ตอนที่ 3
——————————
กริ๊งงงง~
เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าดังขึ้น ร่างอรชรงัวเงียรู้สึกตัวเอื้อมมือไปกดปิดตัวขัดขวางเวลานอนของเธอ จากนั้นก็ลุกออกจากที่นอนตรงไปยังห้องน้ำทันที ไม่นานก็ออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอันสดใสก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเช็กข้อความการแจ้งเตือนต่างๆ หนึ่งในนั้นก็มีของเขาด้วย เธอไม่คิดจะตอบกลับหรือโทรกลับไปหาเขาเลย แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป นิ้วเรียวกดโทรหาชายหนุ่มคนที่เธอไม่ได้รับสายตั้งแต่เมื่อวาน
เขาไม่รับสาย...เธอจึงตัดสินใจส่งข้อความไปบอกแทน ก่อนที่จะจองตั๋วรถไฟสำหรับกลับไปเยี่ยมพ่อในวันนี้
ร่างอรชรใส่เสื้อผ้าตัวหนามากกว่าทุกวันเนื่องจากวันนี้มีรายงานสภาพอากาศบอกว่าหิมะจะตกในอีกไม่กี่ชั่วโมง เธอเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าสะพายข้างใบโปรดไม่ลืมเงินรางวัลจากการแข่งขันเมื่อวานนี้ด้วย เพราะตั้งใจจะเอาเงินนี้ไปเป็นค่ารักษาพยาบาลของคุณพ่อและซื้อของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้ท่านเนื่องในวันเกิด
หญิงสาวเดินทางมาที่สถานีรถไฟพอดีกับเวลาที่ได้จองตั๋วไว้ ใช้เวลาเดินทางแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเมืองฟลอเรนซ์ เธอแวะซื้อของขวัญที่ช็อปร้านเสื้อผ้าก่อนจะเข้าบ้าน ระหว่างที่เดินไปตามทางเดินหิมะก็ตกโปรยปรายลงมา เธอแบมือรองรับหิมะแรกของปี
"เข้าสู่ฤดูหนาวจริงๆ แล้วสินะ" เสียงเล็กบอกกับตัวเองยิ้มๆ พร้อมกับกระชับเสื้อโค๊ทตัวหนาเพิ่มความอบอุ่นมากกว่าเดิม
ร่างอรชรยืนกดกริ่งหน้าประตูบ้านสักพักก็มีคนมาเปิดประตูให้
"คุณพ่อ..." ใบหน้าสวยยิ้มร่าด้วยความดีใจ
"รีบๆ เข้าบ้านก่อนเถอะลูก ดูสิ หนาวจนตัวซีดหมดแล้ว"
ชายสูงวัยรูปร่างอ้วนท้วมส่งยิ้มเอ่ยบอกลูกสาว ถึงจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่เขาก็รักเหมือนลูกตัวเองตั้งแต่รับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ด้วยกัน
"สวัสดีค่ะป้าฮันน่า" หญิงสาวก้มโค้ง ทักทายแม่บุญธรรมและพ่อบุญธรรมของตัวเอง
"อืม" ฮันน่าพยักหน้าเลิกคิ้วด้วยหน้าตาเอือมระอาบอกบุญไม่รับ แล้วเดินเข้าครัวไป
"คุณ ลูกอุตส่าห์มาเยี่ยม" ชาร์ลีจะเดินตามภรรยาเข้าไปในห้องครัว แต่นีนเรียกไว้ก่อน
"ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ นั่งก่อนดีกว่านะคะ" หญิงเดินประคองร่างอ้วนท้วมของชาร์ลีให้นั่งลงบนโซฟาห้องรับแขก
"พ่อไม่เป็นไรหรอกลูก ดูสิ แข็งแรงจะตายไป ฮ่าฮ่า" ชาร์ลีหัวเราะเสียงดัง ลูบศีรษะเล็กของลูกสาวอย่างเอ็นดู เขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่รับเลี้ยงเด็กคนนี้มาเป็นลูก
เมื่อครั้งนั้น เขาและฮันน่าไปเที่ยวบนเกาะซิซิลี ที่นั่นมีสถานที่รับเลี้ยงเด็กเลยเข้าไปเยี่ยมเยียนซื้อขนมอร่อยๆ ไปให้เด็กๆ ตามประสาคนอยากมีลูก ไม่ว่าเขาและฮันน่าจะพยายามมากแค่ไหนทั้งวิธีธรรมชาติหรือด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนเริ่มถอดใจกันแล้ว แต่ในวันนั้นทันทีที่ได้เจอเด็กหญิงอายุราว 4 ขวบคนนี้ เธอเดินยิ้มกว้างเข้ามาหาเขาแล้วปัดฝุ่นที่เปื้อนกางเกงเขาออก พอสอบถามประวัติก็รู้ว่าแม่ของเด็กหญิงมาฝากเธอไว้ที่นี่ก่อนจะสิ้นใจเพราะโรคประจำตัว
"คุณพ่อคิดอะไรอยู่คะ มีเรื่องอะไรดีๆ หรือเปล่าน้า..."
"มีสิ พ่อมีเรื่องที่ดีในชีวิตมากมายเลยตั้งแต่มีลูกเข้ามาน่ะ"
ตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้นีโอร่าก็เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน มีแต่ดูแลและเอาใจใส่คนแก่อย่างเขามากขึ้น ถึงจะย้ายออกไปแล้วก็ยังแวะเวียนโทรมาถามไถ่แทบทุกวัน จนบางครั้งเขาก็รู้สึกผิดและโทษตัวเองขึ้นมาเพราะดูแลลูกได้ไม่ดีพอ
"พ่อ...ขอโทษนะนีน" เสียงแหบทุ้มต่ำเอ่ยสั่นๆ คิดถึงเรื่องนี้ที่ไหนน้ำตาก็พานจะไหลลงมาทุกที
"ขอโทษอะไรกันคะ นีนต่างหากที่ต้องขอโทษคุณพ่อน่ะ เพราะนีนดูแลคุณพ่อไม่ดีเท่าที่ควรเลยป่วยแบบนี้ไงคะ"
"นี่เธอว่าฉันไม่ดูแลสามีของตัวเองงั้นหรอ" ฮันน่าเดินออกจากห้องครัวถือถาดผลไม้มาวางกระแทกโต๊ะตรงหน้า ปรายตามองหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจ
"ป..เปล่านะคะป้าฮันน่า นีนหมายถึงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนค่ะ" หญิงสาวก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา
เธอเองก็พอเข้าใจความเป็นไปมาตลอดตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ในช่วงแรกนั้นยอมรับว่ามีความสุขมากเพราะเหมือนเธอได้เจอโลกใบใหม่ที่มีทั้งความรักและความอบอุ่นให้มากกว่าอยู่สถานที่เลี้ยงเด็กที่เคยอยู่และในที่สุดเธอก็มีคนที่เรียกว่าพ่อกับแม่สักที แต่มันก็ได้แค่ช่วงเวลาไม่นานนักเมื่อป้าฮันน่าตั้งครรภ์หลังจากเธอมาอยู่กับพวกเขาได้แค่ 2 ปี หลังจากนั้นความอบอุ่นที่เธอเคยได้รับจากฮันน่าก็เปลี่ยนไป และด้วยภาระอะไรหลายๆ อย่างในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น เธอจึงตั้งใจสอบเข้าโรงเรียนประจำและได้ทุนเรียนฟรีตั้งแต่อายุ 15 ปี เธอย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำและได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำด้วยทุนเรียนฟรีด้วยเช่นกัน
"คุณก็ ลูกไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย" ชาร์ลีเอ่ยปรามขึ้นส่งผลให้ฮันน่าเดินออกไปอีกครั้ง
"คุณพ่อ ไม่เป็นไรค่ะ นีนเข้าใจ ว่าแต่ วันนี้วันอะไรน๊า วันเกิดคุณพ่อของนีนหรือเปล่าคะ" เสียงเล็กเอ่ยขึ้นพร้อมกับค่อยหยิบกล่องของขวัญในถุงกระดาษขึ้นมา
"ฮ่าฮ่า ลูกคนนี้" ชาร์ลีหัวเราะอารมณ์ดี นีนหยิบเสื้อโค๊ทตัวหนาออกมาทำท่าเทียบกับชาร์ลีที่ยังยิ้มกว้างไม่หยุด
"โอ้โห เข้ากับคุณพ่อม๊ากมากเลย สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณพ่อ" เธอยิ้มหวาน เอ่ยชมพ่อไม่หยุด
"มันก็แน่อยู่แล้วล่ะ คนหล่อๆ อย่างพ่อใส่อะไรก็ดูดีไปทุกอย่างจริงๆ ฮ่าฮ่า ขอบใจมากนะลูกนะ" ชาร์ลีรับเสื้อโค๊ทมาสวมใส่ก็พอดีกับรูปร่างเขาเป๊ะ
"เอ้อคุณพ่อคะ เมื่อวานนีนแข่งจัดดอกไม้ ได้รางวัลมาด้วยน๊า"
"จริงหรอลูก ลูกพ่อเก่งจริงๆ เลย"
"นีนให้พ่อค่ะ เป็นค่ารักษาพยาบาลสัปดาห์หน้านะคะ" หญิงสาวนำเงินสดจำนวน 3,000 ยูโร และเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่งใส่มือให้ชาร์ลี
"นีนลูก ให้พ่อมาอย่างนี้แล้วหนูพอใช้บ้างหรือเปล่า"
"แน่นอนสิคะ รับไว้เถอะนะคะ คุณพ่อก็รู้ว่าสัปดาห์หน้านีนพาคุณพ่อไปหาหมอไม่ได้ นะ นะคะ"
"นีน พ่อ..." ชาร์ลีถึงกับพูดอะไรไม่ออก ทุกครั้งเจ็บไข้ได้ป่วยเข้าโรงพยาบาลนีโอร่าก็ช่วยค่ารักษาตลอด เพราะลำพังเงินเดือนของเขาและฮันน่าก็แทบไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน
"หลังจากนี้ 3 ปีอาจจะไม่ได้กลับมาเยี่ยมคุณพ่อ รักษาสุขภาพดีๆ นะคะ นีนเป็นห่วง" มือเล็กกุมมือเหี่ยวของชาร์ลีไว้ สองพ่อลูกส่งยิ้มให้กันเบาๆ
"ขอบใจมากนะ ขอบใจลูกจริงๆ ไปอยู่ที่นู่นก็ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก พ่อจะรอหนูอยู่ที่บ้านนี่แหละ มาเมื่อไหร่ก็เจอพ่อเมื่อนั้นเลย ดีมั้ย"
"ดีค่ะ นีนรักพ่อที่สุดเลย" หญิงสาวโผเข้ากอดชาร์ลี น้ำตาเริ่มไหลรินทั้งเสียใจแล้วก็เสียใจในเวลาเดียวกัน
"พ่อก็รักนีนนะ ยังไงนีนก็เป็นลูกพ่อ หนูจำไว้นะ" ชาร์ลีลูบศีรษะลูกสาวไปมา เป็นจังหวะที่ลีอาร์ลูกชายเดินเข้ามาพอดี
เด็กหนุ่มอายุ 15 พึ่งเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นหมาดๆ ปรายตามองพ่อกับพี่สาวไม่แท้ ก่อนเดินขึ้นห้องของตัวเองโดยไม่มีการทักทายสักคำ เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูดังลั่น ชาร์ลีได้แต่ส่ายหัวไปมากับลูกชาย
หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยภายใต้บรรยากาศอึมครึมมีแค่เธอและชาร์ลีที่มีเสียงพูดคุยกันบ้าง ฮันน่าได้แต่นั่งเงียบ ส่วนลีอาร์กินอิ่มก็กลับเข้าห้องตัวเองเหมือนเดิม นีนเก็บกวาดโต๊ะอาหารล้างจานชามเสร็จสรรพก็ขอตัวกลับเพราะใกล้ถึงเวลาที่รถไฟจะออกแล้ว
ในตอนที่เธอปิดประตูหน้าบ้านออกมาก็ได้ยินเสียงชาร์ลีและฮันน่ามีปากเสียงกันทันที
"นีนก็เป็นลูกเรานะฮันน่า คุณช่วยใจดีกับเธอไม่ได้หรือหรอ อย่าใจร้ายกับเด็กไปหน่อยเลยน่า"
"แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนี่คะ ลูกเราจริงๆ คือตาลีอาร์นะคะ คนที่คุณต้องโฟกัสให้มากก็คือลีอาร์"
"แล้วผมต้องทิ้งนีนไปเลยหรือไง ตอนที่รับเธอมาคุณไม่ได้เป็นอย่างนี้นี่ฮันน่า คุณก็เคยรักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากผม"
"ก็เพราะตอนนั้นฉันไม่คัดค้านคุณไง ฉันถึงเสียใจมาจนถึงตอนนี้"
เธอดีใจมากเมื่อรู้ว่าตัวเองท้อง สามีจะได้กลับมาสนใจเธอเหมือนเดิมบ้าง ช่วงท้องมันก็ดีอยู่หรอก แต่หลังจากคลอดลีอาร์เขาก็สนใจนีโอร่าเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ควรจะใส่ใจกับลูกแท้ๆ ของตัวเองมากกว่า นั่นทำให้เธอนึกเสียใจมาตลอดที่รับนีโอร่าเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ตอนนั้น
"ผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะท้องเพราะเราพยายามกันมามากแค่ไหนคุณก็รู้ดี"
"ใช่ เราพยายามกันมามาก คุณก็ยิ่งต้องใส่ใจฉันกับลูกมาก มากกว่าเด็กนั่น เด็กที่เป็นลูกสาวของคนรักเก่าของคุณ"
"ฮันน่า เฮ้อ..."
ชาร์ลีถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า รู้ว่าพูดไปยังไงเธอก็ไม่เข้าใจเขาอยู่ดี ระหว่างเขากับแม่นีโอร่านั้นก็เป็นรักวัยรุ่นเท่านั้น เราจบกันเพราะเนร่าต้องย้ายบ้านตามครอบครัวไปเขาก็ไม่ได้พบเจอหรือได้ข่าวคราวของเธออีกเลย จนวันนั้นที่พบนีโอร่าที่สถานรับเลี้ยงเด็กถึงได้รู้ ซึ่งเรื่องนี้เขาก็บอกฮันน่าไปหลายครั้งแต่เหมือนเธอก็ยังไม่เข้าใจ
หญิงสาวเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง หลับตาข่มความรู้สึกไว้ด้านในแต่ก็ไม่วายที่น้ำตาจะร่วงหล่นมาอาบแก้มจนได้
เพราะที่ตรงนี้มันไม่ใช่ของเธอตั้งแต่แรก จึงต้องเดินออกมาตามทางของตัวเอง มือเล็กกระชับเสื้อโค๊ทเดินกอดตัวเองออกมาท่ามกลางหิมะโปรยปราย
ฝากให้กำลังใจน้องด้วยยย???