“ไม่หรอก” เขาส่ายหน้าไปมา “ผมแค่คิดว่าคุณอาจจะอยู่ผิดที่ผิดเวลา”
“แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะคะ”
“ผมไม่ใช่คนดีอะไร อย่าเพิ่งรีบขอบคุณเลย”
อลันมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาว หลายวันมานี้เขาได้สังเกตใบหน้าของเธอมากขึ้น เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ราวกับจะพิมพ์ภาพเธอประทับในความทรงจำของเขา หญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนรดริมแก้ม เพียงเธอหันหน้าไปมองก็พบดวงตาคมเข้มจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว ราวกับถูกมนตร์เธอไม่อาจหลบสายตาของเขาได้ มือใหญ่ดึงแก้วกาแฟที่พร่องไปเล็กน้อยออกจากมือของเธอ วางที่โต๊ะเตี้ยใกล้มือ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหา กดริมฝีปากประทับริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา
รสขมจากกาแฟดำติดปลายลิ้น เป็นรสชาติจูบแรกที่เขามอบให้และเป็นจูบแรกที่เธอเคยสัมผัส เมื่อความขมพ้นผ่านก็กลายเป็นดื่มด่ำกับความหวานอันแสนรัญจวน เขาถอนจูบอย่างเชื่องช้าแล้วกระซิบถามชิดมุมปากของอีกฝ่าย
“ถ้าผมต้องการมากกว่าจูบล่ะ”
เป็นคำถามที่เหมือนไม่ต้องการคำปฏิเสธ
ดุลยารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดหมายถึงอะไร และเธอควรปฏิเสธ ทว่าใบหน้าเธอกลับแดงระเรื่อเพราะความเขินอาย รู้ตัวดีว่าลึกๆแล้ว เธอพึ่งพอใจกับสิ่งที่ได้รับ หากเขารุนแรงกับเธอ เธอปฏิเสธเขาได้อย่างง่ายดาย แต่ความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ในท่าทีเย็นชานี้ ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธเขาได้เลย และหญิงสาวรู้ดีว่าหากดำดิ่งไปกับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
การไม่พูดอะไรออกมาของดุลยาทำให้อลันตีความหมายเข้าข้างตัวเอง เขากดริมฝีปากทาบทับอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีรสขมจากกาแฟรสเข้มอีกแล้ว เมื่อเธอเผยอริมฝีปากขึ้น เรียวลิ้นของเขาก็แทรกเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากอ่อนนุ่ม มือใหญ่เลื่อนขึ้นลูบไล้แผ่นหลังของเธออย่างปลอบโยนแต่สร้างความปั่นป่วนให้ดุลยา
อลันถอนจูบแล้วยิ้มที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่เธอไม่ค่อยเห็นนัก เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยนจนหัวใจเธอสั่นไหว เขาช้อนร่างเธออุ้มตัวลอย เพราะไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอตกใจยกมือคล้องคอเขาไว้เพราะเกรงตัวเองจะตกลงพื้น
ชายหนุ่มอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปในห้องนอนของตนเอง ประคองเธอลงนอนอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวคนในวงแขนจะตื่นตกใจก่อนจะโน้มหน้าลงจูบริมฝีปากหวานฉ่ำอีกครั้ง มือกร้านสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวหลวม สัมผัสหน้าอกเต่งตึงของเธอ เพียงบีบเคล้นเบาๆ ก็เรียกเสียงครางจากลำคอของหญิงสาวออกมา
ร่างบางกระสับกระส่ายเพราะถูกกระตุ้นจากสัมผัสเร่าร้อน ไม่รู้ตัวว่าเขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกไปเมื่อไหร่ ลืมตาอีกครั้งก็เห็นเขาถอดเสื้อของเขาออก เผยให้เห็นผ้าพันแผลบนไหล่ซ้าย ความตื่นกลัวแทรกเข้ามา แต่เพราะรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาทำให้เธอสงบใจได้ อลันอ่อนโยนอย่างไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ลากเรียวลิ้นไปตามแนวลำคองามระหง ขบเม้มจนเกิดรอยแสดงความเป็นเจ้าของ ได้ยินเสียงครางหวิว หลุดจากปากของหญิงสาวที่บิดตัวไปมาอยู่ใต้ร่างของเขา ทรวงอกสะท้อนขึ้นลงเพราะแรงหอบหายใจแรง เขาปลดชุดชั้นในลูกไม้ของเธอออก เผยบัวคู่งามยั่วเย้าตรงหน้า อลันไม่รอช้าที่จะอ้าปากงับยอดอกสีชมพูที่ชูชันอยู่นั้น ดุลยาสะดุ้งและเสียวซ่าน ปลายนิ้วสอดไปขยุ้มเส้นผมนุ่มของอลันอย่างไม่รู้ตัว ความร้อนเร่าปลุกทุกอณูของร่างกาย สองขาขยับเสียดสีคล้ายหวาดกลัวและรอคอย
ชายหนุ่มรับรู้ความต้องการของหญิงสาว ละมือข้างหนึ่งจากทรวงอกอวบอิ่มซ่อนรูปของเธอ ลากปลายนิ้วไปยังหน้าท้องแบนราบ แตะต้องกลุ่มไหมสีดำอ่อนนุ่ม ค่อยๆ แทรกนิ้วกร้านเข้าไปในรอยแยกที่เปียกชื้น
“อ๊า” ดุลยาเผลอกรีดร้องออกมาเมื่อนิ้วเรียวยาวของเขาแทรกเข้าไปในช่องทางรักที่ไม่เคยมีใครเข้าไป เธอไม่กล้ามองหน้าเขา รับรู้เพียงแค่เสียงหอบหายใจแรงของเขาที่เป่ารดหน้าอกของเธออยู่
“แน่นเหลือเกิน” อลันคำรามในลำคอ อยากใช้สิ่งที่ใหญ่โตกว่านิ้วแทรกเข้าไปในช่องรักอันอุ่นชื้นแล้ว แต่เพราะเธอคับแน่นจนเกินไป เขาเลื่อนตัวขึ้นประกบจูบกับริมฝีปากบางที่เผยอร้องครางอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับขยับนิ้วเคลื่อนไหวรัวเร็วจนสะโพกของหญิงสาวแอ่นรับสัมผัสของเขาอย่างไม่รู้ตัว
“อลันค่ะ...อลัน” ดุลยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อเขาเมื่อเขายอมถอนริมฝีปากออก เขาเพิ่มนิ้วแทรกเข้าไปสองนิ้วทำเธอรู้สึกคับแน่น เหงื่อของเขาหยดลงบนตัวเธอพร้อมกับเสียงครางต่ำในลำคอ
“คุณแน่นมาก” เขาพึมพำ แก่นกายของเขาก็ขยายใหญ่จนปวดหนึบไปหมด “ผมต้องให้คุณพร้อมกว่านี้”
ดุลยาได้แต่ครางกระเส่า นิ้วร้ายกาจของเขาทั้งกระทุ้งและกดในจุดกระสันจนเสียวซ่านถึงปลายนิ้วเท้า หญิงสาวสะบัดศีรษะไปมาจนเส้นผมยาวสยายไปกับหมอน ระลอกคลื่นอารมณ์ถาโถมจนเธอไม่อาจสะกดกลั้นได้อีก เสียงหวีดร้องดังขึ้นเมื่อเธอโบยบินไปแตะขอบฟ้าพร้อมกับร่างที่เกร็งกระตุกเพราะถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรก
อลันถอนนิ้วที่เปื้อนเปรอะคราบเมือกใส เขาสอดนิ้วเข้าปากตัวเองชิมความหวานของน้ำหวานจากกายสาวพลางขยับตัวถอดกางเกงที่ปลดซิปลงนานแล้ว เปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็วแล้วจับแก่นกายร้อนระอุที่สั่นระริกพร้อมรบเต็มที่ เขาจับเรียวขาที่ไร้เรี่ยวแรงของเธอให้แยกออก ประคองแก่นกายถูไถกลีบดอกไม้สาวเพื่อทักทายแล้วโน้มตัวลงจูบปากของหญิงสาวอีกครั้ง ดุลยาปล่อยให้ปลายลิ้นของเขาเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ จูบของเขาดูดดื่มและเร้าร้อนเกินกว่าจะต้านทานได้ ในขณะที่เธอเตลิดกับจูบร้อนแรงของเขา บางสิ่งที่ใหญ่โตกว่าสองนิ้วที่เคยแทรกเข้ามาก่อนหน้านี้ก็เข้ามาแทนที่ ดวงตากลมเบิกตากว้างเขาพยายามดุนดันเข้ามา เธอกระถดเอวถอยหนีอย่างหวาดกลัวแต่เขากดตัวเธอไว้ก่อนพร้อมกระซิบที่มุมปาก
“อย่าเกร็ง” เขาสั่งเสียงแหบพร่า “อ้าขาออกอีก”
ดุลยาได้แต่ครางออกมาแยกเรียวขาออกอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยให้เขาดันแก่นกายเข้าไปจนสุด เธอได้ยินเสียงเขาครางออกมาจึงกล้ามองใบหน้าของเขาตรงๆ
“ทำไมไม่บอกผมว่าคุณ...”
อลันพูดเหมือนตำหนิ แต่ในใจตื่นเต้นและยินดีที่รู้ว่าตัวเองเป็น “คนแรก” ของเธอ
ดุลยาพูดอะไรไม่ออก เขาจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันล่ะ รู้จักกันเพราะสถานการบังคับ และเพียงอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน ก็มาจบลงบนเตียงแบบนี้แล้ว เขาไม่มีท่าทางรังเกียจผู้หญิงใจง่ายอย่างเธอ ซ้ำยังร่วมรักอย่างอ่อนโยนเคลื่อนไหวเชื่องช้าราวกับกลัวว่าเธอจะเจ็บปวด ความเสียวซ่านที่เต้นระริกอยู่ภายในทำให้เธอต้องร้องขอให้เขาปลดปล่อยเธอเสียที
อลันถูกความคับแน่นและฉ่ำชื้นโอบรัดจนแทบคลุ้มคลั่ง เมื่อช่องรักของเธอปรับรับกับแก่นกายของเขาได้อย่างดีเยี่ยม เขาจึงขยับโยกกระแทกกระทั้นจนร่างเล็กสั่นคลอน ซ่านเสียวจนต้องครางออกมาผสานกับเสียงครวญกระเส่าของหญิงสาว
“ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้วค่ะ...ดาว” ดุลยาละล่ำละลักร้องบอก ครั้งนี้เธอรู้แล้วตัวเองไปแตะขอบฟ้าอีกครั้ง
ความเย้ายวนของเธอทำให้เขาพังทลาย ทั้งที่ตั้งใจจะถอยตัวออกมาแต่กลับถูกช่องทางรักอับร้อนรุ่มโอบรัดแนบแน่น เขายังไม่อยากอิ่มในตัวเธอแต่เพราะเธอหอมหวานเกินไป ฉ่ำชื้นเกินไปและรัดแน่นเกินไป เขาจึงถึงปลายทางตามหญิงสาวไปด้วย ปลดปล่อยสายธารขาวขุ่นในร่องรักจนเอ่อล้นมาที่ต้นขา พลันคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ป้องกันใดๆ เลย อลันยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่ชื้นเหงื่อของดุลยา รอจนเธอหายใจเป็นจังหวะปกติแล้วจึงค่อยๆ ถอนแก่นกายออกมา สะโพกงามงอนบิดน้อยๆ ราวกับไม่ยินยอมให้ถอยห่าง เขาผ่อนร่างตัวเองลงนอนเคียงข้าง รั้งร่างเปลือยเข้ามาในอกกว้างแล้วกอดไว้อย่างห่วงแหน