1
Yoghurt’s part
“วันนี้มึงไปลานเบียร์หลังห้างใช่ป้ะ”
“อื้อ กูรีบไปก่อนนะเดี๋ยวไม่ทัน” ฉันตอบลูกหมีเพื่อนสาวประเภทสองโดยที่ยังคงก้มหน้ารวบเอกสารการเรียนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ลูกหมี แอล และใบบัว เพื่อนรักทั้งสามเป็นการบอกลา แล้วรีบแทรกกายฝ่าฝูงชนที่ยืนออรอออกจากห้องอยู่ที่หน้าประตู
หากอาจารย์เลิกคลาสไวกว่านี้ฉันคงไม่ต้องรีบร้อนอย่างหนักเพื่อให้ทันไปทำงานพาร์ตไทม์ ตอนที่ตกปากรับคำพี่กบพี่ที่ฉันเคารพเหมือนเป็นพี่สาวแท้ ๆ ว่าไปได้ก็เพราะตามเวลาเรียนฉันต้องเลิก 15.30 น. แต่วันนี้ดันไม่เป็นอย่างนั้น เลิกคลาสเลยเวลาไปตั้ง 20นาที
ฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่สถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ด้านข้างมหา’ลัย และไม่ว่าขบวนจะเต็มแน่นแค่ไหน ฉันก็เลือกที่จะเข้าไปยืนเบียดเสียดข้างในนั้นแทนที่จะรอขบวนถัดไป
หลังจากที่ออกจากสถานีปลายทางที่ฉันต้องการมาแล้ว ฉันรีบก้าวขาฉับ ๆ ลงบันไดเลื่อน แม้ปกติบันไดจะเลื่อนไวแค่ไหนก็ตาม แต่นาทีนี้มันช่างไม่ทันใจฉันเอาเสียเลย
มอเตอร์ไซค์รับจ้างกำลังจะวิ่งผ่านไปเข้าวินใกล้ ๆ ฉันรีบโบกมือรัว ๆ ให้พี่เขาจอด กระโดดขึ้นซ้อนท้ายแล้วบอกจุดหมาย ไม่รู้ว่าพี่เขาเห็นท่าทางรีบร้อนของฉันหรืออย่างไร ถึงได้ซิกแซ็กแทรกช่องว่างเล็ก ๆ ไปจนได้ ถึงพี่เขาจะชำนิชำนาญขนาดไหนก็ไม่วายที่ฉันจะหวั่นใจ ขาของฉันหดเข้ามาให้ได้มากที่สุด ไม่ให้รถคันอื่นครูดไปได้แม้แต่ปลายเท้า
รีบจ่ายค่าโดยสารแล้ววิ่งปรี่เข้าไปยังสถานที่ทำงาน ทักทายพี่คนอื่น ๆ ที่มาถึงก่อนแล้ว เอาของต่าง ๆ ไว้ที่ใต้เคาน์เตอร์ ยกเว้นก็แต่กระเป๋าผ้าที่ภายในนั้นบรรจุกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเครื่องสำอางและชุดทำงานในวันนี้
เดรสสีขาวคาดสีเขียวขนาดพอดีตัวถูกสวมเข้ากับร่างกาย ชุดร่นรัดตึงโชว์เนื้อหนังมากขึ้นแต่ก็ดูไม่วาบหวิวจนเกินงาม ติดเข็มกลัดกับเนื้อผ้าบริเวณหน้าอก จะได้ไม่โป๊เวลาที่ต้องก้ม
ฉันแต่งเติมสีสันให้กับใบหน้าแล้วหวีผมยาวสยายที่ตรงปลายพันกันเล็กน้อยจากการที่นั่งมอเตอร์ไซค์มา หยิบน้ำหอมราคาแพงขวดจิ๋วที่ได้เป็นของแถมออกมาฉีด ตามด้วยโลชั่นทาผิวบรรจงลูบไล้ไปตามเนื้อตัว เมื่อพร้อมแล้วจึงเดินออกจากห้องน้ำของห้างสรรพสินค้ากลับมายังบูธที่ฉันทำงาน
“โยเกิร์ตวันนี้จะเอายอดเท่าไหร่ดีจ๊ะ” พี่กบถามด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ โดยปกติบริษัทจะเป็นผู้กำหนดยอดไว้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มักจะมียอดในใจ อย่างเช่นบริษัทต้องการ 10 ฉันจะตั้งเป้าให้ตัวเอง 15 ที่ทำแบบนั้นก็เพราะอยากได้ค่าคอมที่เพิ่มมากขึ้นมาไว้ใช้จ่ายในการเรียนของฉัน
“อยากได้สักห้าสิบทาวเวอร์ไปเลยค่ะ” ฉันตอบแบบติดตลกแต่หากได้แบบนั้นจริง ๆ ก็คงดีไม่น้อย
“ฮ่า ๆ กะไม่แบ่งเพื่อนเลยหรือไง” พี่กบหัวเราะเบา ๆ
“โยก็พูดไปเรื่อยแหละค่ะ” ฉันส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้แล้วมองไปยังลานตรงหน้าที่จัดโต๊ะเก้าอี้เอาไว้ 40โต๊ะ “ของโยแถวไหนคะ”
“Dจ้ะ”
ได้แถวตรงกลางตามเคย แต่ละแถวจะมี 5โต๊ะ แถวอื่น ๆ ก็จะเป็นสาวเชียร์เบียร์คนอื่นคอยดูแล
ฉันทำงานพาร์ตไทม์ที่ลานเบียร์ตามอีเวนต์ซึ่งฉันไม่ได้เป็นพนักงานโดยตรงของบริษัท รับงานจากพี่กบเท่านั้น ไม่ว่าพี่เขาจะหางานที่ไหนให้ ฉันก็รับหมด แจกโบรชัวร์ในห้าง ถือป้ายถือธงโบกไปมาหน้าคอนโดที่เปิดขายใหม่ ฉันก็เคยรับทำมาแล้ว พี่กบแนะนำให้ฉันสมัครเป็นพนักงานของบริษัทเบียร์ แต่ฉันยังไม่สะดวก หากบริษัทจะให้ฉันลงร้าน ฉันก็กลัวจะไม่ไหวเพราะต้องเรียนด้วย หรือหากจะให้อยู่ประจำในส่วนของอีเวนต์ ก็อาจจะมีบ้างที่ต้องไปไกล ฉันไม่มีรถส่วนตัวมันเลยลำบาก ฉันเลยรองานจากพี่กบเท่านั้น เพราะพี่เขาจะเลือกแต่งานที่เดินทางสะดวดส่งมาให้
ค่าแรงของฉันได้ 450บาท เข้างาน 17.00น. และเลิกงาน 00.00น. หากเป็นพนักงานของบริษัทโดยตรง พี่กบบอกว่าจะได้ค่าแรงมากกว่านี้แน่นอน เพราะรูปร่างหน้าตาของฉันอยู่ในเกรด A+ เลยก็ว่าได้ แถมไม่ต้องถูกหักค่าหัวจากพี่กบอีกด้วย แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะรองานจากพี่กบเท่านั้น
“กินอะไรมาหรือยังโย ไปซื้อข้าวมาไว้ก่อนก็ได้นะ” พี่จุ๋มเดินเข้ามาพร้อมพี่ ๆ คนอื่น เราเจอกันประจำที่ต้องมาทำที่ลานเบียร์
“ยังเลยค่ะ จารย์เลิกคลาสช้า นี่โยรีบสุด ๆ” ฉันพูดพลางล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกจากกระเป๋าผ้า “โยขอออกไปซื้อก่อนนะคะ”
“จ้ะ รีบไปรีบมา ช่วงนี้คนยังไม่เข้า” เปิดใหม่ ๆ ยังไม่ค่อยมีลูกค้าหรอก จะเริ่มมีก็ช่วงที่ตะวันเริ่มคล้อยลงต่ำ
เดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้า ผ่านโซนน้ำหอมแบรนด์ดังต่าง ๆ ฉันโฉบเข้าไปเพื่อดูแบรนด์ประจำว่ามีโพรโมชันอะไรบ้างไหม ขวดที่บ้านใกล้หมดแล้ว แต่ไม่ได้แวะคุยหรือซื้อแค่ดูผ่าน ๆ และจำใส่สมองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินผ่านเลยไปยังบันไดเลื่อนตรงหน้าซูเปอร์มาร์เก็ต