บทที่หนึ่ง องค์หญิงผู้ซุกซน 1

577 คำ
ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ เขตชายแดนอันแสนเงียบสงบของเมืองชางชุน วันนี้ทั่วบริเวณคึกคักเป็นอย่างมาก ประชาชนใกล้ไกลในละแวกนี้ต่างพากันมาต้อนรับขบวนเสด็จขององค์หญิงที่ทรงเสด็จตรวจเยี่ยมทุกข์สุขของชาวเมืองด้วยพระองค์เอง เป็นที่ปลาบปลื้มของพสกนิกรเหลือเกิน สองข้างทางคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัย ความงดงามขององค์หญิงนั้นเป็นที่เลื่องลือว่างดงามราวเทพจุติ อีกทั้งยังเปี่ยมด้วยเมตตา จึงพาให้ชาวเมืองต่างก็อยากเห็นองค์หญิงของพวกเขาให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อขบวนเสด็จเคลื่อนเข้ามา ด้านหน้ามีทหารม้านำ ตามด้วยทหารอีกนับสิบ ทว่าที่ทำให้ชาวบ้านแปลกใจระคนตื่นเต้นก็คือ เห็นนางกำนัลเพียงสองคนอีกทั้งพวกนางยังขี่ม้ากันมาเอง แล้วพวกเขาก็ต้องตื่นเต้นกันยิ่งขึ้นอีก เมื่อกลางขบวนทุกสายตาจับจ้องไปยังร่างบอบบางบนหลังอาชาใหญ่สีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดหาง ร่างบอบบางในชุดเรียบง่าย ใบหน้างดงามปกปิดไว้ด้วยผ้าปิดหน้าผืนบาง แต่มันมิอาจปกปิดความงดงามสง่าของเจ้าตัวได้เลย ดวงตาคู่สวยยามมองมาทางชาวบ้าน เต็มไปด้วยความเอื้ออารี เมตตาที่ทุกคนสัมผัสได้ “ ทรงพระเจริญหมื่นปี ” ชาวบ้านผู้หนึ่งร้องตะโกนขึ้นด้วยความปลื้มปีติ พาให้ทุกคนร้องตะโกนตามกันกึกก้อง ชาวบ้านเริ่มเบียดเสียดกันเข้ามาใกล้มากขึ้นเพราะต่างก็อยากเห็นองค์หญิงของพวกเขาใกล้ ๆ โดยไม่คาดคิด เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ด้านหน้า เขาถูกเบียดจากด้านหลังจนเซถลาล้มลงมาหน้าขบวนเกือบถูกม้าเหยียบ โชคดีที่ทหารยั้งม้าไว้ได้ทัน “ ฮือ ๆ ท่านแม่ ” เด็กน้อยเสียขวัญร้องให้ออกมา หันไปมามองหาท่านแม่ของเขา ทหารม้ารีบกระโดดลงมา “ เจ้าหนู ออกมาขวางแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ของเจ้าไปไหนเหตุใดถึงปล่อยเจ้ามาเช่นนี้ ” “ ฮือ ๆๆ ท่านแม่ ” น้ำเสียงเข้มงวดของทหารยิ่งทำให้เด็กน้อยตกใจ ร้องไห้หนักยิ่งขึ้นร้องเรียกหาท่านแม่เป็นการใหญ่ ชาวบ้านเองก็ยิ่งหันมามุงมอง และวินาทีนั้นในวินาทีที่ทุกคนต่างสนใจเหตุการณ์ตรงหน้า ใครผู้หนึ่งได้ลงจากม้าเดินเข้ามาสั่งให้ทหารม้าผู้นั้นถอยออกก่อน “ หนูน้อยเจ้าเจ็บหรือไม่ ” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยถามอย่างเอ็นดู เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเป็นพี่สาวคนสวย แม้ปกปิดใบหน้าทว่าเด็กน้อยก็ยังรับรู้ได้ถึงความงดงาม เด็กน้อยไม่ตอบ แต่พยักหน้าพร้อมกับหยาดน้ำตาอาบสองแก้ม “ เข่าของเจ้ามีแผล ประเดี๋ยวพี่สาวทำแผลให้เจ้านะ ” กล่าวจบก็หยิบผ้าเช็ดหน้าของตนออกมา ก่อนบรรจงพันแผ่วเบาตรงหัวเข่าของเด็กชาย “ เท่านี้ก็หายแล้ว ” นางกล่าวทั้งยังลูบศีรษะเด็กน้อยเพื่อปลอบขวัญ ทุกการกระทำล้วนอยู่ในสายตาเหล่าชาวบ้าน ทุกคนต่างพากันนิ่งเงียบมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยหัวใจฟูฟ่อง องค์หญิงของพวกเขาช่างเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตา ไม่ถือตัว ครานี้เสียงร้องตะโกนแซ่ซ้องดังขึ้นไม่หยุดหย่อนจวบจนขบวนเคลื่อนลับตาไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม