ร่างบอบบางของคุณหมอสาวนั่งเหม่ออยู่ในห้องหลังตรวจคนไข้ในตอนเช้าเสร็จ ใบหน้าสวยจรดฉายชัดความเคร่งเครียด ริมฝีปากอวบอิ่มแดง ระเรื่อเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด
“คุณหมอคะ” พยาบาลเปิดประตูเข้ามาหาพร้อมเอ่ยเรียกหมอสาวแผ่วเบา
“มีอะไรหรือเปล่า”
“มีคนไข้ที่นัดไว้ตอนบ่ายมาขอพบค่ะ แต่ดิฉันแจ้งไปแล้วว่าคุณหมอไม่สะดวก”
“ไม่เป็นไร ให้เขาเข้ามา”
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อรับรู้ได้ว่าคนไข้ประจำตัวของเธอคือใคร และนี่ก็คงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ ‘เดซี่’ ต้องนั่งคิดไม่ตกมาตลอดทั้งวัน
“คุณป้าสวัสดีค่ะ”
มือเล็กรีบยกขึ้นไหว้ทักทายหญิงวัยกลางคนที่ยังคงความสวยเอาไว้ไม่สร่าง ใบหน้ายิ้มแย้มแสนใจดีมองตรงมาที่เธอก่อนวางกระเป๋าใบหรูลงบนโต๊ะพร้อมทรุดนั่งตรงหน้า
“หนูเดซี่ทานอะไรมาหรือยังจ๊ะ”
“หนูเพิ่งตรวจคนไข้เสร็จค่ะ”
“งั้นลงไปหาอะไรทานกับป้าไหม”
หญิงสาวทำได้เพียงพยักหน้าตอบกลับโดยไม่อาจปฏิเสธได้ ชีวิตของคุณหมออดีตลูกคุณหนูที่ใครๆ ก็ต่างพากันอิจฉาต้องพังทลายลงเมื่อผู้เป็นบิดาเจ้าของโรงพยาบาลล้มป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกจนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
เพื่อนผู้ถือหุ้นที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกลับกลายเป็นศัตรูที่เลือดเย็นเพียงต้องการอยากจะขึ้นตำแหน่งแทน และก็เป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวของเธอได้ตาสว่างว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาถูกทรยศหักหลังมาโดยตลอด
ทุกอย่างเสมือนจัดเตรียมขึ้นมาอย่างกับจัดฉาก
“พ่อของหนูเป็นยังไงบ้าง”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ เริ่มที่จะโต้ตอบได้แล้ว”
“เรื่องโรงพยาบาลหนูเดซี่ไม่ต้องห่วงนะลูก ป้าให้คนเข้ามาจัดการแล้ว”
‘คุณหญิงบัวงาม’ พูดขึ้นเพื่อให้คนตรงหน้าคลายความกังวลลง เดิมทีเธอและแม่ของหญิงสาวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่อาศัยอยู่ประเทศไทย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับสามีตำแหน่งมาเฟียใหญ่ที่ประเทศอังกฤษ
“ขอบคุณคุณป้ามากนะคะ”
“ไว้ว่างๆ ป้าจะเข้าไปหาแม่หนูหน่อย ไม่ได้มาประเทศไทยนานคิดถึงแทบแย่”
“แม่ก็บ่นคิดถึงคุณป้าค่ะ”
“ว่าแต่หนูเดซี่เจอลูคัสหรือยัง”
คุณหญิงบัวงามรีบเข้าประเด็นหลักของวันนี้ เธอเหนื่อยเต็มทนกับนิสัยเจ้าชู้ของลูกชายที่อายุปาเข้าไปสามสิบสามแล้ว ทว่ายังไม่มีทีท่าว่าจะปักหลักลงรอยกับใคร ยิ่งเห็นเด็กสาวที่ตนเอ็นดูเสมือนลูกมาโดยตลอดก็นึกอยากได้มาเป็นสะใภ้
หน้าตาสะสวยทุกสัดส่วน การศึกษาและการงานดีชนิดที่ว่าไอ้เจ้าลูกชายตัวดีไม่มีปัญญาหาผู้หญิงที่ตรงใจแบบนี้มาให้เธอได้อย่างแน่นอน
“ยังค่ะ”
“สงสัยจะงานยุ่ง”
“ค่ะคุณป้า”
“หนูเดซี่ไม่ต้องกังวลนะลูก ถึงลูกชายป้าจะเป็นมาเฟียแต่ลึกๆ เป็นคนจิตใจดีมากนะ”
เดซี่ยิ้มเจื่อนๆ ส่งกลับให้คนช่างอวยลูกชาย หญิงสาวไม่เคยได้ยินนิยามของคนเป็นมาเฟียทรงอิทธิพลคนไหนจะเป็นคนจิตใจดีมาก่อน
“งั้นป้าไปก่อนดีกว่า ไม่อยากรบกวนเวลาหนูมาก”
“สวัสดีค่ะคุณป้า”
เพียงในบริเวณเหลือแค่เธอเพียงลำพังคนตัวเล็กก็ลอบถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ดวงตากลมโตก้มมองแก้วกาแฟในมือพร้อมยกมันขึ้นดื่มเพื่อเตรียมตัวตรวจคนไข้ในรอบบ่ายต่อ
เดซี่ถอดเสื้อกาวน์แขวนในตู้หลังเสร็จสิ้นงานในรอบวันที่โรงพยาบาล ร่างบอบบางในชุดเดรสสีชมพูอ่อนขับผิวให้กระจ่างใสก้าวออกมาจากห้อง ก้มหน้าอ่านข้อความที่แจ้งเตือนขึ้นมาในมือถือ
‘วันนี้พี่ภีมต้องเข้าเวร คงไม่ว่างเจอกับเดซี่แน่เลย’
ใบหน้าสวยสลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อแฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมาไม่ว่างคุยเรื่องสำคัญ คนตัวเล็กอยากจะพูดเคลียร์ปัญหาให้เรียบร้อยเสียที เมื่ออีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอจะต้องทำตามสัญญาที่รับปากกับคุณป้าบัวงามเอาไว้
“อ้าวน้องเดซี่ยังไม่กลับอีกเหรอครับ”
“ค่ะ แล้วพี่ซันจะไปไหนคะ”
“ก็มาเข้าเวรแทนไอ้ภีมมันนะสิ เกิดอยู่ๆ ไม่สบายขึ้นมา”
“เข้าเวรแทนพี่ภีม?”
“อืม มันยังไม่ได้บอกเราเหรอ”
เดซี่พยักหน้าตอบกลับ ก่อนจะเห็นหมอรุ่นพี่รีบวิ่งไปดูคนไข้ที่ห้องฉุกเฉินหลังพยาบาลเดินเข้ามาตามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หญิงสาวนึกเป็นห่วงชายหนุ่มขึ้นมา เท้าเรียวรีบก้าวออกไปซื้อยาและอาหารอ่อนๆ สำหรับคนป่วยเพื่อนำไปดูแลคนรักที่คอนโด
นิ้วชี้จิ้มรหัสผ่านห้อง ทันทีที่ประตูเปิดออกหัวใจดวงน้อยๆ ก็หล่นวูบหลังเห็นรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง มันจะไม่อะไรเลยหากรองเท้าตรงหน้าไม่คลับคล้ายของเพื่อนสนิท
ร่างกายเย็นเฉียบค่อยๆ เดินเข้าไปยังห้องนอนส่วนตัว ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยอย่างมีความสุขของสองชายหญิงที่น้ำเสียงคุ้นเคยเสียจนบีบรัดหัวใจเหลือเกิน
“พี่ภีมคะ นีน่าเบื่อที่จะต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้”
“ทนอีกหน่อยได้ไหมครับ”
“ชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อย เมื่อไหร่พี่จะเลิกกับเดซี่สักที”
“นีน่าก็รู้ว่าตอนนี้เดซี่เขามีปัญหาอยู่ ขืนพี่เลิกไปคนก็พากันนินทานะสิ”
มือเล็กยกขึ้นปิดริมฝีปากที่สั่นระริกเพื่อกดกลั้นเสียงร้องไห้ เธอทั้งเสียใจและผิดหวังเมื่อถูกคนที่รักและไว้ใจทั้งสองมาทำเลวระยำแบบนี้
“อย่าพูดถึงผู้หญิงน่าเบื่อคนนั้นเลย เรามาสนุกกันต่อดีกว่า”
‘ภีมพล’ พลิกตัวชู้รักของตัวเองที่นอนซบอยู่บนอกลงบนเตียงอีกครั้ง ดวงตาวาววับจ้องมองผู้หญิงมอบความสุขให้เขาอยู่เรื่อยมา ผิดจากแฟนสาวคนสวยที่หวงตัวจนน่ารำคาญ
เดซี่รีบกระชากประตูให้เปิดออก ทำเอาสองร่างที่กำลังขย่มรักต้องร้องตกใจออกมาสุดเสียง
“เดซี่!” ภีมพลหัวใจแทบหล่นลงตาตุ่ม เขาดึงผ้าห่มมาคลุมกายเปลือยเปล่าอย่างไว ก่อนจะทำหน้าเคร่งเครียดฉายชัดออกมา
มือเล็กรีบรวบเสื้อผ้าที่หล่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้องทั้งหมดไปทิ้งลงหน้าระเบียงของคอนโดรวมไปถึงเสื้อผ้าในตู้
“ทำบ้าอะไร!”
“แกนะสิทำบ้าอะไรนีน่า ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง”
ทั้งๆ ที่เธอหวังดีและช่วยเหลือหญิงสาวมาโดยตลอด ทำไมถึงกลับหักหลังกันได้ลงคอ
“พี่ภีมคะ ในเมื่อเดซี่รู้เรื่องของเราแล้วพี่ก็บอกเลิกไปเสียสิ”
“ไม่เลิกอะไรทั้งนั้นแหละ เดซี่ฟังพี่ก่อนนะ”
“พี่ภีม!” นีน่าเรียกชายหนุ่มเสียงหลงเมื่อได้ยินคำพูดบอกปัดความรับผิดชอบ
เดซี่มองสองชายหญิงตรงหน้าด้วยความขยะแขยงเต็มทน ร่างบอบบางรีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างไว ไม่มีการตบตีหรือใช้ความรุนแรง ทว่าเธอได้เตรียมผลของการกระทำที่สองคนนั้นควรได้รับแล้ว
เดินลงมาจากชั้นล่างคอนโดก็เห็นคนมายืนล้อมกองเสื้อผ้าที่มีทั้งชุดเดรสและชั้นใน โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแรกที่ถูกยกขึ้นมาหลังเห็นชายหนุ่มใช้ผ้าห่มปิดท่อนล่างวิ่งลงมาหอบเสื้อผ้าขึ้นไปอย่างทุลักทุเล
“ลักษณะแบบนี้มีชู้แล้วเมียจับได้แน่นอน”
“ได้ข่าวว่าเป็นหมอ”
“อยากเห็นหน้าชู้ ลองขึ้นไปส่องดูไหม”
เสียงสนทนาดังขึ้นไม่ขาดสาย พร้อมๆ กับหมอสาวมองแจ้งเตือนข้อความที่ดังเข้ามาเมื่อภาพถูกแชร์เข้าสู่โลกภายนอกอย่างรวดเร็ว
พอสักทีกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้!
.
.
.