ย้ายบ้าน

1041 คำ
Jennie Talk "พ่ออยากให้ลูกไปอยู่บ้านเพื่อนพ่อสักพัก" ฉันเงยหน้าจากจานข้าวและมองหน้าพ่อ ฉันเข้าใจในเหตุผลของพ่อนะแต่ก็ใช่ว่าจะเต็มใจทำตามความต้องการของท่าน ในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาหนีปัญหา พ่อเป็นห่วงฉันพอๆกับที่ฉันเป็นห่วงพ่อและแม่ ฉันไม่อยากนั่งหลบและรอให้คนอื่นมาคอยปกป้อง "ไม่ไปได้มั๊ยคะ?" "พ่อเป็นห่วง" "แต่หนูทิ้งพ่อกับแม่ไม่ได้" ฉันเถียงด้วยเหตุผลของตัวเอง ถึงจะแอบหวั่นว่าฮอร์สจะทำอะไรบ้าๆอีก แต่ฉันคงปล่อยให้พ่อกับแม่เผชิญปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ "พ่อกับแม่จะไปอยู่ที่อื่นสักพัก" "ที่ไหนคะ?" ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัย แม่รักและติดบ้านหลังนี้มาก ฉันคิดไม่ออกเลยว่าแม่จะยอมไปอยู่ที่อื่นกับพ่อได้ยังไง "พ่อจะพาแม่ไปพักผ่อนริมทะเล" "นานแค่ไหนคะ?" "จนกว่าแม่จะสบายใจ" เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้แม่ใจเสียมากพอสมควร แม่ซึมเศร้าไปหลายวัน เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องและดูเคร่งเครียดมาก ยิ่งเห็นสภาพเเม่เป็นแบบนั้นฉันก็ยิ่งโกรธและเกลียดไอ้ฮอร์สจนอยากจะฆ่ามันให้สาสมกับสิ่งที่มันทำ ...ฉันไม่ใช่คนดีที่จะให้อภัยได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะให้อภัยคนเลวๆแบบไอ้ฮอร์ส ฉันคงทำให้ไม่ได้ "แล้วเพื่อนที่พ่อว่า..." "เพื่อนสมัยประถมพ่อเอง ไว้ใจได้" ฉันพยักหน้าแม้ในใจจะยังไม่มั่นใจในตัวเพื่อนพ่อที่ฉันจะต้องไปอยู่ด้วย ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หน้าตาแบบไหน ทำงานอะไร นิสัยใจคอเป็นยังไงแล้วที่บ้านเขามีใครบ้าง ฉันไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากมีเรื่องเข้ามาจุกจิกใจอีก "ขอลองคิดดูสักพัก" "พ่ออยากให้ลูกตอบตกลงมากกว่าปฏิเสธ" เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของพ่อแล้วฉันก็ปฏิเสธไม่ลงได้แต่นิ่งคิดไปสักพักก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า "เพื่อนพ่อคนนี้ไว้ใจได้ลูกไม่ต้องเป็นห่วง" พ่อวางมือลงบนไหล่ฉันและเอ่ยขึ้นคล้ายกับรู้ว่าฉันกำลังเป็นกังวล มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอที่คนเราเมื่อต้องออกไปอยู่ที่อื่นก็ต้องคิดมากกันทั้งนั้น ยิ่งบ้านที่ไม่ใช่บ้านของเราแล้วก็ไม่รู้ว่าจะปรับตัวได้ยังไงเหมือนกัน ...หวังว่าเพื่อนพ่อจะใจดีกับฉัน เราหวังว่าคนที่นั่นจะต้อนรับฉันเช่นกัน ไม่งั้นฉันคงอึดอัดใจแย่ เสื้อผ้าของฉันถูกเก็บใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่และถูกนำลงมาวางกลางโถงบ้านเพื่อรอคนจากบ้านเพื่อนพ่อมารับ ฉันนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆมีแม่ที่นั่งอยู่ด้วย ท่านชำเลืองมองฉันเป็นระยะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล "ลูกอดทนหน่อยนะ" แม่เอ่ยเสียงสั่นเครือพร้อมกับกุมมือฉันแน่น "หนูโอเคค่ะ แม่ไม่ต้องกังวลนะ" ทั้งที่ในใจไม่รู้สึกโอเคเลยสักนิดแต่ฉันก็ต้องบอกแม่ไปแบบนั้นเพื่อให้ท่านสบายใจมากที่สุด แม่ฝืนยิ้มทั้งน้ำตาก่อนที่เสียงรถจะดังขึ้นหน้าบ้าน "มากันแล้วมั้ง" แม่ว่างั้นพร้อมกับชะโงกหน้าออกไปดู ฉันลากกระเป๋ามาหน้าบ้านก่อนจะเห็นรถคันคุ้นตาจอดอยู่ตรงหน้าตัวเอง "เปอร์" ในใจที่หนักอึ้งเบาลงไปมากเมื่อเห็นว่าคนที่ฉันต้องไปอยู่ด้วยเป็นใคร ตอนแรกฉันเป็นกังวลแทบตาย ถ้ารู้ว่าเป็นครอบครัวเปอร์ที่ฉันต้องไปอยู่ด้วยคงไม่รู้สึกเครียดแบบนี้ ฉันมองคนตัวสูงที่ยกกระเป๋าขึ้นเก็บหลังรถ เขาถอดแว่นตาสีดำออกก่อนจะยกมือไหว้แม่ฉัน ส่วนพ่อกำลังคุยกับพ่อของเปอร์อีกด้านหนึ่งของบ้าน "ฝากด้วยนะเปอร์" "ครับแม่" ในใจฉันรู้สึกพองโตที่ได้ยินสรรพนามที่เขาเรียกแม่ของฉันอย่างสนิทสนม อาจเพราะยังหวั่นไหวอยู่มั้ง ไม่ว่าเปอร์จะทำอะไรก็ดึงดูดความสนใจฉันไปได้หมดนั่นแหละ "ขึ้นรถก่อน" ฉันขึ้นมานั่งบนรถกับเปอร์ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่วนฉันก็นั่งมองเขาอีกทีพร้อมกับเผลอยิ้มออกไปโดยไม่รู้ตัวท เมื่อวานฉันยังรู้สึกแย่อยู่เลยแต่ทันทีที่เห็นหน้าเขาความรู้สึกแย่ๆเหล่านั้นมันก็หายไปในพริบตา เปอร์เป็นคนที่ฉันสนิทสนมและไว้ใจมาก ขอแค่มีเขาอยู่ข้างๆไม่ว่าจะต้องเจออะไรฉันก็ไม่หวั่นเพราะฉันเชื่อว่าเขาจะปกป้องฉันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ...ความรู้สึกในใจของฉันมันบอกแบบนั้น มันเหมือนกับว่าฉันคิดไปเองแต่ฉันกลับรู้สึกแบบนั้นจริงๆ "หายเครียดยัง?" เข้าละสายตาจากจอโทรศัพท์ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น "ก็หายแล้ว" "พ่อเล่าให้ฟังว่าเธอเครียดมาก" "ก็นิดนึง" "ไม่นิดหรอก" ฉันหลับตาลงเมื่อเปอร์โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนที่นิ้วมือของเขาจะแตะลงระหว่างคิ้วฉัน "หน้ายับเป็นกระดาษแบบนี้ยังบอกว่าไม่เครียดอีก" "ตอนแรกก็เครียดนั่นแหละ แต่พอเจอหน้านายมันก็หาย" เขาเลิกคิ้วก่อนกระตุกยิ้มเล็กน้อย ฉันเผลอยกมือทาบลงบนอกข้างซ้ายโดยไม่รู้ตัวเพราะการกระทำของเขาที่ส่งผลต่อใจอย่างรุนแรง ...อีตาบ้า! "ไอ้ฮอร์สมันยังมาระรานเธออยู่หรือเปล่า?" "ไม่นะ" หลังจากเกิดเรื่องวันนั้นฮอร์สก็เงียบๆหายไปไม่ได้มาระรานอะไรฉันอีก แต่นั่นแหละ คนแบบมันจะไว้ใจอะไรได้ ยังไงซะฉันก็ต้องระวังตัวอยู่ดี ...ประมาทคนแบบฮอร์สไม่ได้หรอก คนชั่วๆแบบมันทำได้ทุกอย่างเพื่อสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม