ลานยิงปืนหลังโกดัง
ลูกน้องคนสนิททั้งสามคนยืนเรียงกันอยู่หน้าลานเป้ายิงปืน
"ไอ้รามมึงคนแรก เข้าไปยืนเป็นเป้าให้กู" ที่เลือกไอ้รามคนแรกเพราะเขารู้ว่ามันปากแข็งสุด ไอ้นี่ไม่ว่าจะเอาอะไรมาง้างปากมันก็ไม่พูด
ร่างสูงใหญ่ของรามเดินตรงไปที่เป้ายิงปืนอย่างไม่เกรงกลัวสายตาที่มองเจ้านายเป็นสายตาของคนหยิ่งทะนงไม่กลัวตาย
"กูให้มึงเลือกว่าจะเอาอะไรมาวางบนหัวมึงดี ถ้ามึงตอบคำถามของกูไม่ได้กูจะยิงมึง"
มีให้เลือกทั้งหมดสามกล่องไม่มีใครรู้ว่าด้านในมีอะไร เขาตั้งใจทดสอบพวกมันไปในตัว
ร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ของรามเดินตรงมาหยิบกล่องที่เล็กที่สุด รู้ว่าทั้งรู้ว่าถ้ากล่องเล็กของข้างในก็จะเล็กไปด้วยแต่คนอย่างรามไม่เคยกลัวตาย
"ผมเลือกกล่องนี้" รามมองหน้าเจ้านายด้วยสายตาหยั่งเชิงเขาจะไม่ถามว่ามีเรื่องอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นบททดสอบจิตใจ เจ้านายเขามันก็ซาดิสม์ไม่ต่างจากเขาหรอก
"มึงนี่มันไม่กลัวตายจริงๆ" หยางซีหยิบของในกล่องออกมา "แอปเปิล" ใบหน้าหล่อยิ้มเหยียดๆ
คีกับเต็มเสียวหัวแทนเพื่อนเมื่อรามมันเอาแอปเปิลไปตั้งไว้บนหัวด้วยใบหน้านิ่งๆ มันโคตรจะไว้ใจเจ้านายเลย ถ้าพลาดมานะมึงหัวแบะ
ร่างสูงใหญ่ของหยางซีถอยหลังออกไปประมาณสามก้าว ยกกระบอกปืนขึ้นเล็งไปที่เป้าหมาย
"มึงใช่ไหม ที่เอาเรื่องของกูไปเล่าให้เมียกูฟัง" ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นหน้านิ่งหมด เหมือนกำลังหยุดหายใจ
"ตอบกูมา"
แกร็ก!หยางซีเตรียมลั่นไกล
"ผมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับนายมากี่รอบ คงไม่ต้องเล่านะครับ ถ้าเรื่องแค่นี้ผมเอาไปพูดก็ยิงผมเถอะครับ แต่ผมอยากให้นายรู้ไว้ว่าผมไม่มีวันทรยศนายท่าน" สีหน้าจริงจังของรามทำให้ทุกคนหวาดเสียวและลุ้นตาม ดูไม่ออกจริงๆ ว่าใคร
ปัง!!!
กระสุนพุ่งทะลุแอปเปิลไปอย่างน่าหวาดเสียว เคกับเต็มแทบเยี่ยวราดแต่รามยังคงยืนนิ่ง ใบหน้าหล่อเหยียดยิ้มมุมปากยังมีอารมณ์หยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมาจุดสูบท่าทางไม่ยี่หระ
"มึงนี่มันไม่เคยกลัวตายเลยจริงๆ ไอ้เต็มมา" หยางซีหันไปเรียกลูกน้องอีกคน
เต็มดูสั่นอย่างเห็นได้ชัด ที่สั่นเพราะลุ้นว่าในกล่องที่เลือกจะได้อะไร กล่องใหญ่ขนาดนี้ขอให้เป็นแตงโม เขาไม่ได้กลัวตายแค่ไม่ชอบเล่นอะไรแบบนี้มันเสียว
"ผมเลือกกล่องเขียวครับ" ไอ้เหี้ยลุ้น เต็มทำหน้าเหมือนจะตายให้ได้ลุ้นตอนเจ้านายหยิบออกมา
"สับปะรด" หยางซีเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหน้าลูกน้องดูโล่งใจ แต่มันอย่าเพิ่งไว้ใจ ใหญ่ใช่ว่าเขาจะยิงแม่นเกิดพลาดมาสมองกระจุยแน่มึง
เต็มซูดปากด้วยความโล่งใจ เจ้านายเขาแม่งเถื่อนเล่นเหี้ยไรวะเนี่ย ได้แต่ด่าในใจหวังว่าจะไม่มีใครได้ยินเอาไปฟ้องนาย ไม่งั้นเขาตาย
"เมื่อคืนก่อน ที่กูไปดื่มกับเพื่อนที่ภูวดิน มึงออกไปไหน" เขารู้เขาเห็นหมดแต่ไม่พูด เขายอมรับว่าสงสัยมันมากที่สุดเพราะมันหายหัวบ่อย ภูวดินคือคฤหาสน์หรูของเพื่อนสนิทเขา พวกเขาจะเข้าไปคุยธุรกิจกันที่นั่นและนั่งดื่มกับเล็กน้อยเรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำหรับรื่นเริง
"เมื่อคืนก่อนผมท้องเสียครับ วิ่งเข้าห้องน้ำทั้งวัน ถ้านายไม่เชื่อถามไอ้รามได้เลยครับ" เต็มหันไปหาเพื่อน
"กูไม่รู้" คนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่พูดสวนขึ้น
อ่าวไอ้เพื่อนเวร เล่นกูแล้ว
ปัง!!!
กระสุนเฉียดหัวของเต็มไปเพียงนิดเดียว ร่างสูงแทบล้มทั้งยืนยังไม่ทันตั้งตัวเลย เจ้านายแม่งเถื่อน ใจเขาหายวาบนึกว่าตายไปแล้วจริงๆ
"ไอ้คี มึงคนสุดท้าย" ที่ให้มันเป็นคนสุดท้ายเพราะมันขี้กลัวสุด เขารู้จักนิสัยลูกน้องทุกคนดี เขาไม่คิดว่าเป็นคีเพราะมันกลัวเขามากที่สุดแต่ก็ไม่ได้ไว้ใจ "ของมึงไม่ต้องเลือก เหลือกล่องสุดท้าย"
คีเดินตรงเข้ามาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มนิดๆ ดีใจที่ได้กล่องใหญ่ข้างในไม่แตงโมก็ส้มโอแหละวะ รอดแล้วกู มือเขาสั่นมากในขณะที่หยิบกล่องไปให้เจ้านายเปิดดู เห็นหน้าเจ้านายแล้วโคตรลุ้นเลย ได้อะไรวะเนี่ยทำไมเจ้านายเขาขมวดคิ้ว
"องุ่นหนึ่งลูก"หยางซีพยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์ เขาไม่ได้จัดหามาเลยไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง
"เหี้ยย!! ขะขอโทษครับนาย ผะผมขอไม่ทำได้ไหมครับ" หน้าของคีซีดยิ่งกว่าไก่ต้ม มันไม่มีเลือดไปเลี้ยงเลย ใครเป็นคนจัดวะเดี๋ยวกูจัดคืนแม่ง คิดได้ไงเอาองุ่นมา ตายกูตาย
"ไม่ได้! ไปยืน" สมน้ำหน้ามันยิ่งกลัวยิ่งได้อันเล็กมึง สมควร
"นะนายท่านครับ ผมสัญญาว่าผมจะจงรักภักดีต่อนายท่านแค่คนเดียว อย่าฆ่าผมเลยนะครับ" มันไม่ใช่คำสารภาพแต่มันคือคำขอ เขายังไม่อยากตาย ต่อให้เก่งแค่ไหนใครมันจะไปยิงโดนวะ องุ่นเม็ดเท่าลูกตา ไอ้รามมันก็ไม่หยิบอันนี้
"กูไม่ได้จะฆ่ามึง ไปยืนแล้วเอาองุ่นวางไว้บนหัว"
"นายท่านครับผมขอ ผมรู้สึกปวดฉี" เหมือนเยี่ยวจะราดเลย ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม
"ถ้ามึงไม่ยืนนิ่งๆ มึงอาจได้ตายจริงๆ" หยางซีเล็งปลายกระบอกปืนไปที่เป้า คนที่ยืนอยู่ก็เซซ้ายเซขวา ยืนยังไม่ตรงใครมันจะไปยิงถูกวะยิ่งเล็กๆ อยู่
"มึงไม่ได้เอาเรื่องของกูไปฟ้องเมียกูใช่ไหม"
"มะไม่ครับ ผมไม่เคย"
ปัง!!!
กระสุนปักเข้าองุ่นเม็ดเล็กได้อย่างแม่นยำ
กรี๊ดดด คีร้องกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัวเยี่ยวแทบเล็ด
"เทียน่า" มือที่กำลังจะกดยิงหยุดค้างไว้ด้วยความตกใจ กระสุนลูกเมื่อกี้ไม่ใช่ของเขา และเขาคิดว่าจะยิงไปด้านหลังเพราะไม่มั่นใจฝีมือตัวเอง มันเล็กเกินไปคิดว่ายังไงก็ยิงพลาด แต่เมียเขาแม่งไม่พลาด เสียววาบเลยกู
"เฮียเล่นอะไรแต่เช้าเนี่ย เทียไม่โอเคนะ ดูสิพี่เคกลัวไปหมดแล้ว" ร่างบางเดินออกมาจากมุมกระจกวางปืนไว้ที่เดิม เทียน่าคงไม่รู้ว่าเขาไม่ได้คิดจะยิงจริงๆ แต่เธอกลับยิงเอง การที่เธอยิงปืนได้อย่างแม่นยำแม้จะยืนอยู่ไกลออกไปทำให้มาเฟียหนุ่มถึงกับหน้าซีด มีคำในหัวผุดขึ้นมามากมาย
"เทียมาที่นี่ทำไม รู้ใช่ไหมว่าตรงนี้มาไม่ได้" เขามีพื้นที่ยิงปืนไว้ให้เธอโดยเฉพาะ ตรงนี้มันเป็นพื้นที่อันตรายถึงเธอจะเก่งมากก็ตามแต่เขาก็ไม่ไว้ใจใคร
"รู้ค่ะ แต่เทียมาตามเฮียไปกินข้าว เร็วๆ นะคะเทียหิวแล้ว" เทียน่ามองหน้าเฮียหยางด้วยใบหน้าเชิดนิดๆ อาการนี้ยังไม่หายงอนเขาแน่ๆ รอบนี้คงต้องมีแผนสำรอง
"ครับ เดี๋ยวเฮียตามไป" หยางซีหันมาหาลูกน้องพูดคุยด้วยไม่กี่คำจากนั้นเขาก็เดินตามภรรยาไป กลัวจะตามไม่ทันก็วิ่ง
สวนดอกไม้ทางเดินลัดเลาะด้านหลัง
"เมียจ๋ายังไม่หายงอนเฮียอีกเหรอคะ เฮียขอโทษคืนดีกันนะครับ" ร่างสูงเดินเข้าไปสวมกอดภรรยาจากทางด้านหลังแต่เธอหลบทันจึงกอดได้เพียงอากาศ
ฟืบ
"เมียจ๋าใจร้ายจัง เฮียจะขาดใจตายอยู่แล้วนะครับ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ เช้ามารู้สึกปวดหัวมาก สมองมันเบลอไปหมดในหัวมีแต่หน้าเมีย"
"ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย เดินเร็วๆ ค่ะ เทียหิวข้าวแล้ว" เธอเองก็ต้องใจแข็งปกติใจอ่อนตลอด แค่เฮียพูดอ้อนเธอก็ยอมอ่อนให้แต่ครั้งนี้มันต้องมีบทลงโทษกันหน่อย ลงโทษแบบเดิมเฮียคงเบื่อแล้วคืนนี้ต้องลงโทษแบบใหม่ ได้ขาดใจตายจริงๆ แน่
555สรุปก็ไม่รู้ว่าใคร คือลูกน้องทรยศ สงสารเคเลย ได้องุ่นเกือบตาย555
แล้วบทลงโทษแบบใหม่ของเทียน่าจะเป็นยังไง55 ได้นอน..แข็งตายแน่อิเฮีย ถ้ายังไม่เปลี่ยนนิสัย