โกรธ

1319 คำ
มัลลิกาพาตัวเองมาที่ห้างขนาดใหญ่กลางกรุง นานๆทีมา เลยคิดว่าจะหาซื้อของสักหน่อย เธอเป็นนักช็อปตัวยงเหมือนกัน มาห้างทีไร ได้ของมากมายกลับไปบ้านทุกที “สวัสดีค่ะคุณมัลลิกา” พนักงานที่คุ้นหน้าคุ้นตามัลลิกาดี รีบเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ลูกค้ากระเป๋าหนัก มัลลิกาทำเพียงแค่มอง และเดินไปในโซนที่ตัวเองต้องการ เธอทำแบบนี้จนพนักงานที่นี่ชินแล้ว หรือไม่ก็อาจจะไม่ชิน เพียงแต่ไม่กล้าพูดอะไร หรือต่อให้พูดมัลลิกาก็ไม่สนใจ เพราะความสนใจของเธอ มันไปอยู่กับเสื้อผ้าตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้ว มัลลิกาเลือกเสื้อผ้าอย่างพิถีพิถัน เธอชอบแบรนด์นี้มาก เพราะใช้วัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม ผ้าฝ้าย การย้อมและการทอ ล้วนใช้วัสดุดิบที่ได้มาจากธรรมชาติล้วนๆ “เอาราวนี้ทั้งราวเลย เอาเป็นไซส์เอสเหมือนเดิมนะ” หลังจากดูจนละเอียดแล้วว่าเสื้อผ้าทั้งราวนั้น เธอสามารถใส่มันได้ในทุกโอกาส เลยเลือกซื้อทั้งหมด ซื้อไปใส่เองด้วย และเอาไปฝากคนในบ้านด้วย “ได้ค่ะ จะให้ทางร้านไปส่งให้ไหมคะ” “อืม…. เดี๋ยวลองจัดแพคดูก่อน ถ้าไม่เยอะมาก เดี๋ยวฉันเอากลับไปด้วยก็ได้ค่ะ” ชั่งใจพลางคะเนด้วยสายตาว่าเสื้อผ้าพวกนั้นเธอสามารถขนมันกลับบ้านได้ไหม มันก็เยอะอยู่แหละ แต่ก็อยากหิ้วกลับไปด้วย ไม่ค่อยชอบรอไง เรื่องของเรื่อง เพราะตัดสินใจแบบนั้น ตอนที่เดินออกจากร้าน มัลลิกาจึงออกมาด้วยสภาพทุลักทุเล ในมือทั้งสองข้างหอบหิ้วถุงกระดาษ ข้างละหลายใบ แต่ละใบหนักมาก เพราะอัดผ้าเข้าไปจนเต็ม หมับ! “อ๊ะ!” “ช่วย” “ไม่ต้องเลย เอามานะ” ใบหน้าสวยหวานบึ้งตึง นึกถึงสิ่งที่คนตรงหน้าทำ มีแต่ความโกรธและไม่พอใจ พนาเห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ จะโกรธไม่ว่า แต่ช่วยดูสภาพตัวเองก่อนเถอะ “โกรธ?” “ฉันจะไปโกรธอะไรคุณ รู้จักกันเหรอ” “หึ! รถจอดอยู่ไหน?” ถามขณะแย่งถุงทั้งหมดมาถือไว้เอง มัลลิกาปล่อยให้เขาแย่งไปทั้งหมด อยากถือนักก็เอาไปให้หมดนั่นแหละ ของพวกนี้หนักจะตาย ดันทุรังไปมีแต่จะเหนื่อยเอง พนามองสำรวจแผ่นหลังคนที่เดินนำตัวปลิว อายุอานามก็ขนาดนั้นแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็ก เขากับเธออายุห่างกันเกือบห้าปี เป็นแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนมีน้องสาวเพิ่มมาเลย “เอาไว้ท้ายรถ” มาถึงรถตัวเองก็เดินไปเปิดท้ายไว้รอ ยืนคุมอยู่ห่างๆ ให้เขาวางของทั้งหมดอย่างระมัดระวัง คอยเช็คดูด้วยว่าของมีครบหรือเปล่า กลัวเขาทิ้งมันระหว่างทางเดินเพราะเธอไม่ยอมช่วยถือ “ครบไหมครับ คุณเดียร์” พนาเลียนแบบพนักงานของห้าง มองใบหน้าสวยที่ขยับขึ้นลง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ มัลลิกาถอยห่างอย่างรวดเร็ว คิดว่าทำดีแค่นี้แล้วเธอจะหายโกรธเหรอ คิดง่ายไปไหม “ถอยไปห่างๆเลยนะ เหม็นเหงื่อ” ไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นเขาไปทำอะไรมา ตอนที่เขาเสนอตัวมาช่วย ใบหน้าก็ชุ่มโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อแล้ว ยิ่งตอนที่เขาหอบหิ้วของพวกนี้มาให้ ร่างกายยิ่งมีแต่เหงื่อ เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาสวมอยู่ เปียกชุ่มจนเห็นผิวสีเนื้อข้างใน “เห้อ!” มือหนาสางผมที่ลงมาระใบหน้าขึ้นไปแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิด เขาวิ่งมาหาเธออย่างไม่คิดชีวิต หลังจากมั่นใจว่าผู้หญิงที่กำลังหิ้วของพะรุงพะรังออกจากร้านเสื้อผ้าคือเธอ แล้วดูเธอพูดดิ หงุดหงิดชิบหายเลย “ขอบคุณที่ช่วยยก แต่คราวหลังไม่ต้อง” หมับ! “อะไรเนี่ย?” มัลลิกามองคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว มองแขนที่ถูกคว้าไปจับสลับกับใบหน้าที่แสดงออกว่าอารมณ์ไม่ดีของเขา “เห้อ… ไปด้วยกันหน่อย เดี๋ยวให้คนมาขับรถตามไปให้” พูดจบก็ออกแรงลากร่างสมส่วน ไปใกล้รถที่จอดรออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า คนขับรถประจำตัวรีบลงจากรถอย่างรู้งาน พนาเองก็รีบบังคับเธอเข้าไปนั่งในรถ ก่อนที่เธอจะโวยวายสร้างความรำคาญใจให้คนอื่นๆ ที่มาใช้บริการในห้างแห่งนี้ “ช่วยขับรถของคุณเดียร์ตามไปที” “ครับคุณพนา” ร่างสูงโปร่งหุ่นสไตล์นายแบบ สอดตัวเข้าไปนั่งหน้าพวงมาลัยรถ มองคนที่นั่งเงียบอย่างเดาไม่ออกว่าเธอกำลังรู้สึกยังไงอยู่ บทจะว่าง่ายก็ง่ายซะจนเขางง บทจะดื้อก็ดื้อซะจนเขาเอือมระอา “ฉันแค่เหนื่อย ขับรถดีๆล่ะ” “ผมไม่ใช่คนขับรถของคุณแล้วนะ” “แล้วตอนนี้มันต่างกันตรงไหน ขับดีๆ” มัลลิกาหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เธอโหมงานหนักมาตลอดห้าวัน เพื่อให้ตัวเองเลิกคิดวุ่นวายเรื่องของเขา เธอเหนื่อยจนแทบจะลากขาเดินไม่ไหวอยู่แล้ว แล้วดูคนที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้สิ ยังสุขสบายดีและดูมีความสุขต่างจากเธอ มันน่าโมโหที่สุด พนาขับรถออกไปจากห้าง สายตามองคนข้างๆตลอด เขาไม่รู้เธอจริงจังเรื่องในคืนนั้นแค่ไหน เพียงแค่เธอพูดและทำอย่างนั้น เขาก็กระโดดเข้าไปหา ทำราวกับว่าเฝ้ารอเวลานี้มานาน มันง่ายจนเขาต้องกลับไปตั้งหลัก และคิดทบทวนว่าเธอมีแผนการอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า รถยนต์ยี่ห้อ BMW จอดลงหน้าบ้านหลังไม่ใหญ่มาก เป็นบ้านสมัยใหม่ สไตล์โมเดิร์นสีขาว ภายในรั่วบ้านมีสวนดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ แต่เสียดายที่ใครบางคนไม่ได้เห็นมัน เพราะมัวแต่หลับ “เดียร์ ถึงแล้ว!” พนาส่ายหน้าเบาๆ ไม่รู้ว่าเธอเหนื่อยอะไรขนาดนั้น และไม่รู้ว่าเธอทำแบบนี้กับคนอื่นๆหรือเปล่า ท่าทางที่ไม่ระมัดระวังตัวของเธอ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่าจะดีใจ แม้จะเห็นเธอนอนอยู่ในรถตัวเองก็เถอะ แต่สมองกลับคิดไปว่า ถ้าเธอทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นด้วยล่ะ เพียงแค่คิดก็พาลให้หงุดหงิดแล้ว “มายเดียร์!” “อืม” ลากเสียงยาวๆตอบ ได้ยินและรู้สึกรำคาญมาก เปลือกตาหนักอึ้งเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งชีวิต ไม่คิดว่าการมีคนขับรถให้นั่ง มันจะสบายขนาดนี้ เธอไม่มีคนขับรถให้แบบนี้มาหลายปีแล้ว พนาตัดปัญหาการปลุกเธอให้ตื่น ด้วยการลงจากรถอ้อมมาอีกฝั่ง อุ้มคนหลับขึ้นแนบอกอย่างเบามือ เดินเข้าไปในบ้านวางเธอลงนอนบนโซฟาอย่างอ่อนโยน ถ้าเป็นคนอื่นมีหรือจะใจดีเหมือนเขา เพราะเขารู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวหรอก ถ้าเขาอยู่ในสภาพปกติ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอนอนอยู่แบบนี้แน่ พนาทิ้งให้มัลลิกานอนอยู่เพียงลำพัง กำชับคนงานในบ้านไม่ให้เข้าไปใกล้ห้องรับแขก เพราะไม่อยากให้ใครรบกวนการนอนของเธอ ทั้งยังสั่งไว้ด้วยว่าให้เตรียมอาหารเย็นไว้รอ เขาจะลงมาทานข้าวเย็นพร้อมกันกับเธอ พนาขึ้นมาอาบน้ำในห้องนอนของตัวเอง เสร็จแล้วก็นั่งทำงานที่ปล่อยให้คั่งค้างมาตลอดห้าวัน นั่งทำงานกว่าสามชั่วโมงก็เริ่มรู้สึกหิว รอให้คนมาตามก็ไม่มีใครมา และเริ่มเป็นห่วงแล้วว่ามัลลิกาจะยังไม่ตื่น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม