“แม่ง...โหดจังวะ” เจตพูดพร้อมทั้งยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว เพื่อแสดงออกว่ายอมแพ้ให้กับคนตรงหน้าแต่โดยดี...
“มึงก็รู้ในชีวิตกู จริงจังกับแค่เรื่องงาน แล้วก็...” เจ้าของร่างหนาเว้นจังหวะลังเลเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดมันออกไปหรือเปล่า...แต่ทว่า...
“แล้วก็เรื่องของแสนดี แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วไอ้ติณ”
“รู้ได้ไงวะ...” ติณภพเบนหน้าหนีก่อนจะบ่นพึมพำอยู่กับตัวเองด้วยความประหลาดใจ
“ใครไม่รู้ก็โง่แล้ว”
“ก็นั่นมันหลานกู”
“แต่ก็ไม่ใช่หลานแท้ๆ อยู่ดีปะวะ” คำพูดดังกล่าวทำเอาติณภพถึงกับไปต่อไม่ถูก เขาหลบสายตาอีกฝ่าย พร้อมทั้งทอดถอนหายใจออกมาอย่างหนัก คงเป็นเพราะสนิทกันมานาน เรื่องบางเรื่องที่คนนอกไม่รู้ แต่เจตกลับรับรู้มันเป็นอย่างดี
“แล้วยังไงวะ ยังไงกูก็มองแสนดีเป็นหลานคนหนึ่งอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น” เขาพูดเสียงเย็น แววตาสั่นเครือเล็กน้อย แต่กลับสามารถเก็บซ่อนอารมณ์และความรู้สึกประหม่าไว้ได้อย่างมิดชิด
“กูจะรอดูเลยว่ามึงจะเป็นแบบที่พูดจริงหรือเปล่า”
“เออ มึงรอดูได้เลย...”
“ว่าแต่...เวลามีคนเข้ามาจีบหลานมึง มึงก็ปฏิเสธเขาแบบนี้อะนะ?” อยู่ดีๆ เจตก็นึกสงสัยขึ้นมา แสนดีเองก็โตขึ้นทุกวันๆ เรื่องความรักแน่นอนว่าต้องพอมีบ้างอยู่แล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยกับท่าทีที่แสดงออกของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอา
“สิบกว่าปีที่กูเลี้ยงแสนดีมา มึงรู้ปะ ว่ากูเคยต้องมานั่งปวดหัวเรื่องนี้เลย จนกระทั่งเข้าปีนี้แม่งก็กรูกันเข้ามาไม่หยุด” ติณภพกล่าวออกไปตามตรง ก่อนจะเอนหลังพิงพนักด้วยความหัวเสีย นึกๆ ดูแล้ว ตั้งแต่ที่แสนดีอายุสิบแปดปี เต็ม เรื่องความรักของเธอก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขามากขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
“ถ้ามึงให้เหตุผลว่าหวังดี มันก็พอจะฟังขึ้นอยู่นะ แต่กูจะบอกอะไรให้ การที่มึงปิดกั้นแบบนี้ กูว่ามันไม่น่าจะดีอะ”
“มันจะไม่ดีได้ยังไง ทุกวันนี้แสนดีก็อยู่ในโอวาทกูตลอด ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ คบกับใครอย่างที่มึงบอกสักหน่อย”
“งั้นกูถามมึงหน่อย ว่าในฐานะอาผู้แสนดี มึงจะอนุญาตให้น้องกูจีบเมื่อไหร่?”
“ตอนนี้แสนดียังสนใจเรื่องเรียนอยู่ แต่ถ้าน้องมึงรอได้ ก็รอต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเรียนจบ มีที่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง จนกูไม่ต้องมาคอยเป็นห่วง ถึงวันนั้นกูก็จะให้แสนดีเป็นคนตัดสินใจทุกอย่างเอง”
“แล้วมึงเอาอะไรมั่นใจวะ ในเมื่อน้องกูบอกว่าผู้ชายตามติดแสนดีต้อยๆ เลย” สหายคนสนิทพูดขึ้นด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจพร้อมทั้งอ้าแขนออกแล้ววางไว้ที่พนักพิงอย่างสบายอารมณ์
“ใคร?” ติณภพเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะเบนสายตาสบกับอีกฝ่ายอย่างต้องการหาคำตอบ
“กูไม่รู้ กูก็ฟังเขามาอีกที”
“แต่แสนดีไม่เคยบอกกู มึงไปฟังใครเล่ามา มั่วหรือเปล่า?”
“เอาเป็นว่า มึงลองไปถามหลานมึงดูอีกทีละกัน วันนี้กูได้คำตอบแล้ว มึงจะกลับเลยก็ได้นะเผื่อว่าร้อนใจ อยากฟังคำตอบจากปากใครบางคน...” ครั้นเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิท เจตก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังควบคุมอารมณ์ของตัวเองอยู่อย่างหนักหน่วง เขาเพียงแค่หวังดี ไม่อยากให้ติณภพใช้อำนาจในทางที่ผิดกับเด็กน้อยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรอย่างแสนดีก็เท่านั้น
ทว่าที่ผ่านมาไม่ว่าจะพูดอะไร ติณภพก็ไม่เคยฟัง เขายังคงเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก เพราะคิดว่าทุกอย่างที่ตนทำให้กับแสนดีล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวดีๆทั้งนั้น...
“ไม่เป็นไร กูไม่รีบ” ร่างสูงกลืนน้ำลายลงคอหวังให้ความรู้สึกขุ่นเคืองกลืนหายลงไปด้วย เขารู้ตัวว่ากำลังหงุดหงิดจึงยังไม่อยากกลับไปที่บ้านแล้วมีปัญหากับแสนดี
“อย่าไปคิดมากเลยไอ้ติณ มันเป็นเรื่องปกติ”
“เออ กูรู้แล้วน่า...” เขาเอ่ยขึ้นโดยที่น้ำเสียงเริ่มแข็งกระด้างขึ้นไปทุกทีๆ ก่อนจะตัดสินใจคว้าเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้วภายในทีเดียว
“เห้ย ใจเย็นดิ เดี๋ยวก็เมาหัวราน้ำอีกหรอกมึงอะ พอเลย”
“แล้วตอนแรกมึงชวนกูทำไม พอจะแดกเสือกห้าม”
“กูชวนเป็นมารยาท มึงจะจริงจังทำไม หรือว่า...มันเครียดจัดเลยวะ” เจตพูดแซวพร้อมทั้งยักคิ้วหลิ่วตาไปหาเพื่อนรักอย่างทีเล่นทีจริง ก่อนจะพบเข้ากับสีหน้าที่ทำเอาเขาถึงกับเดาใจอีกฝ่ายไม่ออก
“กูเครียดเรื่องงาน ที่บริษัทเพิ่งมีปัญหาใหญ่เข้ามา มึงชวนออกมาก็ดีเหมือนกัน เผื่อสมองกูจะโล่งขึ้นบ้าง”
“มึงก็ลองออกไปหาอย่างอื่นทำบ้าง วันๆ ทำแต่งาน เมียอะเมื่อไหร่จะมี แก่จะลงโรงอยู่แล้วนะไอ้ติณ”
“มึงก็เหมือนกันนั่นแหละ รินเหล้าดิ กูจะแดก” เขาบอกฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับยื่นแก้วไปด้านหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง ซึ่งเจตเองก็ทำหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี รีบยกขวดแอลกอฮอล์ขึ้นรินให้กับติณภพแทบจะทันที
“เห็นว่าเครียดนะ กูเลยยอมให้แดกอะ เมาทีไรแม่งเป็นภาระกูทุกทีเลย”
“มึงอย่าเว่อร์ กูไม่ได้ขนาดนั้น”
“ไอ้ตัวกูอะไม่เท่าไหร่หรอก แต่กูสงสารคนที่ต้องรองรับอารมณ์มึงที่บ้านมากกว่า” เจตพูดขึ้นพลางหันไปมองหน้าคู่สนทนาด้วยความกังวล เป็นเพื่อนกันมานับสิบปี แน่นอนว่าเรื่องนิสัยใจคอของติณภพ เจตเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้...
วินาทีนั้นอีกฝ่ายถึงกับอึกอัก ไร้การตอบกลับไปชั่วขณะหนึ่ง เป็นเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดคือเรื่องจริงที่ตนยังแก้ไขไม่ได้เสียที
“กูพัฒนาแล้วเว้ย เมากูก็นอน ไม่เหมือนมึงหรอก เมาแล้วหิ้วสาวกลับไม่ซ้ำหน้า”
“โห้ สวนกูกลับซะ...”
“สมควรโดนซะบ้างมึงอะ เอาแต่ว่ากูอยู่นั่นแหละ”
“ไอ้ติณ” เจตเอ่ยปากเรียกชื่อคนตรงหน้าขึ้นฉับพลัน ซ้ำยังส่งสายตาไปยังด้านหลังของติณภพด้วยความเจ้าเล่ห์
“อะไรวะ” ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมสันเลิกคิ้วข้างหนึ่งพร้อมทั้งหันหลังมองตามสายตาของเจตไป ก่อนจะเผยให้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่อีกโซนของตัวคลับ กระทั่งสายตาของทั้งคู่ประสานเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งติณภพเองรับรู้ได้ถึงเจตนาของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
คนนั้นมองมึงตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว เอาหน่อยดิวะ”
“กูไม่ชอบ แค่อยากมาคุยกับมึงแล้วก็แดกเหล้า นอกเหนือจากนั้นกูไม่เอา” เขายื่นคำขาดพร้อมทั้งยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง แต่กลับถูกเจตแย่งแก้วออกไปจากมือเสียดื้อๆ
“เหี้ยไรของมึงเนี่ย กูแดกอยู่ ไม่เห็นหรือไง?”
“มึงใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีผู้หญิงคอยทำให้กระชุ่มกระชวยเลยได้ยังไงวะไอ้ติณ กูละเชื่อเลย”
“ก็กูยังไม่พร้อมไง ลำพังแค่ทำงานกับเลี้ยงแสนดีกูก็ปวดหัวจะแย่แล้ว” ทันทีที่พูดจบติณภพก็รีบยื่นมือไปคว้าแก้วกลับมาไว้ในมือเหมือนอย่างเดิม มิหนำซ้ำยังยกขวดเหล้าขึ้นมาเทใส่แก้วของตัวเองเพิ่มอีกต่างหาก...
“เมาเป็นหมาแน่เพื่อนกู...”
............................
ระหว่างรออัพ เรื่อง คุณอาไม่แท้ สามารถเข้าไปเช็คการอัพนิยาย
เรื่องคุณอาไม่แท้หรือพูดคุยสอบถามนิยายเรื่องอื่นของหยีได้ที่
ไลน์ส่วนตัว @195oafqc แอดกันมาเยอะๆนะคะ มาพูดคุยกันค่ะ
...........................
ฝากกดติดตามยาหยีในดรีมด้วยน๊า...