ตอนที่ 3

2798 คำ
ตอนที่ 3 ส่วนทางด้านคุณหมอมิวหลังจากที่ลงมาจากห้องทำงานพี่ของพี่ชายแล้วเธอก็เดินเข้าตรวจเยี่ยมคนไข้ตามปกติจนกระทั่งเที่ยงวันเธอกะว่าจะเดินไปชวนเพื่อนสาวของเธอออกไปทานข้าวด้วยกันเพราะเธอพยายามโทรหาแล้วแต่ไม่มีคนรับสายสงสัยเพื่อนเธอจะยุ่งจนไม่มีเวลารับโทรศัพท์เป็นแน่ “สวัสดีค่ะหมอมิว มาหาหมอตาเหรอคะ” พยาบาลสาวที่ทำงานประจำหน้าห้องตรวจของคุณหมอตาพูดขึ้น “ใช่ค่ะ หมอตาอยู่รึเปล่าคะ พอดีมิวว่าจะชวนไปทานข้าวเห็นโทรมาไม่มีคนรับสายเลยมาตามเองค่ะ” เธอพูดพร้อมกับมองไปยังประตูห้องทำงานของเพื่อนสาว “อ้อ พอดีหมอตาไปพบท่านประธานยังไม่กลับมาเลยค่ะ” พยาบาลสาวบอกออกไป “อ้อ งั้นเหรอคะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวมิวไปทานคนเดียวได้ค่ะ พอดีบ่ายโมงมีตรวจคนไข้ด้วย งั้นมิวไปนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินออกมาเพื่อจะไปทานข้าวแถวๆหน้าโรงพยาบาล หน้าโรงพยาบาลแห่งนี้มีร้านอาหารหลากหลายอย่างให้เลือก และหญิงสาวเลือกที่จะมาทานร้านอาหารเจ้าประจำของเธอกับเพื่อนสาวซึ่งมีทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยวให้เลือกทาน เธอเป็นคนทานง่ายและจะชอบทานอาหารที่รสชาติจัดจ้าน พอทานอาหารเสร็จหญิงสาวก็ขึ้นมาตรวจคนไข้ตามปกติ แต่ช่วงบ่ายนั้นมีตรวจคนไข้แค่รายเดียวซึ่งจองคิวตรวจเข้ามาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว บอกจะตรวจกับเธอแค่คนเดียวเท่านั้น ทีแรกเธอก็คิดว่ามันแปลกๆเพราะคนไข้ยอมจองคิวรอเธอกลับมาจากไปเที่ยวเกือบอาทิตย์หนึ่ง หรือว่าเพราะไว้ใจและชอบในฝีมือการทำงานของเธอก็ไม่รู้ หญิงสาวคิดแล้วก็ขำในใจ เธอก็คิดเป็นตุเป็นตะ คนไข้อาจจะว่างช่วงนั้นพอดีก็ได้นี่ จากนั้นเธอก็เดินไปยังห้องทำงานของตนเองเพื่อเปลี่ยนชุดไปตรวจคนไข้ที่ห้องตรวจ อีก 5 นาทีจะถึงเวลานัดหญิงสาวจึงเดินเรื่อยๆไปยังห้องตรวจช่วงนี้ที่โรงพยาบาลมีคนไข้เข้ารับการรักษาเยอะเป็นพิเศษเพราะทางโรงพยาบาลมีคอสตรวจสุขภาพดีๆมากมายมาให้คนไข้เลือก จากนั้นเธอก็เปิดประตูห้องที่เธอต้องตรวจคนไข้เข้าไป พบกับพยาบาลที่ตอนนี้เตรียมห้องตรวจเรียบร้อยแล้ว เธอมองไปที่เตียงเห็นคนไข้ที่นัดไว้นอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วโดยมีแมสปิดหน้าไว้ พร้อมกับห่มผ้าห่มจนถึงลำคอ “คุณหมอคะ เดี๋ยวดิฉันขอตัวก่อนนะคะพอดีมีเคสด่วนคุณหมออิงให้ไปช่วยค่ะ” พยาบาลรีบบอกออกไป “อ่าวแล้วใครจะช่วยมิวละคะ ถ้างั้นพี่ปลาออกไปแล้วเรียกพยาบาลคนอื่นมาให้มิวก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไร” เธอบอกออกไปเพราะเธอไม่ใช่คนเรื่องมากในการทำงานและเข้าได้กับทุกคนอยู่แล้ว “เอ่อ ได้ค่ะหมอมิว” พยาบาลสาวบอกก่อนจะเดินออกไปจากห้องตรวจ ทิ้งให้คุณหมอสาวอยู่กับคนไข้สองคน “สวัสดีค่ะ วันนี้มาตรวจอะไรบ้างคะ” เธอทักทายออกไปพร้อมกับถามคนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงตามมารยาท เพราะเธออ่านชาร์ตก็รู้แล้วว่าคนไข้รายนี้ต้องการมาตรวจความสมบูรณ์ของอสุจิเพื่อเตรียมตัวที่จะมีครอบครัวนั่นเอง “ผมแจ้งพยาบาลไปแล้วนะครับว่ามาตรวจอะไร พวกคุณไม่ได้คุยกันเหรอครับ” เขาตอบกลับมากวนๆ ทำเอาคุณหมอสาวที่ตอนนี้ยืนมองมาที่เขาถึงกับอึ้งไปทันที “เอ่อ ค่ะ งั้นเรามาตรวจกันเลยนะคะ ก่อนอื่นหมอขอถามคำถามก่อนนะคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะเธอเจอคนไข้มาหลายแบบเธอเลยไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่ในเรื่องนี้พร้อมกับหยิบกระดาษเพื่อใช้ถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไข้ออกมา เธอถามคำถามให้คนไข้ตอบจนหมดจากนั้นก็ยื่นกล่องใสๆกล่องหนึ่งมาให้คนไข้ “นี่เป็นกล่องเอาไว้ใส่น้ำเชื้ออสุจินะคะคนไข้เดี๋ยวคนไข้เข้าไปในห้องนั้นนะคะ แล้วก็เก็บน้ำเชื้อเอาออกมาวางไว้ในถาดใสตรงนี้ เสร็จแล้วก็กดกริ่งตรงนี้เพื่อเรียกหมอหรือพยาบาลนะคะ” เธออธิบายไปอย่างคล่องแคล่วเพราะนี่คือหน้าที่ๆเธอทำเป็นประจำอยู่แล้ว “ครับ” เขาบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบขวดที่หญิงสาวส่งมาให้ “จะรีบออกไปไหนครับคุณหมอ ช่วยผมรีดน้ำเชื้อก่อนสิครับ” เอาแล้วไงเรา เจอคนไข้โรคจิตจนได้ คุณหมอสาวคิดในใจ เธอกำลังหาทางออกว่าจะทำยังไงดี พยาบาลก็ไม่มาสักที “เอ่อ คนไข้คะ คือห้องที่เราเตรียมไว้ให้มีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครันเพื่อช่วยคนไข้อยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ” เธอบอกพร้อมบิดข้อมือออกจากมือแกร่งนั้น แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่หลุด “ผมไม่ชอบใช้ตัวช่วยที่ไม่มีชีวิตครับ มันไม่เกิดอารมณ์ ยังไงคุณหมอช่วยผมหน่อยละกันนะครับ” เขาพูดพร้อมกับลากเธอเข้ามาในห้องที่ใช้รีดน้ำเชื้อจนได้ หญิงสาวพยายามยื้อตัวเองไว้เธอคว้าทุกอย่างเพื่อเป็นหลักยึดพร้อมทั้งตะโกนออกมาให้คนข้างนอกได้ยินแต่กลับไม่มีใครวิ่งเข้ามาช่วยเธอเลยสักคน ด้วยห้องตรวจของเธอนั้นเป็นห้องริมขวาสุดของชั้นนี้เลยไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมา สุดท้ายเขาก็พาเธอเข้ามาในห้องที่เตรียมไว้เพื่อรีดน้ำเชื้อจนได้ หญิงสาวคิดวิธีที่จะทำให้ตัวเองรอดจากสถานการณ์นี้โดยพยายามพูดเกลี้ยกล่อมคนไข้เพราะเธอคิดว่าเขาอาจเป็นโรคจิตหรือไม่ก็จิตไม่ปกติถ้าเธอค่อยๆพูดเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ชายหนุ่มเมื่อเข้ามาในห้องนี้ได้เขาก็ปล่อยมือหญิงสาวออกและยืนขวางทางออกไว้ “คุณคะ ทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ ดิฉันเป็นหมอช่วยเหลือผู้คนมากมาย อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ผิดศีลธรรม คุณก็กำลังจะมีครอบครัวแล้ว เพราะงั้นอย่าทำอย่างนี้เลยนะคะ” เธอพยายามพูดเกลี้ยกล่อมอยู่สักพักแต่ร่างใหญ่กลับยืนกอดอกมองดูร่างเล็กที่พยายามหว่านล้อมให้เขาปล่อยเธอออกไป “เลิกพูดได้แล้วคุณหมอคนสวย ผมขี้เกียจฟัง เรามาพูดเรื่องของเราดีกว่าไหม” เขาบอกขึ้น “เอ่อ คนไข้คะ เราพึ่งเคยพบกันดิฉันว่าคุณคงเข้าใจอะไรผิดมาแน่ๆเลยค่ะ” เธอพยายามอธิบายให้เขาฟัง แต่ เอ๊ะทำไมเรารู้สึกคุ้นๆกับเสียงนี้จัง เธอว่าพลางคิดในใจว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาจากที่ไหนสักที่ “ไม่ผิดหรอก นี่คุณหยุดนานถึงขนาดจำผมไม่ได้เลยเหรอครับคุณหมอ” เขาพูดออกมาพร้อมกับดึงหน้ากากอนามัยออกจากใบหน้าไปด้วย ชายหนุ่มค่อยๆถอดผ้าปิดปากออกเผยให้เห็นหน้าคมที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มส่งมาทางหญิงสาว “คุณ!!!! ไอ้คนไข้โรคจิต!!” พอหญิงสาวได้เห็นหน้าเขาเท่านั้นแหละถึงกับตกตะลึงเบิกตากว้างออกมาทันที เธอจำเขาได้ไม่มีวันลืม ไอ้คนไข้โรคจิตคนนั้นที่ลวนลามเธอจนเธอต้องหยุดงานลาพักร้อนเพื่อไปสงบสติอารมณ์เป็นอาทิตย์เพื่อหวังว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกเมื่อเธอกลับมา “อ่าวจำผมได้แล้วเหรอครับคุณหมอ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับทำท่าจะเดินเข้ามาหาเธอ “หยุด!! อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันตีหัวนายจริงๆนะ” เธอรีบหยิบเอาโคมไฟที่อยู่ในห้องมาไว้ในมือ ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าทันทีที่หญิงสาวพูดจบ “โอเค เรามาคุยกันดีๆได้ไหมครับ” ชายหนุ่มตะล่อมเธอให้เธอใจเย็นลง “คุณต้องการอะไร ทำไมคุณถึงทำแบบนี้” เธอถามออกไป “ก็คุณหมอไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ คุณหมอลวนลามผมแล้วก็หายหน้าไปเลย ผมก็เลยต้องทำแบบนี้” ชายหนุ่มอธิบายพร้อมกับทำหน้าเศร้าให้เธอเห็นใจ หญิงสาวกำลังคิดว่าเธอไปลวนลามเขาตอนไหน มีแต่เธอเสียอีกที่โดนชายหนุ่มลวนลาม “นี่คุณ ฉันไปลวนลามคุณตอนไหน ห๊ะ มีแต่คุณนั่นแหละที่ลวนลามฉัน!” เธอพูดออกมาด้วยความโมโห “นี่คุณหมอจำไม่ได้จริงๆเหรอครับว่าลวนลามผมตอนไหน ให้ผมแสดงให้ดูไหมว่าคุณทำอะไรกับผมไว้บ้าง” เขาพูดพร้อมเดินเข้ามาหาเธออีกครั้ง “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน!” เธอขู่พร้อมยกโคมไฟขึ้นมา “ก็ได้ๆ ผมแค่อยากจะมาคุยเรื่องของเรา” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดออกไป “เราไม่มีเรื่องอะไรต้องพูดกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด” เธอรีบบอกออกไป ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด เพราะยังไงอดีตก็กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว “ผมไม่ยอม คุณต้องรับผิดชอบผม เข้าใจรึเปล่า!” เขาพูดพร้อมกับทำหน้าจริงจัง “ก็ได้ คุณจะให้ฉันรับผิดชอบยังไงพูดมา” เธอเหนื่อยที่จะเถียงกับชายหนุ่มจึงบอกออกไปเพื่อที่จะได้ยุติการสนทนาครั้งนี้เสียที จะได้พ้นไปจากสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจนี้ เธอคิดแค่ว่าคุยให้เสร็จๆไปค่อยไปแก้ปัญหาเอาข้างหน้า แต่ชายหนุ่มกลับรู้ทันคุณหมอสาว เธอพยายามที่จะยุติการสนทนานี้เพื่อที่จะได้ออกไปจากห้องนี้เสียที แต่อย่าหวังเลยว่าจะได้ออกไปง่ายๆ เธอทำให้เขาต้องรอเธอมาทั้งอาทิตย์ ทั้งที่นักธุรกิจอย่างเขาเวลาเป็นเงินเป็นทองแต่ต้องมาคอยนั่งเช็คว่าเธอกลับมาทำงานรึยังจนแทบจะไม่ได้ทำทำงาน คอยดูเถอะเขาจะคิดทบต้นทบดอกให้คุ้มเลย “คุณหมอต้องเป็นแฟนกับผม” ชายหนุ่มพูดออกไป “อะ... อะไรนะ มันจะมากไปไหมคุณ ฉันไม่ตกลง!” เธอรีบปฏิเสธออกไป จะบ้าเหรอจะให้เธอมาเป็นแฟนกับใครก็ไม่รู้ แม้แต่ชื่อยังไม่รู้จักกันเลยแล้วจะให้เป็นแฟนกัน โอ้ย เธอจะบ้าตาย “คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เรายังไม่รู้จักกันเลย ชื่อคุณฉันก็ไม่รู้ เป็นใครมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใครฉันก็ไม่รู้ แล้วจะให้เป็นแฟนคุณเนี่ยนะ ไม่มีทาง!!” เธอรีบอธิบายเหตุผลออกไป “แต่ผมรู้จักคุณ รู้จักทุกอย่างที่เป็นคุณ คุณหมออรัญญา ศเวตภักดิ์!!” ชายหนุ่มพูดออกไป เพราะในช่วงที่คุณหมอสาวหยุดพักร้อนนั้น เขาได้ให้ลูกน้องหาข้อมูลของเธอมาจนรู้แทบทุกเรื่องของเธอ และรู้ด้วยว่าเธอยังไม่มีแฟนเพราะมีพี่ชายสองคนคอยกันท่าไว้นั่นเอง “เอ่อ แต่ฉันไม่รู้จักคุณ เราจะเป็นแฟนกันได้ยังไง หน้าตาคุณก็ดี ท่าทางก็น่าจะรวยด้วยนี่ ทำไมไม่ไปหาคนที่เขายินยอมมาเป็นแฟนคุณละ สาวๆสวยๆกว่าฉันมีเยอะแยะ อย่ามายุ่งกับฉันเลยนะ” เธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาหยุดความคิดที่จะเป็นแฟนกับเธอ “ไม่!! คุณต้องเป็นแฟนผมเท่านั้น คุณต้องรับผิดชอบผม!!” เขาพูดพร้อมขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับรีบคว้าแจกันในมือหญิงสาวไว้แล้ววางมันลงบนโต๊ะข้างห้องทันทีก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ “ตกลงจะเป็นหรือว่าไม่เป็น!” เขาถามอีกครั้ง “ไม่!!” เธอยืนยันเสียงแข็ง “ก็ได้ งั้นผมคงต้องใช้วิธีของผมสินะ หึ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาหญิงสาว “หยุดนะคุณจะทำอะไร นี่มันโรงพยาบาลนะ!!” เธอพูดพลางสอดส่ายสายตาหาทางหนีออกจากห้องนี้ “ก็คุณพูดดีๆไม่รู้เรื่องผมก็ต้องใช้ไม้แข็งกับคุณสิ” เขาพูดพร้อมขยับเข้ามาเรื่อยๆ “โอเคๆ ตกลงเป็นแฟนก็เป็น” เธอรีบตอบตกลง “คุณตอบช้าเกินไปตอนนี้ผมอยากจะเป็นมากกว่าแฟนแล้วสิ” เขาไม่ปล่อยเธอไปอีกแน่ครั้งนี้ “อย่านะคุณ ถอยออกไปฉันข้อร้องละ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ข้อตกลงคุณฉันก็โอเคไปแล้วไง” เธอพยายามอีกครั้งพร้อมกับก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆจนไปชนกับขอบเตียงทำให้หญิงสาวสะดุดล้มลงไปบนเตียงทันที ชายหนุ่มที่รอโอกาสอยู่รีบเดินเข้าไปแล้วล้มคร่อมร่างบางไว้ สองมือกักขังร่างเล็กเอาไว้เพื่อกันไม่ให้ออกไปไหน “นี่คุณเตรียมพร้อมขนาดถึงขั้นกระโดดขึ้นเตียงรอผมเลยเหรอ” เขายียวนออกไป “ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้ ไอ้ อือ” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบก็ถูกร่างหนาปิดปากเอาไว้ด้วยริมฝีปากหยักสวยนั้นทันที “อ่อยอั้นอะ ไอ้อ้า อ่อยอั้น” เธอพูดออกมาในลำคอพร้อมกับใช้กำปั้นทุบตีไปที่ไหล่หนาเพื่อให้เขายอมปล่อยเธอไป ชายหนุ่มจึงใช้มือข้างนึงจับเขนของเธอแล้วรวบไปไว้เหนือหัวของหญิงสาว เขาพยายามแทรกเรียวลิ้นเข้าไปแต่เธอกับเม้มปากแน่นเพื่อปิดกันไม่ให้เขาล่วงล้ำเข้าไปได้ เขาจึงเลื่อนริมฝีปากลงมาตามซอกคอขาวแทนพร้อมทั้งมืออีกข้างที่ว่างเลื่อนไปลูบไล้ตรงส่วนของภูเขาทั้งสองลูกสลับไปมา ปากก็เฝ้าดูดเม้มตามซอกคอบ้างก็ทิ้งรอยแดงไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของตีตราจองไว้ “อืมมม จ๊วบบบ อืมม หอม” เขาว่าพลางถูไถจมูกโด่งไปมาเพื่อดอมดมความหอมดั่งดอกไม้แรกแย้มนั่น “อ๊ะ หยุด หยุด อ๊ะ” เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บเพราะชายหนุ่มได้ขยำเต้าอวบอย่างหนักมือเพื่อให้เธอยอมเปิดปากออกมา จากนั้นเขาก็เลื่อนหน้าขึ้นไปสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพลงปากนั้นจนสำเร็จ เขาพยายามตามหาลิ้นเล็กที่บัดนี้พยายามหดลิ้นหนีเรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่ม เขาจึงใช้ลิ้นของตัวเองไล้เลียไปทั่วฟันของเธอเพื่อต้อนลิ้นเล็กนั้นให้ออกมา จนกระทั่งเธอรู้สึกหายใจติดขัดจึงยอมให้เขาได้เล่นกับเรียวลิ้นเธอจนเธอแทบสำลัก ชายหนุ่มได้ทีดูดดึงเรียวลิ้นเล็กอย่างคนกระหายน้ำเขาดูดดึงครั้งแล้วครั้งเล่าจนหญิงสาวโอนอ่อนผ่อนตาม ยอมตอบรับจูบอันร้อนแรงจากชายหนุ่มจนแทบหายใจไม่ทัน เมื่อเธอคล้อยตามเขาแล้ว ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยมือทั้งสองข้างนั้นออกจากการจับกุมไว้เหนือหัว แล้วจับมาพาดไว้ที่ต้นคอหนาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวพร้อมทั้งเขาจะได้ตักตวงความหวานจากปากบางได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น มือส่วนที่ว่างก็เลื่อนลงมาช่วยกอบกุมบีบคั้นทรวงอกนุ่มนั้น แรงขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ “อือออ อืม” เธอครางออกมานี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอถูกชายหนุ่มจูบแบบนี้ แต่ทำไมเธอกลับมีอารมร่วมทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดปฏิเสธอย่างเดียว กลางกายหนุ่มบัดนี้แข็งขึงจนแทบจะปริแตกออกมา เขาจึงใช้ขาทั้งสองข้างแยกเรียวขาเล็กออกจากกัน พร้อมทั้งแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาของหญิงสาวพร้อมทั้งกดกายร้อนถูไถเสียดสีไปกับเนินเนื้ออวบอัดนั้นช้าๆแล้วค่อยๆเพิ่มเเรงเสียดสีไปตามอารมณ์ของเขา ทั้งปากทั้งมือของชายหนุ่มทำงานประสานกันอย่างไร้ที่ติจนบัดนี้สติของหญิงสาวกระเจิดกระเจิงไปไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว เธอใช้แขนสองข้างคล้องคอเขาไว้เพื่อรั้งต้นคอนั้นไว้ตอบรับความดูดดื่มที่ชายหนุ่มมอบให้ เขานำทางเธอจนบัดนี้เธอเป็นผู้ตอบสนองที่ดีเยี่ยม สองลิ้นพันกัน สลับกันดูดสลับกันดึงไม่มีใครยอมใคร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม