“เฮ้ย!” นิรตีอุทาน
“อะไร” คนชั่งน้ำหนักรีบเอ่ยถาม
“ดาลืมตาดูเลยดา เร็วๆ”
“ดูอะไร”
“น้ำหนักไง เร็วๆ สิ”
“จ้ะๆๆๆ”
“เฮ้ย!” คนอุทานคือธิดา เธออ้าปากค้างตาโต
“รตี”
“อือ...”
“เราฝันไปหรือเปล่า ช่วยหยิกเราที”
“ไม่ฝัน อันนี้เรื่องจริง น้ำหนักดาลดลงไปเยอะมาก จากแปดสิบเหลือ หกสิบเจ็ด สุดยอดไปเลย นี่แค่สามเดือนเองนะ”
“รตี”
“ว่าไง”
“เราดีใจที่สุดในโลกเลย เย็นนี้ต้องรีบบอกพี่ธีแล้วล่ะ”
“ดีใจด้วย” รตีช่วยเพื่อนเอาอาหารคลีนที่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยสั่งไปส่งจนครบทุกคน ลูกค้าที่รับอาหารไปกินบอกว่าอร่อยก็ชวนเพื่อนมาซื้อด้วย
“ธิดาผอมลง เก่งจังเลย เรายังอ้วนอยู่เลย”
“สู้ๆ นะ ยังไงเราก็ต้องทำได้” นักศึกษาที่ซื้ออาหารคลีนของธิดาหลายคน ช่วยกันแชร์อาหารดีๆ ที่ควรกินขณะลดน้ำหนัก ท่าออกกำลังกายและพูดให้กำลังใจต่อกัน ธีรภัทรเป็นคนสร้างกลุ่มนี้ให้คู่หมั้นสาว ให้เธอมี เพื่อนร่วมอุดมการณ์จะได้ส่งกำลังใจต่อกัน เพื่อจะได้มุ่งมั่นในการลดน้ำหนัก
ธิดาเองก็มีกำลังใจมากขึ้นเมื่อลดน้ำหนักได้สำเร็จ แถมยังได้คำทักทายดีๆ จากเพื่อนๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
“ยายธิดามันต้องกินยาลดน้ำหนักแน่ๆ เลย แกเชื่อฉันสิ แต่แกล้งบอกว่าออกกำลังกายและกินอาหารคลีน สักพักหนึ่งแกดูเถอะมันก็ต้องออกมายอมรับว่ากินอาหารเสริมลดน้ำหนัก สงสัยมันอยากจะแข่งขายอาหารเสริมกับฉัน"
พาฝันพูดอย่างหงุดหงิดใจที่เห็นว่าจะมีเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยเป็นคู่แข่งทางการค้ากับเธอ เธอเป็นเจ้าใหญ่ ทุกคนต้องมารับยาและอาหารเสริมลดน้ำหนัก ผิวใส ผิวสวยกับเธอเจ้าเดียว เธอไม่มีวันให้ใครมาแย่งตลาด อย่างแน่นอน
เธอมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในแต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เกิดขึ้นทำให้ต้องทำงานหัวหมุน
“เขาอาจจะลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายแล้วก็กินคลีนจริงๆ ก็ได้”
พาใจแสดงความคิดเห็น
“เอ๊ะ! นี่เธอเป็นเพื่อนใคร ฉันหรือมัน ถึงไปพูดเข้าข้างมันแบบนี้”
เธอไม่ไว้ใจใคร เพราะเพื่อนหาความจริงใจยาก สมัยก่อนเธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี จริงใจกับทุกคน แต่พอโดนหักหลังเธอจึงรู้ว่าโลกนี้ช่างโหดร้าย คนเข้มแข็งเท่านั้นถึงจะอยู่ในโลกนี้ได้ คนอ่อนแอและโง่งมก็จะโดนกระทืบ จนจมดิน
“แหม... เพื่อนเธอสิ แต่ฉันก็แค่เห็นเขาไม่ได้สนใจพวกอาหารเสริมนี่นา”
“เธอรู้ได้ไงว่ามันไม่สนใจ” แม้ธิดาจะอ้วนน้ำหนักเกินมาตรฐานแต่อีกฝ่ายเป็นคนผิวดี ผิวเนียนและหน้าตาดีอยู่มาก ถ้าลดน้ำหนักให้ผอมกว่านี้รับรองว่าสวยแน่ๆ เธอเกลียดทุกคนที่จะมาเป็นคู่แข่งของเธอ
เย็นนั้นธีรภัทรมารับคู่หมั้นสาวที่มหาวิทยาลัย เขาเห็นสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นพิเศษของเธอจึงเอ่ยถาม คิดว่าเธออาจจะได้ลูกค้าเพิ่ม
“ยิ้มกว้างขนาดนั้นมีลูกค้าสั่งอาหารเพิ่มเหรอครับ”
“พี่ธีขา...” เธอเรียกเขาอย่างตื่นเต้น สีหน้าเหมือนมีเรื่องสำคัญจะพูด
“ขา...” เขาขานรับเสียงหวานไม่ต่างกัน
“คือ... น้องดาน้ำหนักลดไปตั้ง 13 กิโลแน่ะค่ะ”
“ว้าว... เป็นเรื่องน่ายินดีนะครับนี่”
“จากแปดสิบเหลือหกสิบเจ็ด น้องดาดีใจที่สุดเลยค่ะ”
“พี่ดีใจด้วย” เขายื่นมือมาจับศีรษะของเธอโยกไปมาเบาๆ
“ขอบคุณพี่ธีมากๆ นะคะ เพราะพี่ธีแท้ๆ เลย สามเดือนลดได้ตั้งสิบสามกิโล”
“พยายามต่อไปนะครับ น้องดาทำได้อยู่แล้ว”
“ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะรัดเข็มขัดนิรภัย ยิ้มไม่ยอมหุบ อาหารที่ธีรภัทร ทำให้ นอกจากจะมีประโยชน์แล้วยังอร่อยอีกด้วย เธอไม่เคยอดขนมหรือของหวาน แต่ธีรภัทรทำขนมจากไข่ขาวให้กิน เครื่องดื่มก็หวานน้อยเป็นน้ำผลไม้จากธรรมชาติ เธอจึงไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในสภาวะต้องอดอาหาร หรือไม่ได้กินอาหารที่อยากกิน
เธอได้กินอาหารครบห้าหมู่ ทั้งผัก ผลไม้ ขนม รวมถึงเครื่องดื่มหวานเย็นชื่นใจ
เธอไปช่วยเขาจ่ายตลาดเพื่อเตรียมอาหารคลีนที่จะส่งขายให้ลูกค้าในวันพรุ่ง ส่วนใหญ่จะเน้นพวกไข่ อกไก่ และปลา มีขนมที่ธีรภัทรอบเอง เขาทำขนมเก่งไม่แพ้ทำอาหาร เธอเอาไปขายที่มหาวิทยาลัย นักศึกษาหลายคนแย่งกันซื้อเพราะอร่อย ขายแทบไม่ทัน ไม่เคยคิดว่าจะมาเป็นแม่ค้าขายอาหาร แต่พอได้มาทำจริงๆ กลับสนุก เรียกว่าเธอได้ค่าขนมไปมหาวิทยาลัยโดย ไม่ต้องรบกวนเงินจากทางบ้าน แต่เงินที่บิดาส่งมาให้ใช้ทุกเดือนเธอก็เก็บเอาไว้ในบัญชี ถือว่าเป็นเงินเก็บ อนาคตอาจจะเปิดร้านอาหารหรือทำธุรกิจอะไร เป็นส่วนตัว เธอชอบชีวิตอิสระเหมือนธีรภัทร มันได้ทำอะไรหลายอย่างที่เราอยากทำ
“เย็นนี้น้องดาขอไปฝากท้องบ้านพี่ธีอีกนะคะ” คนพูดลูบท้องไปมาสีหน้ายิ้มแย้ม เขาพยักหน้าให้เธอเมื่อส่งเธอหน้าบ้าน ก่อนจะขับรถเลยไปบ้านของตัวเองซึ่งอยู่ติดกับบ้านของเธอ
เขาดูแลเธออย่างดี ในฐานะที่เธอเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเขาแต่เล็กแต่น้อย ก่อนที่เธอจะย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น บ้านหลังนี้จึงถูกทิ้งเอาไว้หลายปี พอกลับมาอยู่ใกล้กันอีกครั้งความรู้สึกผูกพันที่เขามีให้กับเธอก็ยังแน่นแฟ้นเช่นเดิม เขาชอบชีวิตสงบสุข เพราะชอบเขียนหนังสือ ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ ไม่ชอบชีวิตวุ่นวาย พอครอบครัวย้ายไปทำธุรกิจอยู่ที่อื่น มรดกตกทอดซึ่งเป็นบ้านหลังนี้จึงตกมาเป็นของเขา เพราะพี่ๆ น้องๆ หลายคนชอบใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ ส่วนพี่ชายคนโตนั้นทำไร่อยู่ที่ภาคเหนือ
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนน้องดาไม่กล้ากินขนมหรืออาหารหลังหกโมงเย็นหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่กลัวแล้วค่ะ” เธอบอกเขาหลังจากที่อาบน้ำอาบท่าแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงผ้าเนื้อนิ่มเดินลัดเลาะผ่านรั้วไม้มายังบ้านของธีรภัทร
“ถ้าอยากผอมกว่านี้มีก็มีอีกวิธีนะครับ จะผอมเร็วกว่านี้ด้วย”
“จริงเหรอคะ” เธอมองเขาตาใส คนมองยิ้มอบอุ่นส่งมาให้ ก่อนจะวางมือบนศีรษะของเธอแล้วโยกไปมา
“ครับ”
“วิธีอะไรคะ”
“ต้องเบิร์นไขมันออกให้เยอะกว่านี้ครับ รับรองว่าเหนื่อยมากๆ และก็ผอมด้วย แต่พี่กลัวน้องดาจะไม่ชอบ”
“น้องดาชอบหมดแหละค่ะ อะไรที่พี่ธีแนะนำ เพราะพี่ธีแนะนำแต่สิ่งที่ดีให้”
“จริงเหรอ” เขายื่นหน้ามาถามมองสบตาของเธออย่างค้นคว้า ก็พบว่าเธอพูดจริงตามนั้น
“วิธีนี้น้องดาต้องยินยอมด้วยนะครับ ถ้าไม่ยินยอม พี่ก็ไม่บังคับ” เขาพูดแปลกๆ แต่นั่นแหละ ทำให้เธอนึกสงสัย
“ยังไงคะ” เธอเดินตามเขาไป เอ่ยถามหลังจากช่วยเขาจัดโต๊ะอาหารในตอนเย็น
“กินอะไรก็ต้องเอาออกครับ จะได้ไม่อ้วน”
“ค่ะ” เธอรับคำ นั่งรับประทานอาหารพร้อมกับเขา แต่ก็ยังอยากรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้น ทั้งสองช่วยกันเก็บจานชามไปล้าง เธอก็ช่วยเขาเตรียมอาหารคลีนเพื่อบรรจุกล่อง มีผักมีผลไม้ ส่วนเนื้อสัตว์ เป็นอกไก่และไข่ที่ใช้วิธีการนึ่งหรือต้ม
หลังรับประทานอาหารเสร็จสองชั่วโมง เธอช่วยเขาเตรียมอาหารบางส่วนที่จะใส่กล่องขายก่อนมาออกกำลังกาย
ทุกวันธีรภัทรจะมีท่าออกกำลังกายแยกส่วนให้เธอ บางวันเล่นหน้าท้อง บางวันก็เล่นส่วนบน บางวันก็เล่นส่วนขา หลังจากนั้นจะวิ่งหรือปั่นจักรยานในบ้านอีก 40-45 นาที วันหยุดก็จะมีกิจกรรมว่ายน้ำเพิ่มเข้ามาด้วย
หลังออกกำลังกายเสร็จ เธอก็อาบน้ำเตรียมทำการบ้านส่งอาจารย์ วันไหนการบ้านเยอะมากๆ ก็จะออกกำลังกายแค่สามสิบถึงสามสิบห้านาที วันไหนการบ้านไม่เยอะก็จะออกได้ถึง 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนเหนื่อยมากๆ ก็อาจจะหยุดพัก
อาหารมีผลต่อการลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักถึง 70% ในขณะที่การออกกำลังกายช่วยได้ 30% ดังนั้นการออกกำลังกายคือการเผาผลาญเพื่อให้ร่างกายกระชับขึ้น ถ้าเราไม่เลือกกินอาหาร แต่กินทุกอย่างที่ขวางหน้าแถมยังกินไม่เป็นเวลาอีก น้ำหนักก็จะไม่ลด
“สรุปว่าพี่ธียังไม่บอกเลยนะคะว่าทำยังไงถึงจะลดน้ำหนักได้มากกว่านี้อีก” เธอเอ่ยถามหลังจากที่ทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว