กว่าซ่งหนิงเฉิงจะตกลงก็ปลายยามอู่ (11.00 – 12.59 น.) เสียแล้ว ทั้งหมดจึงพากันมารับสำรับเที่ยง ก่อนที่จะเข้าไปวางแผนการกันต่อในห้องหนังสือเช่นเดิม เยว่กวางเสนอให้นำทรัพย์สินบางส่วนก่อตั้งหอประมูลขึ้นหลายๆ เมืองพร้อมกัน เพื่อให้สืบหาตัวเจ้าของหอได้ยากมากยิ่งขึ้นและยังขอดูแลหอประมูลนี้ด้วยตนเองอีกด้วย เนื่องจากตนมีความรู้ด้านนี้อยู่มาก ซ่งเยว่ส่างกับซ่งเยว่เล่อเองก็ช่วยคัดกรองเมืองที่เหมาะกับการเปิดกิจการและขอรับหน้าที่การหาสินค้าเข้าหอประมูล เนื่องด้วยทั้งสองต่างทำการค้าอยู่แล้วจึงเคลื่อนไหวได้สะดวก ส่วนซ่งเยว่จวนขอรับหน้าที่ ‘เก็บกวาดหนูในจวน’ ไป พร้อมกับบอกน้องสาวว่าตนมียอดฝีมืออยู่จำนวนนึง จะส่งต่อให้น้องสาวนำไปใช้งาน ทางด้านซ่งหนิงเฉิงก็จะจัดหาคนให้บุตรสาวเช่นกัน แต่ตนคงเคลื่อนไหวมากไม่ได้เพราะโดนจับตามองจากหลายฝ่าย หลินซูฉีที่นั่งฟังสามีและลูกๆ ถกเถียงกันไปมาถึงประเด็นต่างๆ ก็แย้มยิ้มอบอุ่นขึ้นเบาๆ ภาพตรงหน้าช่างมีค่ากับตนเหลือเกิน แม้จะไม่ได้ช่วยออกความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องเหล่านี้เพราะตนถูกเลี้ยงดูมาเช่นสตรีในห้องหอ ถูกสอนว่าสตรีมีหน้าที่แค่ดูแลจวนและปรนิบัติสามีในห้องเท่านั้น แต่ซ่งหนิงเฉิงกลับยืนกรานตั้งแต่วันที่แต่งงานกันว่า ‘ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ของเรา เจ้ามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะรับรู้’ แม้ตนจะรู้สึกว่าผิดแปลกไปจากคำสอนบ้างแต่ก็รู้สึกดียิ่งนักที่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดกับครอบครัวของตน ไม่ต้องโดนปิดหูปิดตาไม่รู้อะไรเลย
“แล้ว…ลูกพอจะรู้หรือไม่ ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบวางยาพิษครั้งนี้” หลินซูฉีเอ่ยถามสิ่งที่ตนสงสัยที่สุดออกมา เมื่อเห็นว่าทุกคนได้ข้อสรุปแผนงานต่างๆ จนเกือบครบแล้ว เรียกให้สายตาทุกคู่มาตกอยู่ที่ร่างบอบบางของเยว่กวางทันที
“ถ้าให้ลูกทบทวนจากความทรงจำทั้งหมด และคาดเดาความเป็นไปได้ของสาเหตุการลงมือแล้วล่ะก็ ลูกมั่นใจ 8 ส่วนว่าคนลงมือคือ หรงลี่หลิน บุตรีจากภรรยารองของท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายเจ้าค่ะ” สิ้นเสียงพูดของเยว่กวางทั้งห้องก็เย็นยะเยือกอีกครั้ง ซ่งหนิงเฉิงกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เสียงขบเคี่ยวเคี้ยวฟันอย่างสะกดกั้นอารมณ์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้มีโทสะแค่ไหน
‘ไอ้ลูกเต่าแซ่หรง!!’ ท่านแม่ทัพใหญ่นึกถึงหน้าคู่อริของตน ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีกระทบกระทั่งกันบ้างทั้งในที่ลับและที่แจ้ง แต่ก็ไม่เคยล่วงล้ำไปถึงลูกเมียของอีกฝ่าย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนตระกูลหรงต้องการจะประกาศสงครามกับตระกูลซ่งเสียแล้ว
“ท่านพ่อ ใจเย็นลงก่อนเถิดขอรับ เดี๋ยวองครักษ์ก็แห่กันเข้ามาในห้องพอดี” ซ่งเยว่ส่างพยายามเรียกสติของบิดา เนื่องจากจิตสังหารรุนแรงแผ่ไปทั่วพื้นที่แล้ว
“เหตุใดน้องจึงคิดเช่นนั้นเล่าเยว่เยว่” ซ่งเยว่จวนเอ่ยถามน้องน้อย
“เท่าที่น้องทราบ ดูเหมือนว่าหรงลี่หลินจะมีเรื่องกับเยว่เยว่อยู่เจ้าค่ะ นางมาคอยดักหาเรื่องตลอดทุกครั้งที่เยว่เยว่ออกไปข้างนอก สาเหตุมาจากคู่หมั้นของนางมาตามเกี้ยวเยว่เยว่เจ้าค่ะ”
“หืมม คู่หมั้นของคุณหนูรองหรง ไม่ใช่ว่าคือ ไป๋เป่าเฉิน (ดวงดาวผู้พิทักษ์) จากตระกูลไป๋หรอกหรือ” ซ่งเยว่เล่อเอ่ยถามน้องสาวทันที
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ คนนั้นแหละ เหมือนเขาจะมาเจอเยว่เยว่ตอนที่เยว่เยว่ออกไปร้านน้ำชาพอดี แล้วก็เข้ามาทักทายพร้อมจ่ายค่าอาหารให้ด้วย และไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแม้เยว่เยว่จะปฏิเสธตลอดแต่อีกฝ่ายก็ตื้อน่าดูเชียวเจ้าค่ะ พอทางหรงลี่หลินทราบข่าว นางก็มาอาละวาดใส่เยว่เยว่เสียหลายครั้งเลย” เยว่กวางตอบคำถามพี่ชายพลางขุดค้นความทรงจำไปด้วย เผื่อจะมีเบาะแสอื่น ส่วนท่านแม่ทัพใหญ่ที่ได้ยินว่ามีเจ้าลูกหมาน่าตายมาตามตื้อบุตรสาวก็กรุ่นขึ้นมาอีกรอบ
“ระงับโทสะก่อนเจ้าค่ะท่านพี่ ประเดี๋ยวก็กระอักเลือดออกมาหรอก” หลินซูฉีเอ่ยปรามสามีเบาๆ
“แล้วเราจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีขอรับ” ซ่งเยว่เล่อเอ่ยถามพลางเตรียมวางแผนเอาคืนตระกูลหรง
“พี่ว่าเชือดทิ้งเสียเลยดีรึไม่” ซ่งเยว่จวนเสนอความคิดเห็น ทำเอาสายตาทุกคู่มาตกอยู่ที่เจ้าของเสียงทันที ‘นี่เขาพูดอะไรผิดงั้นหรอ’ ท่านรองแม่ทัพบ่นในใจ
“หรือเราควรจัดฉากให้พวกเขาเข้าหอกันเร็วขึ้น จะได้แต่งๆ กันไปเร็วๆ ให้พ้นหูพ้นตาดีมั้ยขอรับ” ซ่งเยว่ส่างนำเสนอแผนของตนบ้าง ซึ่งก็ได้รับสายตาพิฆาตจากมารดามา ‘อ่าว แบบนั้นไม่ดีหรือ’ บุตรชายคนรองของจวนแม่ทัพขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ข้าว่าจัดการ ‘อุ้ม’ ทั้งสองคนไปปล่อยไว้ที่ชายแดนแทนดีรึไม่ขอรับ เผื่อพวกเขาจะได้ไปใช้ชีวิตแต่งงานกันที่นั่น” ซ่งเยว่เล่อเอ่ยพร้อมสีหน้าสดใส ก่อนจะสลดเมื่อตนก็โดนมารดาส่งสายตาคาดโทษมาเช่นกัน ‘ข้าก็ว่าแผนนี้ดีแล้วนะ’ เจ้าตัวยู่ปากเอย่างไม่พอใจ
“นี่แม่เลี้ยงพวกเจ้าแบบปล่อยปละละเลยเกินไปใช่หรือไม่ หรือว่าเพราะพ่อของพวกเจ้าสอนให้แก้ปัญหาเช่นนี้กัน หือ!!” เสียงหวานทรงอำนาจกดรอดไรฟันอย่างอดกลั้น พลางตวัดสายตาไปหาคนเป็นสามี ทำเอาซ่งหนิงเฉิงที่อยู่ดีๆ ก็มีงานเข้ามาถึงกับเหงื่อไหลรินลงข้างขมับ ออกรบมากี่ครา ฆ่าข้าศึกไปกี่คน ยังไม่รู้สึกหวาดกลัวเท่าโดนคนตรงหน้าจ้องด้วยสายตาเช่นนี้เลย
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามเจ้าคะ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ลูกได้รึไม่เจ้าคะ” ก่อนที่บิดาจะโดนประทุษร้าย…เอ่อ โดนมารดาทำโทษ เยว่กวางจึงรีบเอ่ยบอก
“เจ้ามีแผนอยู่ในใจแล้วสินะลูกพ่อ” ซ่งหนิงเฉิงหันมาหาบุตรสาวทันทีเพื่อหาทางรอดให้ตนเอง ซึ่งก็เหมือนจะได้ผลเมื่อหลินซูฉีหันมาหาเยว่กวางเช่นกัน
“เจ้าคงไม่ทำเช่นที่พวกพี่ชายเจ้าเสนอใช่หรือไม่เยว่เยว่” ใบหน้าหวานฉายแววเรียบนิ่งเล็กน้อยจนทุกคนในห้องเสียวสันหลังวาบกันทั่วหน้า
“ไม่แน่นอนเจ้าค่ะ ลูกจะไม่ฆ่า ไม่ทำร้ายร่างกาย ไม่เอาไปปล่อยทิ้งขว้างด้วยเจ้าค่ะ แต่แผนการของลูกเอาคืนนางได้อย่างสาสมแน่นอนเจ้าค่ะท่านแม่” ใบหน้าสวยหวานยกยิ้มกว้างอย่างเอาใจจนผู้เป็นมารดาถึงกับต้องยิ้มตาม
“แบบนี้สิลูกรักของแม่ สมแล้วที่เจ้าเหมือนแม่มากกว่าพ่อของเจ้า” ผู้เป็นใหญ่ในเรือนหลังเอ่ยพลางโอบกอดบุตรสาวที่น่ารักของตน ทำให้ท่านแม่ทัพใหญ่ลูบอกอย่างโล่งใจเมื่อนึกว่าตนจะพ้นจากการคาดโทษของภรรยาแล้ว แต่ในภายหลังซ่งหนิงเฉิงจะได้รู้ว่า เพศหญิงนั้นเป็นเพศที่จดจำความโกรธได้ดีแค่ไหน 3 คืนต่อจากนั้นซ่งเยว่จวน ซ่งเยว่ส่าง และซ่งเยว่เล่อก็มีบิดาแวะเวียนมาขอนอนด้วยคนละคืน
เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มเป็นไปด้วยดี พี่ใหญ่ของเธอเก็บกวาดจวนจนสะอาดเอี่ยมอ่อง ทำเอาเธอนึกทึ่งที่ท่านพ่อและพี่ชายเลี้ยง ‘หนู’ ไว้ในบ้านเยอะขนาดนี้ ถึงจะมีสายสืบมากไปเสียหน่อยแต่ตำแหน่งสำคัญๆ ในจวนก็ยังเป็นคนของเราอยู่ดี ส่วนพี่รองและพี่สามก็เริ่มออกเดินทางไปตรวจที่ทางในการสร้างหอประมูลแล้ว ด้วยเพราะออกค้าขายบ้างเป็นปกติจึงไม่มีใครสงสัยเท่าใดนัก ทางด้านท่านพ่อเองก็เริ่มตรวจหาหนอนที่อยู่ในกองทัพเช่นกัน และทำการโยกย้ายหนอนพวกนั้นให้มาอยู่รวมกันเพื่อจับตาดูได้สะดวก เหล่าหนอนนี้มีที่มาหลากหลายจนน่าตกใจ ตั้งแต่ตระกูลขุนนางใหญ่ๆ ไปจนตระกูลคหบดีเลยทีเดียว และหน้าที่สุดท้ายก็คือการวางระบบทั้งหมดของหอประมูล เป็นเธอกับท่านแม่ที่มาช่วยกันดู เพราะท่านแม่มีความรู้ด้านการจัดการภายในและการทำบัญชี (จากการคอยดูแลจวน) เธอเองก็ไม่อยากให้มารดารู้สึกว่าถูกกันอยู่วงนอก จึงไปขอให้มารดาช่วยในเรื่องนี้ด้วย
เวลาผ่านไปราวๆ 15 วันแล้วตั้งแต่ที่เธอฟื้นขึ้นมา เธอมีความสุขกับชีวิตครอบครัวในตอนนี้มากและเริ่มปรับตัวจนคุ้นชินกับการใช้ชีวิตในยุคนี้แล้วเช่นกัน
‘เอาล่ะ เมื่อหอประมูลเสร็จเมื่อไหร่ เราจะได้เจอกันแน่ หรงลี่หลิน’ เยว่กวางยิ้มอย่างมาดหมาย สำหรับเธอแก้แค้นสิบปีก็ไม่ถือว่าสาย แค่ต้องเอาคืนพร้อมดอกเบี้ยเท่านั้นเอง หึหึ
.......................................................................................