บทที่1 รักแรก

1790 คำ
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหน้าตึกคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรมปราภัทรสรนักศึกษาสาวปีสี่กับมีนาเพื่อนสาวคนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่พร้อมกับจิบกาแฟเย็นไปพลางเพื่อคลายง่วงและคลายร้อนในช่วงบ่ายของวัน "นา เย็นนี้แวะไปทานข้าวแกงฝีมือยายหน่อยไหม" ปราภัทรสรเอ่ยขึ้น "อืม มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ อร่อยขนาดนั้น ไม่พลาดอยู่แล้ว" มีนายิ้มแก้มปริ "จ้ะ " ปราภัทรสรยิ้มรับ "แก้ม" เสียงทุ้มที่คุ้นหูเอ่ยเรียกหญิงสาวใต้ต้นไม้ใหญ่พลางเดินเข้าไปหาเธอ ปราภัทรสรหันไปมองคมกฤษเพื่อนชายคณะบริหารธุรกิจที่รู้จักกันมานานตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ครั้งแรก ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดีฐานะร่ำรวยตรงหน้า เคยช่วยเหลือเธอเมื่อครั้งที่เธอเคยถูกรถเฉี่ยวชนล้มอยู่ตรงหน้ามหาลัยพาเธอส่งโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว จากนั้นมาทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกมากเกินกว่าเพื่อนแต่กลับเลือกที่ปกปิดเอาไว้ข้างในไม่แสดงความรู้สึกออกมา "โอม มีอะไรหรือเปล่า ไม่มีเรียนเหรอ" ปราภัทรสรสบสายตาชายหนุ่มที่จ้องมองใบหน้าเธอ "ไม่มี ก็เลยมาหา คิดถึงน่ะ เอาขนมเค้กมาฝากด้วย" คมกฤษส่งยิ้มให้เธอพลางนั่งลงข้างๆ วางถุงขนมลงบนโต๊ะ "จริงดิ" ปราภัทรสรอมยิ้ม "จริงสิ จริงที่สุดเลย รู้ไหม" สายตาคมจ้องมองใบหน้าเนียนไม่วางตา "พอแล้ว พูดอะไรก็ไม่รู้" ปราภัทรสรมองค้อนชายหนุ่ม "เราพูดจริงๆ นะ ไม่เชื่อเหรอ" "อะแฮ่ม! ใจคอจะคุยกันแค่สองคนเลยใช่ไหม" มีนาเอ่ยขึ้น "แล้วไง" คมกฤษยักไหล่ "ก็ไม่แล้วไงหรอก ก็นึกว่ากำลังจีบกันอยู่" มีนาเอ่ยไปตามที่คิด "นาพูดอะไร เราเป็นเพื่อนกันนะ" ปราภัทรสรรีบเอ่ยแย้งขึ้น "ก็ไม่แน่หรอกนะ" คมกฤษส่งยิ้มให้ปราภัทรสร "โอมพูดอะไรน่ะ" ปราภัทรสรชะงักนิ่งไป "เราไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็น อย่าเพิ่งรีบกลับล่ะ" คมกฤษลุกขึ้นเดินออกไปหน้าตาเฉย "ดูท่าแล้ว เราว่าโอมเขาชอบแก้มนะ" มีนามองตามหลังร่างหนาที่เดินหายลับสายตาไปไม่วางตา "เราก็คิดว่า เราชอบเขาเหมือนกัน" ปราภัทรสรตัดสินใจเอ่ยความรู้สึกข้างในออกมาตรงๆ "จริงเหรอ!" มีนาหันไปมองหน้าปราภัทรสรด้วยความตกใจทำหนังสือในมือหล่นร่วงลงพื้น "ทำไม ต้องตกใจถึงขนาดนั้นเลยเหรอ "ปราภัทรสรขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นท่าทางตกใจเกินเหตุของมีนา "เปล่า เราไม่คิดว่าแก้มจะชอบโอมจริงๆน่ะ ว่าแต่แน่ใจแล้วเหรอ เธอก็รู้ว่าเรากับเขามันต่างกันเกินไป" มีนาเอ่ยน้ำเสียงอ่อยนึกถึงฐานะของคมกฤษที่สูงส่งเกินไป "ให้มันเรื่องของอนาคตเถอะ" ปราภัทรสรแอบรู้สึกกังวลในใจ เพราะเธอกับชายหนุ่มต่างกันเกินไปจริงๆ ตกเย็นคมกฤษแล่นรถคันหรูไปรับปราภัทรสรกับมีนาถึงหน้าคณะพากลับไปส่งถึงบ้านเช่าที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ซึ่งปกติหากคมกฤษไม่อาสาไปส่งปราภัทรสรกับมีนาก็จะพากันขึ้นรถเมล์กลับบ้านเป็นประจำ เมื่อรถแล่นไปถึงหน้าบ้านทั้งสามคนก็พากันเข้าไปข้างในบ้านพร้อมกับยกมือไหว้ยายบัวที่กำลังเก็บยกถาดข้าวแกงที่ขายไม่หมดอยู่ในครัวด้วยความนอบน้อมเหมือนเช่นทุกครั้งที่มาเยือน "สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" คมกฤษกับมีนาพนมมือไหว้หญิงสูงวัยเบื้องหน้าด้วยความเคารพพร้อมกัน "จ้ะ ไหว้พระเถอะลูก กินอะไรกันมาหรือยังล่ะ" "ยังเลยครับ" "เดี๋ยวยายตักข้าวแกงให้คนละจานนะ" ยายบัวหันไปจัดการตักข้าวสวยใส่จานทันที "แก้มช่วยจ้ะ" ร่างบางรีบเข้าไปช่วยยายบัวตักผัดผักรวมราดข้าว ทั้งสามคนนั่งทานข้าวแกงฝีมือยายบัวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยมียายบัวนั่งมองด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้าปลื้มใจที่ข้าวแกงหน้าตาธรรมดาฝีมือตนเองถูกปากเพื่อนๆ ของหลานสาว หลังจากทานกันอิ่ม ปราภัทรสรก็ไปส่งคมกฤษกับมีนาขึ้นรถแล้วเดินกลับเข้าบ้าน ร่างบางเดินเข้าไปสวมกอดยายบัวจากทางด้วยความรักใคร่ ตั้งแต่จำความได้เธอก็มีแต่ยายที่เลี้ยงดูฟูมฟักจนเติบใหญ่ เพราะเธอกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เด็กๆ เธอเสียมารดาไปเมื่อคลอดเธอออกมาได้ไม่กี่เดือน ส่วนบิดาเธอไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยซ้ำ มีแต่รูปฤดีมารดาที่เสียไปไว้ดูต่างหน้าเท่านั้น ส่วนตาที่เป็นคู่ชีวิตของยายบัวเสียไปหลังจากมารดาของเธอเสียไปไม่กี่เดือน จึงเหลือเพียงเธอกับยายบัวที่อาศัยอยู่บ้านเช่าหลังนี้มานานหลายสิบปี "แก้มรักยายมากนะจ๊ะ" "ยายก็รักแก้มมากนะลูก คนเก่งของยาย" ยายบัวยิ้มแก้มปริ "วันนี้ยายเหนื่อยไหมจ๊ะ" "นิดหน่อยลูก" "อีกหน่อยถ้าแก้มทำงานแล้ว ยายจะหยุดทำบ้างก็ได้นะจ๊ะ จะได้ไม่เหนื่อยมาก ดีไหม" "ไม่ต้องห่วงยายหรอกลูก อย่าลืมสิ ว่าเราต้องทำงานใช้ทุนที่กู้ยืมเรียนมา" "จริงด้วย" ปราภัทรสรยิ้มแห้ง "ไปอาบน้ำเถอะไปลูก จะได้สบายตัว" "จ้ะ"ร่างบางยิ้มรับแล้วเดินหายเข้าไปข้างในห้องทันที ด้วยความรู้สึกน้อยใจตนเองที่ไม่สามารถทำให้ยายสบายขึ้นมากกว่านี้ได้ ทางด้านคมกฤษกับมีนาภายในรถคันหรูที่ปกคลุมไปด้วยความเงียบ ระหว่างนั้นมีนาก็แอบหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มข้างกายอยู่เป็นระยะด้วยความเผลอไผล จนรถแล่นมาได้ครึ่งทางคมกฤษก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "เธอคิดว่าแก้มเขาจะมีใจให้ฉันไหม" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น "อะ...อะไรนะ" มีนาถามกลับด้วยความสะดุ้งตกใจ "เธอเป็นอะไร ถามแค่นี้ถึงกับตกใจเลยเหรอ" "เปล่าสักหน่อย" "ว่าไง เธอว่าแก้มเขาจะชอบฉันไหม" "ฉันไม่รู้ นายไปถามแก้มเองเถอะ" ร่างบางเอ่ยออกไปด้วยความห่อเหี่ยวใจ "เรื่องนั่น มันแน่อยู่แล้วแหละ" คมกฤษยกยิ้มมุมปาก "นายคงชอบแก้มมากเลยสินะ" "ใช่ ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเลย แค่ไม่ได้บอกเท่านั้นเอง" คมกฤษเอ่ยพลางนึกถึงใบหน้าปราภัทรสรไปด้วย "ฉันขอให้นายสมหวังก็แล้วกันนะ" มีนาจ้องมองใบหน้าคมด้วยความน้อยใจ "ขอบใจ" รับคำโดยไม่หันไปมองหญิงสาวข้างกายแม้สักนิด ไม่กี่นาทีรถคันหรูก็แล่นมาจอดสนิทอยู่ตรงรั้วหน้าบ้านสองชั้นที่มีพื้นที่กว้างขวางอยู่พอสมควร ถึงแม้มีนาจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนักแต่ก็มีพออยู่พอกินไม่ขัดสนอะไร ด้วยบิดามารดาเปิดร้านขายของชำ แต่มันก็ไม่สามารถเทียบเท่าฐานะของคมกฤษได้เลย มีนาค่อยๆ ก้าวขาลงจากรถคันหรูโดยไม่ลืมเอ่ยขอบคุณ หยุดยืนรอให้รถของชายหนุ่มที่แอบมีใจให้แล่นออกไปจนลับสายตาเธอจึงเดินเข้าไปข้างในบ้าน ด้วยความอิจฉาริษยาที่สุมอยู่ในใจ เมื่อนึกถึงคำพูดของคมกฤษและปราภัทรสรที่ต่างก็มีใจตรงกันอย่างน่าเหลือเชื่อ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ภายในร้านอาหารหรูห้าดาวบนตึกหลายสิบชั้น ปราภัทรสรในชุดเดรสยาวสีขาวแขนตุ๊กตาใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อยขับให้ใบหน้าหวานสดใสน่ามอง ปล่อยผมสีดำขลับยาวสลวยถึงเอวบาง กำลังนั่งกวาดสายตามองไปทั่วร้านด้วยความตื่นเต้น ทั้งบรรยากาศและเสียงดนตรีที่บรรเลงเบาๆ มันยิ่งทำให้เธอประหม่าทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยสัมผัสบรรยากาศแบบนี้มาก่อน คมกฤษเห็นท่าทางของปราภัทรสรที่นั่งตัวลีบก็อดที่จะอมยิ้มขึ้นมาไม่ได้ "ไม่ต้องเกร็งนะ ทำตัวตามสบาย" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น "แก้ม ไม่เหมาะกับร้านแบบนี้หรอก คงจะแพงน่าดูเลย" "เราพอใจเสียอย่าง ไม่มีอะไรไม่เหมาะหรอก โดยเฉพาะกับคนพิเศษ" คมกฤษมองใบหน้าเนียนตาเป็นมัน "โอม พาเรามาที่นี้เพราะอะไรกันแน่" ร่างบางจ้องมองใบหน้าสาก "ก็ทานข้าวไง อาหารมาพอดีเลย" เมื่ออาหารถูกจัดวางเรียงรายบนโต๊ะจนเสร็จสรรพพร้อมกับไวน์ราคาแพง ทั้งสองคนก็ลงมือทานด้วยความเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้นคมกฤษก็คอยตักอาหารใส่จานให้ปราภัทรสรอยู่ตลอดและสอนวิธีการดื่มไวน์ไปด้วย หลังจากทานเสร็จคมกฤษก็พาปราภัทรสรขึ้นลิฟต์ไปยังดาดฟ้าชั้นบนสุดของตึก ทั้งสองคนยืนรับลมมองแสงไฟจากตึกอาคารและถนนด้านล่างด้วยความผ่อนคลาย "แก้ม เรามีอะไร จะให้ด้วย" "อะไรเหรอ" หันไปมองชายหนุ่มที่หันหลังไปหยิบอะไรบางอย่าง "ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยครับ" ชายหนุ่มยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงไปตรงหน้าปราภัทรสร "หมายความว่ายังไง" ปราภัทรสรลังเลที่จะรับช่อดอกไม้ "เราทำขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอ" "โอมมีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ" ร่างบางรีบคว้าช่อดอกไม้มาถือเอาไว้ในมือพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมสดชื่นจนชุ่มปอด "เป็นแฟนเรานะ" "อะ...อะไรนะ" ร่างบางชะงักนิ่งไปด้วยความตกใจ "เป็นแฟนกันนะ ครับ" "อืม" ร่างบางพยักหน้าด้วยความเขินอาย "พยักหน้าแบบนี้ แสดงว่าตกลงแล้วใช่ไหม" "ใช่ เราตกลง" ส่งยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มด้วยความดีใจ "ขอบคุณนะ" คมกฤษเข้าไปประชิดร่างบางรวบเธอเข้ามากอดด้วยความดีใจ "รู้ไหมว่าเราชอบแก้มมานานแล้ว ตั้งแต่แรกเจอเลย" "เราก็เหมือนกัน เราชอบโอมตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน วันที่เราถูกรถเฉี่ยวชนแล้วโอมก็อุ้มพาเราไปส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันนั้นเราก็ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างในคนเดียว" ซบใบหน้าเข้ากับอกกว้าง "ต่างคนก็ต่างเก็บความรู้สึกเอาไว้สินะ" ร่างหนายิ้มแก้มปริ "รู้ไหม ว่าโอมเป็นผู้ชายคนแรกที่แก้มรัก" "ครับ ขอบคุณนะ โอมสัญญาว่าจะเป็นแฟนที่ดี" กอดรัดร่างบางแน่นขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม