ลืมตัวลืมใจ

1810 คำ
“นี่คนรับใช้ใหม่เหรอคะ? ดูเด็กจัง อายุครบ 18 รึยังเนี่ย” รสาถามขึ้นเมื่อตอนนี้เป็นเวลาอาหารเย็น เธอเห็นพริมายืนอยู่ข้างป้าจันทร์ฉายเลยถามขึ้น ทำเอาคนที่ถูกเอ่ยถึงต้องหน้าแดงอย่างไม่พอใจเมื่อมาว่าเธอเด็กได้ไง แถมยังบอกว่าเป็นคนใช้อีก “หลานป้าจันทร์น่ะ” “อ้อ เอาหลานมาเป็นคนใช้ด้วยเหรอ ก็ดีจะได้ไว้ใจได้” รสาที่ไม่ได้เห็นท่าทางโกรธเคืองของพริมาเมื่อไม่เคยสนใจอะไรอยู่แล้ว ส่วนคาลวินก็ไม่ได้พูดแก้ให้กับพริมาด้วย เพราะขี้เกียจอธิบายกับคนแบบรสาที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรนอกจากตัวของเธอเอง ใจเย็นๆไว้พริม เดี๋ยวค่อยเอาคืนทีหลัง พริมาได้แต่ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้โดยมีป้าจันทร์ฉายได้แต่มองหลานสาวอย่างเห็นใจ จากนั้นอาหารมื้อที่อึดอัดที่สุดในความรู้สึกของพริมาก็จบลง เธอช่วยป้าจันทร์ฉายทำความสะอาดแล้วก็ล้างจานก่อนจะขอไปเดินเล่นเพื่อสงบสติอารมณ์ “ขอบคุณนะคะที่มาส่งสา เดี๋ยววันหลัง...” หลังจากเสร็จมื้ออาหาร รสาก็ขอตัวกลับโดยมีคาลวินเดินตามหลังออกมา “ไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็นก็อย่ามาที่นี่ มันดูไม่ดี” คาลวินบอกขึ้น เพราะยังไงน้องสาวของเธอก็เสียชีวิตไปแล้ว คงดูไม่ดีถ้าสาวโสดแบบเธอจะมาหาน้องเขยแบบเขา “ช่างสิคะ สาไม่สนใจหรอก” “คุณไม่สนแต่ผมสน แล้วแหวนนั่นผมขอคืนด้วย” “คะ?...เอ่อ พอดีสาเผลอหยิบมา คิดว่าอยากเอาไว้ดูต่างหน้ายัยริน...” รสาค่อยๆถอดแหวนออกอย่างรู้สึกเสียหน้า ส่วนคาลวิน ที่เขาเดินตามออกมาก็เพราะจะมาขอแหวนคืน ถึงยังไงมันก็เป็นแหวนของคุณย่าเขา เขาจะเอาไปคืนท่าน จากนั้นรสาก็ขึ้นรถกลับออกจากบ้านไป เมื่อเธอไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอน และเธอจะทำให้คาลวินยอมสยบแทบเท้าเธอให้ได้เลยคอยดู “แอบฟังเรื่องของคนอื่นมันเสียมารยาทไม่รู้รึไง” เอาแล้วไง เห็นได้ไงเนี่ย... คาลวินค่อยๆหันกลับไปมองด้านหลัง เมื่อเขาเห็นเงาของพริมาตั้งแต่เธอเดินมาแล้ว ส่วนพริมา เธอก็ไม่ได้คิดแอบฟัง แต่แค่อยากรู้ว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่ ก่อนคาลวินจะค่อยๆหันกลับมามองเธอ “ไม่ได้แอบฟังสักหน่อย ก็แค่...บังเอิญเดินผ่านมา...ได้ยิน” พริมาบอกขึ้นพร้อมกับหลบตาอย่างรู้สึกเขินที่เขาจับได้ทั้งๆที่เธอพยายามแอบแล้วแท้ๆ “ได้ยินอะไรไปบ้างล่ะ” เขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับถามขึ้น ทำเอาพริมาค่อยๆเดินถอยหลัง หน้าก้มลงแทบจะจรดหน้าอกอยู่แล้ว “เอ่อ ได้ยิน...ได้ยิน เอ่อ แค่...คุณบอกว่าไม่ให้เธอมาที่นี่...แล้วก็แหวน...” “ได้ยินหมดเลยสินะ” เขาพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้จนพริมาแทบหดตัวเล็กลงเรื่อยๆ “เอ่อ พอดีต้องไปล้างจาน ขอตัวก่อนนะคะ” และพริมาก็รีบชิ่งหนีไป สองขาวิ่งแทบขวิดกันจนคาลวินอดยิ้มตามไม่ได้ “อะไรกัน...ยิ้มทำไมกัน...” พอมารู้ตัวเขาถึงกับต่อว่าตัวเองเล็กน้อยกับการเผลอยิ้มตามร่างเล็กที่วิ่งหนีไป “บ้าจริง เกือบถูกบีบคอตายแล้วไหมล่ะเรา แฮ่กๆๆ” ส่วนคนที่วิ่งหนีถึงกับหอบแฮ่ก เธอแอบหยุดมองหลังจากวิ่งหนีมาหลังบ้านแล้ว ก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องพักของเธอ และพอวันต่อมา พริมาเลือกที่จะนอนตื่นสายแทนการมารอรับใช้เขาในตอนเช้ากับป้าจันทร์ฉาย “แล้วเด็กคนนั้นล่ะครับ ยังไม่ตื่นเหรอ?” คนที่เคยวางเฉยมาตลอดถามขึ้น เมื่อไม่เห็นพริมาเหมือนทุกวัน “เห็นว่าเมื่อคืนนอนดึกเลยอยากนอนต่อน่ะค่ะ” “ขี้เกียจละสิไม่ว่า” “เอ่อ...” พอได้ยินแบบนั้น ป้าจันทร์ฉายถึงกับพูดไม่ออก เพราะปกติคาลวินไม่ค่อยสนใจอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้ พอทานอาหารเสร็จเขาก็เดินเข้าห้องหนังสือเหมือนทุกวัน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือเขาเอาแต่กวาดตามองไปด้านล่างเพื่อหาใครสักคน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีทีท่าว่าเธอจะโผล่มา จนกระทั่งถึงเวลาอาหารเที่ยงซึ่งเป็นพริมาที่มายืนคอยให้เขาใช้แทนป้าจันทร์ฉาย “แล้วป้าจันทร์ไปไหนล่ะ” เขาถามขึ้นทันทีที่เข้ามานั่ง อะไรกัน เมื่อเช้าถามหาเรา พอตอนเที่ยงถามหาป้าจันทร์ อีตาคนนี้เรื่องเยอะจริงๆ “ด่าฉันในใจเหรอ?” “คะ? เปล่า...” รู้ดีอีก!! พอเห็นว่าเธอเงียบเขาเลยแกล้งพูดออกมา ซึ่งมันก็ตรงกับที่เธอคิดพอดีจนพริมาสะดุ้งตกใจรีบปฏิเสธออกไป “คือว่าป้าจันทร์ ไม่รู้ค่ะ ป้าบอกว่าให้พริมมาคอยดูแลตอนคุณทานอาหารแทน...” “อืม” อ่าว แค่นี้เองเหรอ? นึกว่าจะฟาดงวงฟาดงาซะอีก พริมาได้แต่คิดขึ้นในใจ เมื่อเธอก็แปลกใจตอนที่ป้าของเธอบอกให้มาคอยดูแลคาลวินแทน เธอเองก็อยากปฏิเสธแต่สุดท้ายก็เข้ามา และดูเหมือนอาหารมื้อนี้จะยาวนานกว่ามื้ออื่นๆ เมื่อคนกินก็ค่อยๆละเลียดทีละนิดๆจนคนยืนรอเริ่มเบื่อ ขาก็เริ่มปวด “เดี๋ยวบ่ายเข้าไปทำความสะอาดห้องหนังสือให้ฉันหน่อยนะ” “คะ? เอ่อ ได้ค่ะ...” บอกจบเขาก็ลุกเดินออกไป เมื่อทานอาหารมาร่วมชั่วโมงแล้ว พริมารีบเก็บจานไปทำความสะอาดพร้อมกับเริ่มก่นด่าเขาในใจ “เฮ้ออออ แล้วอยู่ไหนล่ะห้องหนังสือ บ้านก็หลังใหญ่ขนาดนี้...” พอเดินขึ้นมาชั้นสองพร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด พริมาก็ต้องสับสนเมื่อไม่เคยขึ้นมาชั้นสองเลยสักครั้ง เธอมองประตูห้องที่เรียงรายอย่างพยายามหาว่าห้องไหนกันคือห้องสมุด แกร็ก... “ห้องนี้...อ่าวไม่ใช่” แกร็ก... “แล้วห้องนี้...ไม่ใช่อีก...” แกร็ก... “แล้ว...ว๊าย อุ๊บ! ขอโทษค่ะ!” และเธอก็เปิดมาเจอคาลวินที่ยืนเปลือยท่อนบนเมื่อเขากำลังจะใส่เสื้อหลังจากพึ่งอาบน้ำเสร็จ พริมารีบปิดประตูกลับคืนให้เขา หน้าแดงก่ำอย่างรู้สึกอาย “แล้วมันห้องไหนเนี่ยยยย” เธอเริ่มกระวนกระวาย มองไปรอบๆ แกร็ก... “ทำอะไรของเธอ” คาลวินที่ใส่เสื้อเปิดประตูห้องออกมาเจอเข้ากับพริมาที่ยืนกระวนกระวายอยู่ “เอ่อ พอดีฉันหาห้องหนังสือ เอ่อ ไม่เจอ...” และคาลวินก็เข้าใจ เขาเลยเดินนำเธอไปที่ห้องที่อยู่ในสุดของบ้าน “ขอบคุณค่ะ” พริมารีบเดินเข้าไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อคิดว่าเธอรอดพ้นจากสายตาของคาลวินแล้ว แต่เขาดันเดินตามเข้ามา “อ่าว เอ่อ มีอะไรอีก...เหรอคะ...” เธอหันไปถาม “ฉันจะอ่านหนังสือ เธอก็ทำความสะอาดไปสิจะได้ดูด้วยเผื่อซุ่มซ่ามทำหนังสือเสียหาย” พูดจบคาลวินก็เดินไปนั่งที่โต๊ะที่เขานั่งประจำ ส่วนพริมาก็เริ่มมองไปรอบๆ และพบว่ามันเป็นระเบียบซะจนเธอคิดสงสัยว่าควรเริ่มทำอะไรจากตรงไหนก่อนดี ไม่เห็นมีอะไรต้องทำความสะอาด...หนังสือก็เรียบร้อย แล้วพื้น...ก็สะอ๊าดสะอาด...โอ๊ย! แล้วจะให้ทำอะไรเนี่ย... พอเดินสำรวจไปรอบๆ พริมากลับหาที่ต้องจัดการทำความสะอาดไม่เจอ เธอเริ่มหันไปสนใจหนังสือที่จัดเรียงเต็มไปหมดยิ่งกว่าห้องสมุดมหาวิทยาลัยเสียอีก หือ? มีหนังสือนี่ด้วยเหรอ? เดี๋ยวนี้หายากมาก ขนาดที่ห้องสมุดยังจองไม่เคยทัน และเธอก็ไปเจอหนังสือหายาก ของในมือถูกวางลงทันทีก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาดูอย่างสนใจเมื่อดันเป็นคนใฝ่รู้ ก่อนจะเริ่มเปิดอ่านโดยลืมไปว่าเธอมาทำความสะอาด หือ? ทำไมเงียบ หรือไปแอบนอน ทางด้านคาลวินที่เริ่มสงสัยเมื่อไม่เห็นพริมาแถมยังเงียบผิดปกติ เขาเลยลุกเดินไปดูก่อนจะพบว่าเธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในมุมแคบๆเหมือนกับว่ามันน่าสนใจจนวางไม่ลง เขาเผลอยืนมองเธออย่างลืมตัว เมื่อปกติแล้วในห้องนี้นอกจากเขาก็ไม่เคยมีใครเข้ามาเลย การอ่านหนังสือมันอาจจะดูน่าเบื่อสำหรับหลายๆคนแต่เขากลับหลงใหลมัน คาลวินเดินกลับไปนั่งที่เดิมเมื่อไม่อยากรบกวนเวลาอ่านหนังสือของพริมา ชอบอ่านจริงๆหรือแกล้งขี้เกียจกัน... เขาคิดขึ้นเมื่อคอยแอบมองและแอบฟังเสียงเผื่อเธอจะหลับหรือทำอย่างอื่น แต่มันกลับยังเงียบจนเขาอดรู้สึกดีไม่ได้ เมื่อตอนนี้เหมือนกับว่าเขากำลังมีเพื่อนในห้องหนังสืออันแสนเงียบเหงามาตลอดตั้งแต่มีห้องนี้ และเวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งเย็น คาลวินวางหนังสือในมือแล้วเดินไปแอบดูพริมาอีกครั้ง และเธอก็ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เดิม “อะแฮ่ม” “ว๊าย! เอ่อ พริม...พริม...” คนที่กำลังจดจ่ออยู่กับตัวอักษรตรงหน้าถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าของห้อง เธอรีบลุกขึ้นแล้วเอาหนังสือใส่ไว้ที่เดิม “สนใจเหรอ? ฉันให้ยืมไปอ่านก็ได้นะ” “คะ? เอ่อ ได้เหรอคะ...” “อืม อยากเอาเล่มไหนก็เอาไปแล้วก็เอามาไว้ที่เดิม ห้ามสกปรก ห้ามขาดหรือชำรุด ฝากบอกป้าจันทร์ด้วยว่าเย็นนี้ไม่ต้องเตรียมอาหาร ฉันจะออกไปข้างนอก” “ค่ะ...” บอกเสร็จคาลวินก็เดินกลับออกจากห้องหนังสือไป พริมารีบเดินไปดูว่าเขาไปแล้วจริงๆหรือเปล่า ก่อนเธอจะเดินกลับมาเอาหนังสือออกมาอ่านต่อ เมื่ออ่านไปได้เกือบครึ่งเล่มแล้ว จากที่นั่งอ่านเธอก็จัดการนอนราบอย่างไม่ต้องเกรงใจใครอีก ส่วนคาลวินก็อดหันกลับมามองที่ห้องหนังสือไม่ได้ และพอเห็นว่าเธอไม่ได้เดินออกมาเขาก็เผลอยิ้มอย่างลืมตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม