@คฤหาสน์ตระกูลPP
"สวัสดีค่ะทุกคน" ฉันยกมือไหว้ทุก ๆ คนที่นั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่เพียงแต่ครอบครัวของฉันที่อยู่กันครบ ทว่ามีครอบครัวของเฮียวอร์มอยู่ร่วมด้วย ซึ่งจุดประสงค์หลักที่รวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อมาสู่ขอฉันนั้นแหละ
"น้ำฝนทำไมถึงมาช้าล่ะลูก" แม่น้ำฟ้าส่ายหัวยกใหญ่ เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังรอฉันแค่คนเดียว
"ขอโทษค่ะ เมื่อวานติดงานทั้งวันเลย" เพราะช่วงนี้งานแน่นเอี๊ยด ผลก็มาจากการประกาศงานแต่งงาน ฉันจึงถือโอกาสนี้กอบโกยมาให้หมด ไม่ให้เว้นเวลาว่างให้พักผ่อนเลยทีเดียว
"ไม่เป็นไรหรอกน้ำฟ้า หนูฝนขยันทำงานก็ดีแล้ว มานั่งข้างแม่สิลูก" แม่เพียงขวัญพูดขึ้น ก่อนที่จะตบที่นั่งข้าง ๆ ที่อยู่คั่นกลางระหว่างแม่เพียงขวัญและเฮียวอร์ม ฉันมองคนเป็นแม่ครู่หนึ่ง เมื่อได้รับการพยักหน้าก็ตัดสินใจไปนั่งแทรกกลาง ไม่วายที่จะส่งยิ้มให้เฮียวอร์ม แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าอันนิ่งเรียบของเขา
"เอาล่ะในเมื่อมากันครบแล้ว พี่ธาวินเริ่มเลย" แม่เพียงขวัญสะกิดลุงธาวินที่นั่งข้างกายเพื่อเริ่มพิธีอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ฉันนั่งเกร็งไปหมด ไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้
"อยากเรียกเท่าไหร่ก็เรียกมา ทุกอย่างกูจัดการหมด ขึ้นอยู่กับมึงตัดสินใจ" สิ้นเสียงที่ลุงธาวินพูดจบมือบางของแม่เพียงขวัญก็จัดการฟาดลงบนแขนสามีอย่างไม่รีรอ ฉันคือหนึ่งในคนที่หัวเราะพรืดออกมา แต่ก็พยายามฮึบเก็บอาการไว้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตา
"ให้เป็นพิธีดี ๆ หน่อยได้ไหมคะ วันสู่ขอของลูกเรานะคะ" แม่เพียงขวัญเอ่ย
"ก็พี่ทำไม่เป็น ไอพร้อมมันไม่ถือหรอก จริงไหม?" ลุงธาวินหันไปหาพ่อฉันเพื่อหาพรรคพวก ในขณะที่พ่อฉันส่ายหัวแล้วมือบางของแม่เพียงขวัญก็ฟาดลงอีกครั้ง
"เห็นไหมคะ ทำให้มันดี ๆ เดี๋ยวเขาก็ไม่ยกลูกสาวให้หรอก"
"ไอพร้อมมึงอย่าเล่นตัวให้มาก" ลุงธาวินกัดฟันพูดเบา ๆ เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน ฉันรู้ว่าพ่อก็ไม่ได้ต้องการพิธีรีตองอะไรมากมาย เพียงแต่อยากแกล้งเพื่อนสนิทก็เท่านั้น
"เอาล่ะ ๆ เรื่องสินสอดทองหมั้นไม่ต้องห่วง กูเรียกสมฐานะของตระกูลเวสเทิร์นแน่ ส่วนฤกษ์ก็เอาที่ทั้งสองคนสะดวก ทำงานหนักกันทั้งคู่ ว่างวันไหนตรงกันก็วันนั้นแหละฤกษ์ดีที่สุด" พ่อของฉันเป็นคนพูดสรุปจบให้ทุกคนเข้าใจ ซึ่งฉันเห็นด้วยเรื่องฤกษ์ที่พ่อบอกมากที่สุด ฤกษ์ที่ดีก็คือฤกษ์ที่ว่างตรงกัน แบบนี้ก็ไม่กระทบงานกันทั้งคู่ด้วย
"เดี๋ยวเรื่องฤกษ์น้ำฟ้ากับเพียงขวัญจัดการเองค่ะ" แม่ของฉันพูดขึ้น เมื่อทุกอย่างลงตัวทุกคนก็พากันแยกย้ายไปตามความเหมาะสม โดยที่ปาป๊าฉันลุงธาวินและเฮียวอร์มเดินเข้าห้องทำงานของพ่อ ส่วนฉันก็ตามแม่และแม่เพียงขวัญเข้าไปในครัว
"น้ำฝนจะแต่งงานแล้วหนูต้องหัดทำกับข้าวนะลูก จะได้ทำให้พี่เขาทาน" แม่ฉันว่าพลางทำกับข้าวพลาง ส่วนฉันได้แต่นั่งท้าวคางมองสองคนกำลังทำ เพราะฉันทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างเดียว
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวนี้สั่งเอาก็ได้" คนที่ตอบแทนคือแม่เพียงขวัญ ต้องแบบนี้สิแม่ผัวสมัยใหม่ ถูกใจฉันที่สุดเลย
"แกก็แปลกคน เป็นสาวเป็นนางก็ต้องหัดเอาใจสามี" แม่ฉันยังเทศน์ไม่เลิก ฉันเข้าใจในสิ่งที่แม่เอ่ย แต่จะให้ลงไปทำกับข้าวฉันว่าฉันขอทำอย่างอื่นจะดีกว่า
"หนูฝนทำกับข้าวไม่เป็นก็ไม่เป็นไรลูก ลูกแม่ทำกับข้าวอร่อยมาก ไว้ให้พี่เขาทำให้หนูทานก็ได้" อร่อยจริง…อร่อยมากด้วย ฉันก็เคยทานมาแล้ว แต่บอกไม่ได้…
"แกก็ให้ท้ายลูกฉันเกินไปเพียงขวัญ"
"ฉันอยากได้สะใภ้คนนี้หนิ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เล็งมาตั้งนานสุดท้ายก็ได้จนได้" แม่เพียงขวัญยกยิ้มกว้าง มองฉันอย่างมีความสุข เชื่อแล้วว่าเล็งมานานจริง ๆ เพราะคุณน้าชอบจับคู่ฉันกับเฮียวอร์มอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าคุณน้าจะจริงจังอยากได้เป็นสะใภ้จริง ๆ
"สองคนนี้ก็เหมาะกันดีนะ ทำงานหนักกันทั้งคู่ คนหนึ่งชอบป่วยอีกคนเป็นหมอดูแล คนหนึ่งเงียบขรึมแต่อีกคนก็สดใส ช่างลงตัวจริง ๆ"
"แต่คุณน้าคะ ถ้าคนหนึ่งชอบความเงียบแล้วอีกคนกลับเป็นคนสดใสมันลงตัวยังไงเหรอคะ?" คนหนึ่งป่วยอีกคนดูแลฉันยังพอเข้าใจได้ แต่อันหลังฉันชักไม่แน่ใจ ไม่ใช่ว่าเอาเข้าจริงแล้วเฮียวอร์มจะรำคาญแล้วไล่ตะเพิดฉันเหรอ…
"ก็ความสดใสของหนูที่จะมาทำลายกำแพงความเย็นชาของลูกน้าไงจ๊ะ เชื่อน้าสิว่ามีแค่หนูนั้นแหละที่จะทำลายได้"
"ถ้าวันไหนหนูโดนไล่ขึ้นมาล่ะคะ"
"น้าจะอยู่ข้างหนูคนแรกเลย"
"พูดแล้วนะคะ" อย่างน้อยฉันก็มีเบื้องหลังใหญ่อยู่บ้าง มีแม่ผัวอยู่ข้างตัวเองก็ค่อยสบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง
หลังจากที่ทานข้าวเย็นเสร็จเฮียวอร์มก็ได้รับหน้าที่เป็นคนมาส่งฉันที่คอนโด ทั้งที่ฉันก็ขับรถมาเองแต่ก็ถูกผู้ใหญ่บังคับให้คู่หมั้นของฉันมาส่งให้ได้ ถึงตอนนี้ก็เลือกอะไรไม่ได้ จึงต้องนั่งรถมากับเฮียวอร์มตามระเบียบ
"ฝนเปิดเพลงได้ไหม?" ฉันหันไปถามความเห็นเจ้าของรถข้าง ๆ ภายในรถเงียบสงัดเกินไป คนชอบอึดอัดแบบฉันจึงต้องหาอะไรมาทำลาย ขืนอยู่แบบนี้จนถึงคอนโดฉันได้เป็นบ้าตายพอดี
"อืม" เมื่อได้รับอนุญาตฉันก็จัดการกดเลือกเพลงที่ชอบ ได้เพลลิสท์ที่ชอบไม่รอช้าที่เปิดฟังทันที
"กรี๊ดดดด อันนี้ดีมาก" ฉันเผลอกรีดร้องออกมาเมื่อดันเปิดเพลงที่ออกใหม่ของวงเคป็อปในดวงใจ จนเผลอลืมไปว่าตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในรถแค่คนเดียว
"ขะ ขอโทษค่ะ ฝนลืมตัว" ฉันยิ้มแหย่ ๆ เอื้อมไปเบาเสียงเพลงที่กำลังเปิดฟัง ความชอบของฉันอาจจะแปลกไปสำหรับชายแท้ ฉันชอบฟังเพลงเคป็อปเป็นที่สุด ผู้ชายเกาหลีหน้าตาน่ารักไปหมด แถมเสียงยังไพเราะฟังลื่นหูได้ยินทีไหรก็มีความสุขเป็นที่สุดเลย
"ฉันไม่ได้ว่าอะไร"
"จริงเหรอคะ งั้นฝนเปิดเสียงดังกว่านี้ได้หรือเปล่า"
"อืม"
"เย้ ขอบคุณค่ะ" ว่าแล้วฉันระรัวกดเปิดเสียงเพลงทันที โยกย้ายและร้องตามเพลงอย่างที่ชอบทำ โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าอีกคนจะรำคาญฉันมากแค่ไหนก็ตาม
เอี๊ยด!
ในที่สุดรถหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคอนโดของฉัน เวลาแห่งความสนุกกับเครื่องเสียงรถก็จบลง ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน แต่วันนี้รู้สึกเหมือนได้เติมพลังจากความเหนื่อยล้าสะสมได้ดีเลยทีเดียว ปกติไม่เคยมีใครรับได้กับความแปลกของฉันหรอก ทุกคนต่างบอกว่ารำคาญกันหมด แต่กับเฮียวอร์มเขาไม่ว่าอะไรฉันสักแอะ ต่างจากที่คาดไว้อย่างสิ้นเชิงเลย
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" ฉันปลดเข็มขัดนิรภัยหมายจะลงจากรถ ทว่าเฮียวอร์มก็ปลดตามด้วย ก่อนที่จะดับรถแล้วลงจากรถเป็นคนแรก
"เฮียจะขึ้นไปหาเพิร์ธเหรอคะ?"
"เปล่า ฉันจะขึ้นไปส่งเธอ"
"คะ คะ?"
"เป็นคำสั่งของคุณอา" ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง…