“โลกนี้สวยงามจริงนะ เจ้าดำ”
เสียงปรารภอ่อนเนือยฟังสุขระคนเศร้า
“ฉันแทบจะลืมไปแล้วว่าโลกสดสวยแค่ไหน”
มือบางลูบคลำพื้นหญ้า สัมผัสความนุ่มเย็น
“หญ้าสีเขียวสวย ผืนดินสีน้ำตาล และแผ่นฟ้าโน่นก็เป็นน้ำเงินสดใสเหมือนนัยน์ตาของเจ้า”
เวลาล่วงผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง หรือวันหนึ่งไม่เป็นไรในฝันนั้นเวลาไร้ความหมาย ถึงตามความเป็นจริงก็เช่นกัน เขามีเวลาทั้งหมดในโลกไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ อยู่ในโลกนี้หรือความฝันของน้ำผึ้งเขาก็พอใจจะอยู่อย่างนี้ ให้มือของหล่อนลูบไล้ลำตัวเขา ให้เขาได้สูดกลิ่นกายของหล่อนเข้าจมูก คิดไปว่าเขาคือชายที่อยู่เคียงข้างหล่อน ศีรษะซบกับตักของหล่อน ริมฝีปากของเขาได้ลิ้มชิมรสความหอมความหวานประหนึ่งน้ำผึ้งรวงจากริมฝีปากของหล่อน...
คล้ายกับว่าหล่อนรู้ถึงความคิดของเขา น้ำผึ้งที่กำลังฝันกดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากของตัวเอง พูดด้วยเสียงคล้ายละเมอ
“บอกฉันซิ เจ้าดำว่าฉันมีทางจะได้พบผู้ชายที่ฉันรักหรือเปล่า?”
หล่อนชะงักและหัวเราะเบาๆ เสียงค่อนข้างเศร้า
“ฉันมีความรู้สึกว่าส่างบุญเขาชอบฉัน แต่เขาก็ยังไม่เคยบอกตรงๆ แต่ถึงว่าเขาจะชอบฉัน ผู้ชายที่ไหนจะยอมรับผู้หญิงตาบอดเป็นเมียให้เป็นภาระเปล่าๆ”
นั่นสิ ผู้ชายที่ไหน? จอมนึกไปพลางระหว่างนอนอยู่ข้างตัวหล่อน มองหล่อนยามหลับ เขาต้องการหล่อนอย่างที่ไม่เคยคิดต้องการใครมาก่อน
เสือดำในฝันกลิ้งตัวลงนอนหงาย หายใจเข้าแรง เกิดความปรารถนาเหมือนไฟคุโชนเมื่อมือเรียวนุ่มเริ่มเกาท้องของเสือดำในฝัน
จอมอยู่มากว่าเก้าร้อยปี เคยชิดเชยผู้หญิงมาก็มาก แต่เขาไม่เคยเกิดความปรารถนารุนแรงเช่นที่เป็นอยู่ขณะนี้
เสือดำคำรามเบาๆ ในลำคอ ขยับตีนหน้าออกพ้นมือเรียวบาง ตัดใยสัมพันธ์ระหว่างตนกับหญิงสาว ทำให้ฝันสลายตัวเหมือนแสงแดดยามเมฆทะมึนเคลื่อนบดบังดวงตะวัน
นางปิศาจ! เขาคิด... นางทำอะไรข้า?
จอมสะดุ้งเมื่อทราบว่าหล่อนตื่นจากหลับ
“อุ๊ย! เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่?”
เสียงอุทานหวั่นกลัวเปลี่ยนเป็นปกติ เมื่อเห็นแสงจันทร์สีเงินส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้เห็นเสือดำนอนเหยียดอยู่ข้างตัว
เสือดำคำรามเบาๆ เลียมือหล่อนน้ำผึ้งสะท้านเหมือนสัมผัสลิ้นของเขากับฝ่ามืออุ่นและระคายเล็กน้อย
ร่างอ้อนแอ้นลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบห้อง มือหนึ่งกำส่วนลำคอเสือดำไว้แน่น
น้ำผึ้งพบว่าเก้าอี้ของหล่อนอยู่ตรงไหน เห็นกระทั่งเบาะรองนั่งที่แม่เย็บเป็นสีน้ำเงินอ่อนแก่ต่างๆ เพราะน้ำเงินเป็นสีโปรดของหล่อน
ผ้าห่มบนเตียงก็เป็นเทาหม่น ม่านหน้าต่างเป็นสีเหลืองอ่อน ห้องของหล่อนมีหลายสี สีเหล่านี้หล่อนรู้จักมาแต่เด็กและไม่เคยลืม เป็นสีที่ได้จากธรรมชาติ
หล่อนมองหน้าต่าง มือยังกำขนสั้นๆ บนลำคอเสือดำ มีอะไรอีกหลายอย่างที่หล่อนนึกอยากเห็น
“ออกไปเดินเล่นกันไหม เจ้าดำ?” หล่อนก้มถาม ไม่นึกกลัวแม่แต่น้อย
ไม่เพียงแต่ไม่กลัว หล่อนยังรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยยามมีเจ้าตัวดำอยู่ชิดใกล้
เหมือนว่าฟังเข้าใจ เสือดำโดดลงสู่พื้น เหยียดขาแล้วเดินมาข้างเตียงที่หล่อนนั่งอยู่
น้ำผึ้งกำส่วนลำคอที่มีขนคอสั้นนุ่มลื่นปกคลุมไว้มั่นมือ ค่อยย่องออกจากห้อง เกรงพ่อแม่จะตื่น รู้ว่าท่านทั้งสองคงไม่ชอบแน่ถ้ารู้ว่าหล่อนออกไปเดินเล่นกลางแสงจันทร์กับเสือดำซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อ
ราตรีนี้สว่างไสวเพราะเป็นคืนพระเพ็ง น้ำผึ้งทึ่งและตื่นเต้นในความงดงามราวกับภาพวาดของหมู่บ้านที่หล่อนถือกำเนิด
เมื่อหล่อนเดินผ่านหมู่บ้าน หล่อนจะหยุดที่กระท่อมน้อยใหญ่ทุกหลัง จำได้ว่าเมื่อยังเด็ก หล่อนเคยเข้าไปทุกบ้าน แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เสือดำเดินช้าๆ อยู่ข้างตัวหล่อน พอหล่อนหยุดก็หยุดด้วย มันนั่งรออย่างอดทน เมื่อหล่อนหยุดมองขึ้นไปที่หอสูง แขวนกลองใบใหญ่ หยุดชื่นชมดอกดาวกระจายที่แข่งกันออกดอกแทบทุกต้นข้างประตูบ้านยายแก่หมอดู แตะปลายนิ้วกับกลีบดอกนุ่มๆ ของกุหลาบดอกโต
“เหมือนอย่างที่ฝันเอาไว้เลย”
หล่อนพูดขณะเดินออกจากหมู่บ้านไปหยุดที่เนินหญ้าเขียวขจี และนั่งพักบนขอนไม้ มือยังลูบคลำขนสั้นเกรียนนุ่มมือของเสือดำ เมื่อพูดว่า
“เออ! นี่แน่ะ เจ้าตัวดำ เจ้ามีชื่อหรือเปล่า ญาติๆ หรืออาจจะเป็นเพื่อนฝูงเจ้า เขาเรียกเจ้าว่ายังไงฮึ?”
หล่อนประคองหัวใหญ่มันไว้ในอุ้งมือ เอียงคอข้างหนึ่งกระทั่งเปียเดี่ยวพลัดข้ามไหล่ลงมาระตัวเจ้าดำปลอด นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยสาดประกายแจ่มใส ยามหัวเราะคิก หลังจากถามออกไปแล้วไม่ได้คำตอบ
“ฉันไม่น่าถามเลยเนอะ อย่างกับเจ้าจะบอกได้งั้นแหละ แล้วขืนเจ้าตอบกลับมาจริงๆ ฉันคงตกใจตายแน่ๆ เอ...ฉันจะเรียกเจ้าว่าอย่างไรดีนะ? เจ้ามาเหมือนถูกเสกด้วยเวทมนตร์คาถาแต่ก็เป็นปาฏิหาริย์สำหรับฉัน เอ๊ะ! เรียกเจ้าว่าปาฏิหาริย์ก็เข้าทีดีนะ เพราะเจ้าทำให้เกิดปาฏิหาริย์ทำให้ฉันได้มองเห็นอีกครั้งไงล่ะ”
เสือดำคำรามเบาๆ เลียมือหล่อนแผล็บ
“ชอบชื่อนี้หรือ?” หล่อนถามด้วยกังวานเสียงไพเราะเสนาะจับใจเขา
จอมวางหัวลงกับตักนุ่ม เชิญชวนให้มือเรียวบางลูบไล้