ตอนที่4

1495 คำ
“อาจะไม่ให้หนูออกไปข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน แต่ถ้าอยากจะพาเพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อน ก็ไม่ว่ากัน” บทลงโทษแรกของเด็กดื้ออย่างแสนดีคือการกักบริเวณชั่วคราว อันที่จริงติณภพเองก็ไม่ได้อยากใช้ไม้นี้ แต่ก็กลัวว่าถ้าไม่เด็ดขาด ในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแก้ไม่หาย ร่างเล็กถึงกับเบิกตาโตด้วยความคาดไม่ถึง ก่อนเดินเข้าหาผู้เป็นอาเพื่อขอความเห็นใจ แต่โชคดีที่คราวนี้อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธ เขายืนนิ่งให้แสนดีเกาะแข็งเกาะขาเป็นเด็กเอาแต่ใจอยู่อย่างนั้น “อาติณ...อาทิตย์หนึ่งเลยเหรอคะ หนูเบื่อแย่เลย...” “ก็สอนแล้วไม่ฟัง อาตามใจต่อไม่ลง รู้ไหมว่าเรื่องเล็กๆ แค่นี้มันก็นำไปสู่ปัญหาใหญ่ได้ อาชักจะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่สอนๆ ไปนี่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหรือเปล่า” “ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย...” แสนดียืนกร้านโต้แย้งอีกฝ่ายกลับไปแทบจะทันที เมื่อความเป็นจริงเธอไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด “พูดน่ะ ใครๆ ก็พูดได้ทั้งนั้นแหละ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่การกระทำ ซึ่งวันนี้แสนดีทำให้อาเป็นห่วง โกรธ แล้วก็ผิดหวังมากด้วย ดูท่าเข้ามหาลัยคงจะต้องเข้มงวดขึ้นมากกว่าเดิมแล้วล่ะ” ติณภพพูดขึ้นพร้อมทั้งขยับร่างกายเข้าหาแสนดีจนแผ่นหลังของเธอติดหนึบอยู่กับผนังห้อง มิหนำซ้ำน้ำเสียงที่เขาใช้ก็ยังส่งผลต่อจิตใจผู้ฟังไม่น้อย กระทั่งหยาดน้ำใสๆ เอ่อล้นอยู่ที่ขอบตา คล้ายกับว่ากำลังจะร้องได้ออกมาแล้วในอีกไม่ช้า.... “อาติณ หนู...ขอโทษ” “อาถามหน่อยว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นอะไรนักหนา ทำไมถึงได้ชอบทำตัวมีปัญหาตลอดเวลา รู้ไหมว่าการที่ต้องทำงานแล้วก็กลับบ้านมาเจอปัญหาที่บ้านมันยิ่งทำให้อาเหนื่อยมากขึ้นอีกหลายเท่า เหนื่อยกายไม่ว่า แต่ต้องมาเหนื่อยใจด้วย อาว่ามันไม่ใช่ อย่าทำให้อาต้องคิดว่าเลี้ยงเรามายังไงให้เป็นแบบนี้ อาขอ...อย่าให้มันถึงขั้นนั้นเด็ดขาด...” “หนูไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” เธอเอ่ยสวนกลับไปพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบสองข้างแก้มเนียนด้วยความเสียใจเมื่อถูกว่ากล่าวตักเตือนด้วยถ้อยคำทำร้ายจิตใจจนรับไม่ไหว... “แล้วคิดว่าที่ตัวเองทำอยู่มันดีหรือไง?” “…” แสนดีอึกอัก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ซ้ำแล้วน้ำตาของจากความน้อยเนื้อต่ำใจก็ยังคงไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดล้วนไม่ใช่ถ้อยคำหยาบคาย หากแต่เมื่อลองฟังดูดีๆ กลับมีผลต่อใจคนฟังอย่างแสนดียิ่งนัก “ลองหาคำตอบดูเอาเองก็แล้วกัน กลับห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้ว อาเหนื่อย...อยากอยู่คนเดียว...” “หนูจะไม่กลับแน่ ถ้าอาติณยังไม่หายโกรธหนู...” แสนดีพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะดึงรั้งแขนของผู้เป็นอาเอาไว้แน่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามแกะมันออกแต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยออก “แค่โทรมาบอกว่า ทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร ถ้ามันลำบากมากแล้วอาจะสำคัญอะไร อาโกรธเดี๋ยวอาก็หายเอง แสนดีไม่จำเป็นต้องสนใจหรอก กลับห้องตัวเองไปได้แล้ว” เขาตอบกลับพร้อมทั้งสะบัดใบหน้าไปทางประตูทางออก ไม่นานก็หันกลับมาสายตาคู่ตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ... “ไม่ใช่นะคะ อาติณจะไม่สำคัญได้ยังไง อย่าคิดแบบนี้สิคะ” “โตแล้วไม่ใช่เหรอ ต้องเจอสังคมที่กว้างขึ้นแล้ว ความรู้สึกของอาก็ไม่ต้องสนใจแล้วนิ” “อาติณ...” เรียวปากเล็กเอ่ยชื่อของชายตรงหน้าออกมาด้วยความเศร้าและเสียใจไม่แพ้กัน เดิมทีเธอไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายคิดแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย หากแต่สถานการณ์กลับไม่เป็นใจ ติณภพคิดน้อยใจทั้งที่ความจริงแล้วแสนดีไม่เคยคิดว่าเขาไม่สำคัญเลยสักครั้ง “อย่าลืมสิว่าเมื่อคืนแสนดียังยืนเถียงอาปาวๆ อยู่เลย หนูพูดอะไรออกมาอาจำได้ทุกคำ” “แต่หนูไม่เคยคิดว่าอาติณไม่สำคัญนะคะ มันไม่เคยมีอยู่ในหัวหนูเลยด้วยซ้ำ” เธอพูดขึ้นด้วยเสียงที่ยังคงสะอึกสะอื้นไม่หาย น้ำตาไหลพรากเพราะรู้สึกผิดกับการกระทำของตน ถึงจะเป็นเพียงครั้งแรก แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ควรเกิดขึ้นอยู่ดี... “สำหรับอาเหตุผลที่บอกว่าลืมมันฟังไม่ขึ้นสักนิด ถ้าใส่ใจกันจริงๆ เรื่องแค่นี้มันไม่มีทางลืมได้หรอก” “หนูยอมโดนลงโทษก็ได้ค่ะ แต่อาติณอย่าโกรธหนูต่อเลยได้ไหมคะ?” แสนดีไม่คิดหาเหตุผลอื่นๆ มาแก้ตัว เพราะรู้ดีว่าเป็นตัวเธอเองที่ละเลยอีกฝ่ายไปชั่วขณะหนึ่ง ได้แต่ขอร้องให้ติณภพยอมยกโทษให้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรนาทีนี้ก็ยินยอมทั้งนั้น “อาไม่โกรธแล้ว กลับห้องไปเถอะ” “ไม่จริง อาติณโกหก” “เปล่าโกหก...อาพูดความจริง” “แล้วทำไมถึงยังทำหน้าแบบนั้นใส่หนูอยู่เลยล่ะคะ” เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้นถามเมื่อการกระทำกับคำพูดของอีกฝ่ายสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด “ก็อาบอกแล้วไงว่าอาเหนื่อย” น้ำเสียงที่ใช้ดูเบาบางลงกว่าตอนแรก ด้วยความที่เป็นคนเลี้ยงมาเองกับมือตั้งแต่ตัวน้อยๆ มองแค่หางตาก็รู้แล้วว่าแสนดีกำลังรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก จึงไม่อยากต่อว่าเธอไปมากกว่านี้ “แต่ปกติอาติณไม่เคยชักสีหน้าใส่หนูแบบนี้เลยนะคะ ไหนจะสายตาน่ากลัวนั่นอีก...” ร่างบางตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลคล้ายกำลังออดอ้อน ก่อนหน้าติณภพพยายามข่มใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้ยอมยกโทษง่ายๆ แต่พอเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ขอโทษแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด เขากลับรู้สึกผิดซะเอง สุดท้ายก็อดที่จะสงสารเด็กคนนี้ไม่ได้... “แล้วคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร?” “เพราะหนูเอง...” “ครั้งนี้อาจะไม่ลงโทษก็ได้ แต่ถ้ามีครั้งหน้าไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร อาจะไม่ยกโทษง่ายๆ แน่ เข้าใจไหม?” ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเอ่ยประโยคเหล่านั้นออกมาหลังจากที่คิดไตร่ตรองอยู่นาน อย่างน้อยแสนดีก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจความรู้สึกของเขามากขึ้น มิหนำซ้ำยังทั้งสายตาและสีหน้าก็ยังเด็ดขาดเป็นอย่างมาก... “เข้าใจค่ะ” เด็กสาวเจ้าของใบหน้าเรียวตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง ดวงตาเป็นประกายเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยอมยกโทษให้แล้ว อีกทั้งยังเอ่ยปากว่าจะไม่ลงโทษ วินาทีนั้นแสนดีถึงกับโล่งอกพรูลมหายใจออกมาจากริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบสายตากับติณภพ “เลิกร้องไห้ แล้วก็กลับไปอาบน้ำเขานอนได้แล้ว เดี๋ยวอาจะไปเคลียร์งานต่อ” ว่าจบก็ยื่นมือไปปาดน้ำตาที่เปื้อนแก้มของแสนดีออก มองเพินๆ อาจดูเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ทว่าความจริงติณภพไม่เคยแสดงออกกับใครมากเท่านี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ... “เมื่อกี้อาติณยังบอกหนูว่าเหนื่อยอยู่เลย ทำไมถึงจะไปเคลียร์งานอีกแล้วล่ะคะ อาติณนอนพักสักหน่อยเถอะค่ะ” “เหนื่อยงานน่ะอาชินแล้ว แสนดีแค่อย่าหาเรื่องมาให้อาปวดหัวอีกก็พอ ทำได้หรือเปล่า” “หนูสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกค่ะ ขอโทษนะคะอาติณ” “อืม คิดได้ก็ดี งั้น...หนูก็กลับไปพักผ่อนได้แล้ว อาต้องทำอย่างอื่นต่อ” “งั้น...หนูกลับห้องก่อนนะคะ อาติณเองก็อย่าลืมพักผ่อนนะคะ” แสนดีส่งยิ้มกว้างทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเพื่อให้เชาได้ใช้เวลาด้วยตัวของตัวเองบ้าง แต่หลังจากที่เสียงปิดประตูดังขึ้น ติณภพก็หงายหลังลงเตียงด้วยความเหนื่อยล้าแทบจะทันที อีกทั้งยังถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาด้วยความหนักใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมถึงได้ใจอ่อนง่ายๆ แบบนั้นวะ... ............................ ระหว่างรออัพ เรื่อง คุณอาไม่แท้ สามารถเข้าไปเช็คการอัพนิยาย เรื่องคุณอาไม่แท้หรือพูดคุยสอบถามนิยายเรื่องอื่นของหยีได้ที่ ไลน์ส่วนตัว @195oafqc แอดกันมาเยอะๆนะคะ มาพูดคุยกันค่ะ ........................... ฝากกดติดตามยาหยีในดรีมด้วยน๊า...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม