บทที่10 เริ่มมีมูล

1960 คำ
ณ บริษัทภายในห้องประชุมปราภัทรสรทำหน้าที่จดบันทึกการประชุมอยู่ข้างๆ คมกฤษ โดยปิติบิดาคมกฤษเป็นประธานในการประชุมผู้ถือหุ้นเหมือนที่เคยผ่านมา เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นปราภัทรสรก็เดินเคียงคู่คมกฤษออกไปจากห้อง "ไปทานข้าวกันนะ หิวหรือยัง" คมกฤษโอบเอวบางเดินไปข้างหน้า "อืม นิดหน่อย" ปราภัทรสรสรยิ้มมุมปาก "ทานอะไรกันดีล่ะ" "ตามใจโอมเลย แก้มทานได้หมดแหละ" "น่ารักจังเลย" มือหนาบีบแก้มเนียนเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งระหว่างที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟ คมกฤษกับปราภัทสรต่างก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือไปพลางๆ จนคมกฤษขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะ ปราภัทรสรเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์ยังไม่ทันจะล็อคเธอจึงรีบคว้ามันขึ้นมากดดูประวัติการโทรล่าสุดของชายหนุ่ม ปรากฏว่ามันเป็นเบอร์มีนาซึ่งชายหนุ่มโทรออกไปตั้งแต่หกโมงเช้าและวันอื่นๆ ที่ผ่านมาด้วย ภาพที่มีนายื่นมือไปจับมือของคมกฤษในโรงหนังวันนั้นเข้ามาปรากฏอยู่ในหัวทันที ครั้งนั้นเธอตั้งใจจะลองใจคนทั้งคู่ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เธอสงสัยจริงๆ นิ้วมือบางหมายจะกดคลิกตรงไลน์เพื่อดูแชทการคุยแต่กลับต้องชะงักเมื่อมีนาเอ่ยเรียกเธอขึ้น "แก้ม นามาแล้ว" "มาแล้วเหรอ" ปราภัทสรรีบวางโทรศัพท์ลงตรงที่เดิมทันที "โอมล่ะ" มีนานั่งลงข้างๆ ปราภัทสรสร "ไปเข้าห้องน้ำน่ะ" "อืม" มีนาพยักหน้ารับ "นามาได้ไง" ทันทีที่คมกฤษกลับมาจากห้องน้ำก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความงงงวยที่เห็นมีนาอยู่ตรงหน้า "แก้ม โทรชวนนามาเองแหละ ช่วงนี้ไม่ได้เจอกันเลย อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันหยุดของนาด้วย โอมมีปัญหาอะไรหรือเปล่า" "เปล่า" คมกฤษแอบลอบถอนหายใจ ระหว่างที่ทานมื้อเย็นกันไปมีนาก็หันไปมองหน้าคมกฤษอยู่เป็นระยะ ช่วงนี้เธอกับเขาส่วนมากจะได้แค่คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ ไม่ได้เจอกันมานานหลายวันทำให้อดที่จะคิดถึงกันไม่ได้ เหตุผลก็เพราะชายหนุ่มกลัวปราภัทรสรสงสัยและจับได้ ส่วนคมกฤษก็หันไปสบสายตามีนาเช่นกัน ทุกการแสดงออกทางสีหน้าของคนทั้งคู่ต่างก็อยู่ในสายตาของปราภัทรสรทั้งหมด พอทานกันเสร็จปราภัทรสรก็ให้คมกฤษไปส่งเธอที่บ้านก่อนเพราะเป็นห่วงยายที่ไม่ค่อยจะสบายมาหลายวัน ที่วันนี้เธอชวนมีนามาทานมื้อเย็นด้วยก็เพราะอยากจะลองใจคนทั้งคู่อีกครั้ง ซึ่งผลที่ออกมามันบ่งบอกแล้วว่าทั้งสองคนแอบมีใจให้กัน แต่จะไปถึงขั้นไหนนั้น เธอจะพิสูจน์ความจริงต่อไป โดยใช้หน้าที่การงานของตนเองให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดอย่างที่เธอตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก เธอหวังว่าการที่เธอเอาตัวเองเข้ามาใกล้ชิดกับคมกฤษมันจะทำให้เธอเห็นธาตุแท้ที่ซ่อนอยู่ของชายหนุ่มในไม่ช้า ร่างบางนั่งนึกถึงภาพระหว่างคมกฤษกับมีนาในผับคืนนั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เธอระแวงคนทั้งคู่ ที่บอกว่าเชื่อใจเธอก็แค่พูดอย่างนั้นเพื่อตัดบทให้มันจบไปแค่นั้น "แก้มยังไม่อาบน้ำอีกเหรอลูก" ยายบัวเปิดประตูเข้ามาในห้อง "กำลังจะอาบจ้ะ" "เป็นอะไรหรือเปล่าลูก บอกยายได้นะ" "ถ้าเกิดว่าแก้มกับโอมไม่ได้หมั้นหมายกันอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ยายจะเสียใจไหมจ๊ะ" "ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะลูก" หญิงสูงวัยนั่งลงข้างๆ หลานสาว "ยายจะเสียใจไหมจ๊ะ" "ยายไม่เสียใจหรอกลูก ถ้าแก้มตัดสินใจดีแล้ว ขอให้แก้มมีความสุขก็พอ" "ขอบคุณค่ะ ที่เข้าใจแก้มเสมอ" สวมกอดยายบัวเอาไว้แน่น "ทะเลาะกับโอมเหรอลูก ถึงได้ถามแบบนี้" "เปล่าจ้ะ แต่มันยังมีบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน แก้มคงต้องใช้เวลาอีกหน่อย ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงแก้มจะบอกอีกทีนะจ๊ะ" ร่างบางพยายามกดความรู้สึกเอาไว้ข้างใน ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสียใจที่ว่าที่คู่หมั้นของตนเองกับเพื่อนที่สนิทแอบมีใจให้กัน แต่เธอไม่อยากอ่อนแอให้คนที่เธอรักเห็น เธอขออ่อนแอเพียงลำพังดีกว่า "จ้ะ" "ยายเป็นยังไงบ้างจ๊ะ หายเวียนหัวหรือยัง" "หายแล้วลูก" "ดีจังเลย ยายไปพักเถอะจ้ะ แก้มขออาบน้ำก่อน" "จ้ะ ลูก" ทางด้านคมกฤษหลังจากที่ปราภัทรสรลงจากรถชายหนุ่มก็รีบบึ่งรถพามีนากลับคอนโดหรูของตนเองด้วยทันที เมื่อทั้งสองคนไปเข้าถึงข้างในห้องก็จู่โจมกอดจูบกันอย่างดูดดื่มให้หายคิดถึงโหยหาทดแทนเวลาที่ห่างหายจากกันมาหลายวัน ทั้งสองร่างค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกทีละชิ้นโดยริมฝีปากยังคงประกบติดกันอยู่ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกันปลุกเล้าโลมสัมผัสสำรวจเรือนร่างของกันและกันจนอารมณ์พุ่งพล่านร้อนแรงดั่งไฟ หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวบรรเลงบทพิษศวาสไปตามจังหวะอารมณ์ภายในกายจับจูงพากันไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างสุขสมใจ "นา คิดถึงโอมมากเลย รู้ไหม" ร่างบางนอนกอดแนบชิดอกกว้าง "โอมก็คิดถึงนา" จูบหน้าผากมนเบาๆ ทีหนึ่ง "โอมคิดจะมีอะไรกับแก้มอยู่ไหม" "ไม่รู้สิ" "ไม่รู้ แสดงยังคิดอยู่สินะ" "จะถามทำไม เธอก็รู้ว่าสักวันหนึ่งมันก็ต้องมี แต่ท่าทางแก้มเขาคงจะไม่ยอมง่ายๆ ถ้าคิดไม่ผิดคงจะระแวงเราสองคนอยู่" "คงทำได้แค่ระแวง" มีนายิ้มมุมปากภายในใจอยากให้ปราภัทรสรรู้เรื่องของเธอกับคมกฤษในเร็ววัน "ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะ" คมกฤษกังวลใจ หลายวันต่อมา ภายในรถคันหรูระหว่างทางไปพบลูกค้าปราภัทรสรยกแก้วกาแฟที่เพิ่งซื้อมาร้อนๆ ยื่นไปริมฝีปากของคมกฤษทั้งๆ ที่รถแล่นไปข้างหน้าและชายหนุ่มกำลังจดจ่อกับการขับบังคับพวงมาลัยรถและมองไปข้างหน้าอย่างใช้สมาธิ "โอมดื่มหน่อยนะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้น "ไม่ เดี๋ยวค่อยดื่มเอาวางไว้เถอะ" "ก็ได้ ว้าย ! "แก้วกาแฟในมือร่วงหลุดมือตกหล่นหกลงบนเสื้อสีขาวของชายหนุ่มเต็มๆ "บ้าจริง" ชายหนุ่มรีบจอดแอบรถข้างทางเพื่อสำรวจเสื้อของตนเองอย่างหัวเสีย "แก้มขอโทษ แก้มไม่ได้ตั้งใจ" ร่างบางทำหน้าสลด "ไม่เป็นไร" "แต่เราต้องไปพบลูกค้านะ ไปสภาพนี้มันไม่ได้หรอก" "ก็ไปทั้งมันอย่างนี้แหละ" "ไม่ได้นะ แก้มว่าไปเปลี่ยนที่คอนโดยังทัน เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงนะ" "จริงด้วย" ชายหนุ่มยกแขนขึ้นมองดูนาฬิกาข้อมือแล้วรีบแล่นไปข้างหน้าตรงไปยังคอนโดหรู ทันทีที่รถคันหรูจอดนิ่งใต้คอนโดคมกฤษก็รีบลงจากรถตรงขึ้นไปข้างบนเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ทันที ส่วนปราภัทรสรนั่งรออยู่ในรถระหว่างนั้นเธอก็คิดอะไรบางออกเมื่อเห็น รปภ. ยืนอยู่ตรงลานจอดรถเพื่อรักษาความปลอดภัยตามหน้าที่ ร่างบางรีบลงจากรถพร้อมกับถุงขนมในมือตรงเข้าไปหา รปภ. หนุ่ม "ขอโทษนะคะ" ร่างบางเอ่ยยิ้มแย้ม "ครับ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ" "นี่ค่ะขนม รับไปสิคะ" ร่างบางยื่นถุงขนมให้ชายหนุ่ม "ขอบคุณมากครับ" "เอ่อ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ" "ได้ครับ" "ฉันอยากจะทราบว่า คุณเคยเห็นผู้ชายที่ฉันมาด้วย พาผู้หญิงมาที่นี้บ้างไหมคะ นอกจากฉัน" "เห็นครับ มาบ่อยด้วย โดยเฉพาะช่วงตอนเย็นดึกๆ" "แล้วหน้าตารูปร่างเป็นยังไงคะ สูงเท่าฉันไหม" "หน้าตาก็สวยดีนะครับ ผอมบางสูงพอๆ กับคุณเลย ตอนเช้าๆ จะลงมาจากข้างบนนั่งแท็กซี่ออกไปบ่อยๆ " "ขอบคุณมากนะคะ " ปราภัทรสรรู้สึกจุกในอกเมื่อได้ยินความจริงที่คมกฤษกับมีนาปิดบังเธอมานาน เธอแน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นคือมีนาแน่ๆ ด้วยท่าทางต่างๆ ที่แสดงออกเมื่ออยู่ต่อหน้าคมกฤษ และความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่คงจะเลยไปไกลแล้ว ร่างบางกลับขึ้นไปนั่งบนรถปล่อยน้ำตาไหลเอ่ออาบแก้มไร้เสียงสะอื้นกำมือไว้แน่น เธอไม่เข้าว่าหากคนทั้งคู่รักกันทำไมถึงไม่บอกเธอตรงๆ ตั้งแต่แรกแต่กลับปิดบังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเฉพาะคมกฤษในเมื่อไม่รักกันแล้วทำไมถึงยังอยากจะหมั้นหมายกับเธออีกเธอไม่เข้าใจจริงๆ มือบางรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่ไยดี "เป็นอะไรหรือเปล่า" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ "เปล่า รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา" ร่างบางเอ่ยเสียงราบเรียบให้เป็นปกติมากที่สุด เธอจะทำตัวเหมือนปกติต่อไปจะคอยดูว่าชายหนุ่มเอ่ยบอกความจริงกับเธอเมื่อไหร่ "อืม" ร่างหนาพยักหน้ารับ "แก้มเอาขนมให้ รปภ. ไปแล้วนะ ถ้าหิวค่อยซื้อใหม่แล้วกัน" "ครับ" รับคำพลางแล่นรถไปข้างหน้า ตกเย็นหลังจากเสร็จงานคมกฤษก็แล่นรถไปส่งปราภัทรสรเหมือนเช่นเคย ระหว่างทางปราภัทรสรก็เอาแต่นั่งเงียบ คมกฤษเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะแปลกใจเป็นห่วงไม่ได้ "เป็นอะไรหรือเปล่า ตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วนะ ที่แก้มไม่ค่อยพูดค่อยจา" "เปล่า แก้มแค่เหนื่อยๆ น่ะ" "กลับไปถึงบ้านก็รีบพักผ่อนนะ จะได้หายเหนื่อย" "โอมก็เหมือนกัน ดูแลตัวเองดีๆ " "ครับ" ยิ้มรับ "ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งเราสองคนไม่ได้อยู่ข้างๆ กันแบบนี้ โอมจะเสียใจไหม" "แก้มถามอะไร มันเป็นไปไม่ได้หรอก เรากำลังจะหมั้นกันแล้วนะ" "โอมก็รู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน โดยเฉพาะความชื่อสัตย์และความเชื่อใจ" "แก้มหมายความว่ายังไงเหรอ" "โอมมีอะไรจะบอกแก้มไหม" จ้องมองใบหน้าสากทางด้านข้าง "จะให้โอมบอกอะไร โอมไม่มีเรื่องอะไรปิดบังแก้มสักหน่อย" ร่างหนาหัวเราะกลบเกลี่อน "บางที การที่โอมไม่มีแก้มอยู่ในชีวิต โอมคงจะมีความสุขมากกว่านี้" "แก้มพูดอะไร ต้องการจะบอกอะไรโอมกันแน่" ชายหนุ่มเริ่มเป็นกังวลใจ "แก้มแค่อยากให้โอมรู้เอาไว้ว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวโอมเอง แก้มเข้าบ้านก่อนนะ" "เดี๋ยวก่อนสิ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย" คว้าแขนเรียวเอาไว้ "โอมมีอะไรจะบอกงั้นเหรอ" หันไปมองหน้าชายหนุ่ม "แค่อยากจะรู้ความหมายในสิ่งที่แก้มพูดแค่นั้น" "แก้มก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ อย่าเอามาใส่ใจเลย" "อืม ก็ได้ เข้าบ้านเถอะ" ยอมปล่อยแขนเรียวแต่โดยดี ร่างบางรีบลงจากรถด้วยความรู้สึกผิดหวังที่ตนเองขี้ขลาดไม่กล้าเอ่ยถามชายหนุ่มออกไปตรงๆ ทั้งๆ ที่มันอัดอั้นอยู่ในใจ แต่สิ่งที่ชายหนุ่มทำมันน่าผิดหวังยิ่งกว่า เธอนึกว่าชายหนุ่มจะบอกความจริงออกมาตรงๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นชายหนุ่มยังคงตีหน้าชื่อเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักครั้ง เธอรู้ว่าการตัดใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เธอจะพยายามทำให้ได้ในสักวัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม