับพวงหรีดค่ะ” เนิ่นนานกว่าเธอจะสามารถเปล่งคำพูดออกไปได้ แม้จะพยายามหลบซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้ลึกแค่ไหนแต่สุดท้ายก็เหมือนว่ามันจะไร้ผลอยู่ดีเพราะเธอเจ็บ เจ็บมากเสียจนไม่อาจกลบเกลื่อน ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาต่อคำพูดใจร้ายของเขาไปได้เลย “เธอจะทำยังไงต่อไป” วาคิมเอ่ยถาม พยายามจะไม่มองดวงตาเศร้าสร้อยคู่สวยของคนข้างกาย ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ช่วย แต่เขาอยากเห็นดวงตะวันเจ็บมากกว่านี้ อยากเห็นถึงขั้นว่าเธอก้มลงมาคุกเข่าลงตรงหน้าอ้อนวอน กราบขอร้องให้เขาช่วยปลดหนี้ให้ด้วยซ้ำ “ไม่ได้มีแค่คุณที่ยื่นข้อเสนอแบบนี้มาให้ฉัน ยังมีเสี่ยไพบูลย์อีกคน บางทีฉันอาจลองไปคุยกับเขาในเรื่องนี้ เสี่ยเขาน่าจะเห็นใจ” ดวงตะวันพูดไปตามที่คิดก่อนจะลุกขึ้นเตรียมจะเดินหนีอีกคนไปให้ไกลแต่แค่ขยับ เขาก็กระชากต้นแขนเธอเข้าหาตัวอย่างแรงเสียก่อน “ที่แท้ก็อยากเป็นเมียน้อยไอ้เสี่ยนั่น!!” ชายหนุ่มตวาดลั่น ความหึงหวงอัดแน่นจนล้นอกแม้จะสั่งไม่ให้ตัวเองรู้สึกแบบนั้นแต่ก็ไม่อาจทำได้อย่างที่ใจคิด หล่อนกล้าดียังไงจะเอาข้อเสนอบ้าๆ นี่ไปให้เสนอให้คนอื่น แถมคนที่ว่าก็ยังเป็นไอ้เสี่ยตัณหากลับนั่นด้วยอีก “แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง!! หรือต้องให้ดวงตายตามน้าไปอีกคนคุณถึงจะพอใจ!! ต้องเป็นแบบนั้นใช้ไหมคะมันถึงจะสาแก่ใจคุณ…” พูดออกมาได้เพียงเท่านี้ร่างเล็กก็ทรุดฮวบลงไปกองอยู่กับพื้นเพราะหมดสิ้นเรี่ยวแรง โชคดีที่วาคิมรับเธอเอาไว้ได้ทัน ชายหนุ่มอุ้มแม่ตัวดีขึ้นแนบอก ก่อนจะหันไปสั่งให้คนสนิทอยู่จัดการกับงานศพต่อ “นายจะพาคุณดวงไปไหนครับ” ประวีไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้ แต่ก็อดที่จะร้องถามไม่ได้เมื่อเห็นนายอุ้มอีกคนมุ่งตรงไปที่รถยนต์ “กลับบ้าน!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม