เซโร่ยืนเต็มความสูงอยู่ที่ระเบียง เขายืนมองไปยังเมืองเบื้องหน้า ภายในมือถือบรั่นดีที่หมักมากว่า500ปีในแก้วคริสทัลทรงสวย ผมสีดำขลับยาวละดวงหน้าพัดปลิวตามแรงลม
เซโร่นึกถึงวันที่เจ้าเด็กหนุ่มนั้นเติมเต็มเขาจนเต็มอิ่ม ร่างบางรีบฉวยเอาเสื้อผ้าไปใส่แล้ววิ่งเซๆ ออกไปจนสุดฝีเท้าทั้งที่มีน้ำกามไหลยืดออกมาจากช่องทางด้านหลังเป็นสาย
รีบจนลืมหยิบเอารองวัลที่เขาให้ไปด้วย หนำซ้ำชั้นในก็ไม่ใส่ หึ มุมปากสวยกระตุกยิ้ม
ก็ไม่จำเป็นที่เขาจะใส่ใจ แต่เจ้าเด็กนั่นยังกวนใจเขาอยู่ไม่เลิก อยากจะลากตัวมาขยี้ซะให้เละ!!! อีกครา....
.
.
เช้าวันต่อมามีพัสดุมาส่งที่บ้านไม้หลังเล็ก ในกล่องจ่าหน้าด้วยลายมือหวัดๆ ว่า 'ของรางวัลของเจ้า นารา'
ภายในมีถุงใส่ทองจำนวนหนึ่ง ซึ่งแค่ทองเหรียญเดียวนานๆ ทีที่บ้านถึงจะมีโอกาสได้เห็น แต่เรื่องนี้จะโทษพ่อแม่ก็ไม่ได้ นั่นเป็นเพราะเรามีกันหลายคน การหาเงินมาเลี้ยงลูกๆทั้งหมดได้ก็ถือว่าเก่งสุดยอดแล้ว
และด้วยความที่จ่าหน้ากล่องว่าเป็นของรางวัล นาราจึงถูกบังคับให้เปิดมันต่อหน้าทุกคน
"ทอง!!!!!! "ทุกคนร้องขึ้นด้วยความตกใจพร้อมกัน
.
.
ผมถูกบังคับให้บอกที่มาของทองจำนวนหลายเหรียญนั่นจากพ่อแม่และชาลีนกับจาเรต พี่ๆ ทั้งสองของผม
"ถ้าแกไม่บอกความจริงแกตายแน่"จาเรต อสูรไฟที่มีนิสัยเลือดร้อนบอก
"ก็ผมยกทองให้แล้วไง พี่จะอะไรกับผมอีก" นาราว่าเถียง
"ไม่ นี่ไม่ใช่ของแกแต่แรก" จาเรตวาดยิ้มร้าย
"แล้วจะเอายังไงกับผม ในเมื่อพี่ก็ได้ทองไปแล้ว" นาราที่โดนรุมทึ่งทำตาปริบๆ เหมือนจะร้องไห้
"บอกมาว่าใครส่งมา"ชาลีนถามขึ้นบ้าง
"....."นาราหันไปมองหน้าพ่อแม่ ที่ส่งสายตาคาดคั้นไม่ได้ต่างจากพี่ๆ ทั้งสองเลย นี่อดคิดไม่ได้เลยครับว่าผมเป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยงหรือเปล่า
"ฉันจะอดทนกับมันไม่ได้แล้วนะ” จาเรตกัดกรามแน่นพร้อมทุบกำปั้นที่ฝ่ามือตัวเองรัวๆเป็นการข่มขู่
"ที่นั่น...มันอันตรายมาก เขา...."นารายอมเล่า
"เขา? แกไปเสนอตัวรับให้พวกลอร์ดมาเรอะ"ชาลีนถาม
"เปล่านะ เขาจับผมไป"
"ที่ไหน? เขาต้องการคนไปรับใช้อีกไหม? " จาเรตตาลุกวาว แค่นอนกับเขาแล้วได้เงินมากมายขนาดนี้ ยังไงก็คุ้ม
"ผมบอกแล้วไงว่ามันอันตราย พี่อย่าไปเลย"นาราวิงวอน
"เอะ ไอ้นี่ แกอย่ามาหวงไว้หน่อยเลย บอกมาเร็ว!! "
"เชื่อผมสิ พวกพี่ตายแน่"
"หึ ตายหรอ? ถ้าแกยังไม่เป็นอะไร คิดว่าพวกฉันจะเป็นหรอ อย่ามาพูดให้ตลกหน่อยเลยน่า"จาเรตยิ้นหยัน
"แม่"นาราหันไปพึ่งแม่ ถึงเขาจะไม่ชอบขี้หน้าพี่ๆ แต่ก็ไม่ได้เกลียดจนอยากให้ตาย
"บอกมาสินารา แกไปที่ไหนมา”แม่ว่าเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความน่ากลัว
แม่ก็เป็นไปด้วยหรอ!?
"ผมบอกแล้วไงว่ามันอันตราย เขา..ตัวใหญ่มาก มากกว่าอสูรตนไหนที่ผมเคยเจอ"นาราทำตาโตเมื่อนึกถึงเขา
"เหอะ ดูมันสิแม่ มันคิดจะกั๊กไว้คนเดียว"จาเรตยั่วยุ ยังไงก็ต้องบีบให้น้องคายความลับของทองออกมาให้จงได้
"แม่ก็รู้ ว่าผมไม่เคยโกหก ถ้าแม่ไม่อยากให้พวกพี่ตาย.."นาราน้ำตาซึม โถ่เอ๊ย ฟังกันบ้างสิ
แม่มองช่างใจ
"แค่บอกว่าอันตราย มันยังน้ำหนักไม่มากพอหรอกนะ" แม่ว่า นี่ผมต้องเล่าเรื่องน่าอายนั่นอย่างละเอียดให้ที่บ้านฟังหรอครับ ฝันร้ายชัดๆ
"เขา ไม่เหมือนอสูรตนอื่น เขาตัวใหญ่ แข็งแรง และโหดร้าย..." นาราคิดถึงตอนโดนเขากระทำ ทั้งจับแทงจนยับอย่างกับว่านาราเป็นแค่ของเล่น
"ของๆ เขา.... ยาวจนทะลุมาถึงคอหอย"นาราว่าเสียงแผ่ว
"ห๊า แกว่าอะไรนะ!! "ชาลีนไม่เชื่อหู
"ถึงคอ? ตอแหลล่ะ แล้วทำไมแกยังไม่ตาย"จาเรตว่า
"นั่นสิ! "ชาลีมเห็นด้วย
"ผมก็ไม่รู้ นี่อาจจะเป็นความพิเศษของผมก็ได้ ผมก็เป็นอสูรนะ" นาราเถียงสู้ ในที่สุดก็ค้นพบความสามารถตัวเองเสียที ที่แท้ก็อยู่ข้างใน แต่มันน่าภูมิใจไหมหึ เศร้า!!
"ผมพูดจริงๆ นะแม่ เชื่อผมเถอะ"
"แล้วที่ที่เขาพาแกไป..? "แม่ถาม
"ที่ปราสาทของเขา"
"ปราสาทเลยหรอ!! "จาเรตพูดแทรกตาโต
"ใช่ ใหญ่มาก"
"คงรวยน่าดู ฉันจะไปที่นั่น!!”จาเรตบอกตาลุกวาว
พ่อแม่มองหน้ากัน
"อสูรพันธุ์ใหม่หรือ ถึงยาวได้ขนาดนั้น"พ่อว่า
"คงเป็นพวกอสูรโบราณ"แม่บอกถึงความน่าจะเป็น
"จะ จอมอสูรน่ะหรอ? "คราวนี้พี่ทั้งสองทำตาโตกว่าเรื่องปราสาทอีก
"ไม่จริง อย่างไอ้นาราไม่มีวาสนาถึงขนาดนั้นหรอก"จาเรตพูดอย่างอิจฉา
หึ๊ย!!!
"พาฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากเจอพวกเลือดบริสุทธิ์"จาเรตตรงเข้ามาบีบแขนทั้งสองข้างของนาราแล้วเขย่าแรงๆ
"ใครล่ะจะอยากกลับไปสู่ความตาย ผมไม่เอาด้วยหรอก พี่ต้องการหรอ มีเงินแต่ไม่ได้ใช้ ผมบอกทุกอย่างไปหมดแล้ว พอทีเถอะ ปล่อยผม!! " นาราปี๊ดแตกครั้งแรกในชีวิต นี่ไม่เข้าใจกันเลยหรือไง มองไม่เห็นความตายกันหรอกหรอ
"ไอ้นารา!!! " จาเรตโกรธน้องที่ไม่กล้าแข็งข้อกับเขามาก่อนจนกลายร่างเป็นอสูรไฟ ร่างของจาเรตคลายวัวตัวสีดำ มีควันพวยพุ่งออกจากจมูก ช่างเป็นร่างอสูรที่สมกับความเป็นคนขี้โมโหของเขาจริงๆ
“แค่แกหาเงินมาได้ ใช่ว่าจะสูงส่งกว่าข้า ไอ้คนอ่อนแอ!!!”
จาเรตจะเข้ามาทำร้ายนารา แต่โดนพ่อจับเหวี่ยงทะลุกำแพงบ้านเพื่อแยกลูกๆออกจากกันเสียก่อน
แม่ที่ขี้หงุดหงิดไม่ได้อาละวาดที่กำแพงบ้านพัง เธอกำถุงทองแล้วแยกตัวไปจากวง จาเรตมองนาราคาดโทษก่อนจะรีบวิ่งตามชาลีนที่ตามแม่ไปก่อนหน้าแล้ว
.
.
แม่เอาเงินครึ่งหนึ่งมาปรับปรุงบ้านให้หนาแน่นและน่าอยู่ขึ้น นาราดี้ด๊าขอทำห้องใหม่และซื้ออุปกรณ์การเรียนเพิ่มอีกนิดหน่อย ซึ่งแม่ก็ยอม
ผ่านไป10วันแล้วที่ผมเสียตัวคราวนั้น ชีวิตผมก็กลับสู่สภาวะปกติเหมือนเช่นที่เคย และเหมือนจะเป็นโชคดีในโชคร้าย. เพราะพวกพี่อีก2คน ย้ายออกจากบ้านกระจายไปอยู่ตามเมืองข้างเคียงเพื่อตั้งหลักทำงานแล้ว ด้วยเงินก้อนหนึ่งที่แม่แบ่งให้
อันที่จริงผมก็อยากออกไปเหมือนกัน. แต่ติดตรงที่ผมยังเรียนอยู่เนี่ยสิ
ผมสนิทกับเซนชินและเราเริ่มเปิดใจยอมรับซึ่งกันและกันมากขึ้น จนตอนนี้สามารถพูดคุยกันได้แทบทุกเรื่อง
"เมื่อกี้เราคลอหาทำไมไม่รับ"นาราว่าเพื่อน
"โทษที พอดีมีคนน่ารักมาชวนสมสู่น่ะ"เซนชินบอก
"หน้าตาเป็นแบบไหน" นารารีบถาม เพราะอะไรผมถึงต้องคอยระแวงว่าจะเป็นเขาคนนั้นอยู่เรื่อยเลยนะ
"ก็ตัวโตๆ กล้ามใหญ่ๆ ไอ้นั่นก็ใหญ่"
"เขาเป็นตัวอะไร"
"อืมมม ไม่รู้สิ เขาอยู่ในร่างมนุษย์"
"มีเขาหรือมีปีกมั้ย"
"มีเคี้ยว"
"....."นาราลุ้นใจสั่น
"ผมสีทอง"
เฮ้ย นาราถอนใจโล่งอก ค่อยยังชั่ว คนที่ทำผมเขาผมสีดำ นารารู้สึกโล่งใจ
ไม่ใช่ผมคิดถึงเขานะครับ แต่บางทีก็ไม่อยากให้ซ้ำกับเพื่อนไง
"แล้วเป็นไง ทำที่ไหน"
"ทำหน้าร้านสะดวกซื้อนี่ล่ะ ก็มันส์อยู่ อิอิ"เซนชินว่า
"ร้ายอ่า"
นาราเม้าส์มอยกับเซนชินอย่างสนุกปาก ชีวิตวัยรุ่นมันต้องอย่างนี่สิถึงจะใช่
หลังจากที่ได้คุยกันอยู่นานสองนาน สองเพื่อนซี้ก็แยกย้ายกันไปนอน
พอพวกพี่ไม่อยู่แล้ว ผมก็รู้สึกมีอิสระมากขึ้น ไม่ต้องแชร์ห้องไม่ต้องคอยโดนพี่ๆ โขกสับและทำเหมือนผมเป็นทาส
นาราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมตัวเราที่โดนขนาดนั้นถึงยังไม่ตาย แล้วความใหญ่ยาวของอวัยวะเพศของอสูรมันยาวได้ขนาดนั้นเลยหรอ
นาราเสิร์จหาข้อมูลในเน็ต
ไม่มี ไม่มีอะ!!
ที่ว่าใหญ่ของร่างอสูรก็ไม่ขนาดนั้นมั้ย หรือเขาจะเป็นเอเลี่ยน พวกต่างดาวที่เคยมีในความเชื่อของมนุษย์โลกยุคโบราณ หรืออาจจะเป็นจำพวกที่หายากอย่างเรา เฮ่อ...ช่างเถอะ
นาราล้มตัวลงนอนกอดตัวเอง เขาเอาแต่คิดเรื่องผู้ชายคนนั้นทั้งที่ไม่อยากนึกถึงเลยด้วยซ้ำ เอามันออกไปจากหัวผมที...
ผมมวนท้องทุกครั้งที่คิดถึงเขา เหมือนข้างในมันปั่นป่วนไปหมด ไม่สบายตัวเลยจริงๆ
.
.
"นี่นารา นายเคยไปที่โลกอสูรไหม" เซนชินหันมาคุยเพราะเบื่อจะฟังเรื่องที่มาสเตอร์กำลังบรรยาย
"แค่ประตูยังไม่เคยไปเฉียด" นาราบอก
ใช่ครับ เมื่อพันกว่าปีก่อน ประตูสู่โลกอสูรได้เปิดออกหลายแห่งทั่วโลก ช่วงนั้นผู้คนคงแตกตื่นกันมาก ตอนนี้ที่นั่นมีการตรวจสอบเข้มงวดเรื่องการเข้าออก ผมไม่เคยข้ามไปแดนอื่นเลย ก็ด้วยหลายๆ เหตุผล และที่นั่นก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ นอกจากซากปรักหักพังของเมืองเก่า ความร้อน พวกดุร้ายและความแร้นแค้น
ก็ใครล่ะจะอยากห่างจากสัญญาณอินเทอร์เน็ต จริงไหม
"งั้นหรอ สุดสัปดาห์นี้ฉันจะไปทางใต้กับครอบครัวน่ะ "เซนชินบอก
"ดีจัง ถ่ายรูปมาดูด้วยนะ"
"ว่าจะชวน"
"นายก็รู้เราไม่มีความสามารถอะไร จะทำให้นายยุ่งเปล่าๆ " คนอย่างผมคงเป็นได้แค่หนอนไร้ค่าในทุ่งสังหาร ขืนออกไปไกลบ้านมีแต่จะตายกับตาย ผมรู้ว่าชีวิตนี้ช่างน่าอดสู แต่ก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปนะครับ
"แต่ที่นั่นค่อนข้างปลอดภัยนะ ไปไหม ฉันขอพ่อแม่แล้ว"เซนชินยังคงพยายามกล่อม
นาราฟังแล้วก็ตื่นเต้น เกิดมาผมยังไม่เคยไปไหนไกลบ้านเลยสักครั้ง ก็น่าสนใจอยู่นะ จะไปดีไหมอะ นาราคิดหนัก
"อืมงั้นเราจะลองไปขอแม่ดู" นาราบอกกลางๆ เพราะยังตัดสินใจไม่ได้
"เยี่ยมเลย" เซนชินดีใจเพราะมีความหวังจะได้มีเพื่อนในวัยเดียวกันไปร่วมทริป