2

988 คำ
ปาลิตากะพริบตาตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุก หล่อนเห็นใบหน้าคมเข้มที่อยู่ใกล้แค่ลมหายใจเท่านั้น แอบอมยิ้มบางๆ บนริมฝีปาก ถึงจะปากร้ายยังไง เขาก็ยังใจดีกับหล่อนเสมอ ดวงตาคมคายหลับพริ้ม น่าหลงใหล เขาก็น่ามองแค่ตอนหลับเท่านี้แหละ หล่อนยิ้มกว้างมีความสุขรับเช้าวันใหม่ ก่อนจะแอบขโมยจูบคนใจร้ายไปหลายครั้ง ใช้อาบน้ำแต่งตัวราวหนึ่งชั่วโมงก็ลากกระเป๋าออกจากคอนโดทันที ออกไปโดยไม่ลังเลเลยสักนิดและไม่จำเป็นต้องบอกเขาด้วย ลิฟต์ความเร็วสูงพาร่างกายและหัวใจของหล่อนจมดิ่งลงมาข้างล่าง การตัดสินใจกลับเชียงรายในครั้งนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด แต่มันคงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ ก่อนหล่อนจะไม่มีหน้ากลับไปพบใครได้อีก ขอแค่สองสามเดือนเท่านั้น ขอให้หล่อนได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างสงบสุข อย่าได้มีใครมารังแกคนอ่อนแอเช่นหล่อนเลย “ปริม!” อารยา สาวสวยลุกจากโซฟาชูมือเรียกเพื่อนสาว “อาย สวัสดีตอนเช้าจ้ะ รอนานหรือยัง” “ไม่นานจ้ะ นั่งปุ๊บปริมก็มาถึงปั๊บเลย” “ขอบใจที่อุตส่าห์มารับนะ” “ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยังไงก็เป็นทางผ่านบ้านอาย” “ทางผ่านไกลจังเนอะ ได้ยูเทิร์นกลับมาตั้งหลายกิโลเมตร” หัวเราะแห้งๆ ด้วยความเกรงใจ และชื่นชมในความใจดีของเพื่อน “เอาน่า คิดอะไรมากมาย เราไปกันเถอะ” อารยาส่งยิ้มสดใสมาให้ หนุ่มๆ เพิ่งออกจากฟิตเนสกลุ่มใหญ่เดินผ่านมาต่างชะเง้อคอมองกันเป็นแถบ ปาลิตาบังเอิญแฉลบสายตาไปเห็นพอดี ก็ยิ่งดีใจที่ตัวเองโชคดี ที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้รวมถึงสามีของเจ้าหล่อน ภีมพล สามีของอารยาเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อ เจ้าของโรงแรมห้าดาวหลายแห่งในประเทศไทย ได้เจอครั้งแรกอารยาแนะนำให้รู้จัก ปาลิตาอึ้งไปเลยเพราะเคยคาดเดาเอาไว้ว่าเขาจะต้องเป็นนักธุรกิจแก่ ก็อารยาบอกว่าอายุห่างกันเป็นสิบกว่าปีนี่นา ที่ไหนได้ หล่อมาก หนุ่มมาก แถมฐานะทางบ้าน หน้าที่การงานก็อยู่ในระดับที่น่าทึ่งอีก เพื่อนคนนี้น่ารัก เก่ง ใจดี เหมาะสมแล้วแหละที่ได้คนเพอร์เฟ็ค แถมยังรักจริงแบบภีมพลไปเป็นสามี ปาลิตาปลื้มสองคนนี้มาก “โอเคจ้ะ” ปาลิตายิ้มกว้าง ลากกระเป๋าเดินข้างเพื่อนเรียนปริญญาโทด้วยกันไปยังรถตู้ที่จอดเทียบด้านหน้า หล่อนยกมือไหว้สามีของเพื่อน เขากำลังจะเดินทางไปดูงานที่เชียงรายพอดี “สวัสดีครับ” ภีมพลรับไหว้ ก่อนจะหันไปพูดกับภรรยาเด็ก “อาย ชวนเพื่อนขึ้นรถสิ ไปถึงเร็วหน่อยจะได้แวะหาของกิน” “ค่ะ ขึ้นรถกันเถอะปริม” จับมือเพื่อนขึ้นรถ เข้าไปนั่งเบาะหลังแถวที่สองกันสองคนเพื่อจะได้เม้าอะไรสนุกปาก แบบไม่มีสายตาอยากมีส่วนร่วมของใครบางคนมองมา อาภีมน่ะขี้หึง ชอบจับผิดเรื่องผู้ชาย กลัวมีหนุ่มๆ ที่ไหนหลงเข้ามาจีบหล่อน ทั้งที่ก็บอกแล้วว่าไม่มี ถึงมีมาก็ไม่สนใจ แต่งงานกันมาก็ย่างเข้าปีที่สามแล้ว ยังขี้หึงไม่เลิก อารยาอยากจะบ่น บ่น บ่น มากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจว่าอาภีมรักตัวเองมากจึงบ่นไม่ลง ได้เปลี่ยนเป้าหมายไปนินทาให้คนอื่นฟังแทน รายแรกเลยก็ฟ้าใส ฟังหล่อนบ่นบ่อยจนเมื่อยหูแล้วมั้ง นี่ก็เพิ่งได้ข่าวมาว่าฟ้าใสลาออกจากการเป็นแอร์โฮสเตส มาวางแผนทำธุรกิจร่วมกับพี่โอม ปูทางไว้เพื่อจะได้ใช้อนาคตร่วมกัน บ้านของอาภีมที่โคราชก็สงบสุขดีเหมือนเดิม คู่คุณภูมิกับพี่ปลาย ก็แฮปปี้ มีน้องอุ้มกันแล้ว ล่าสุดคุณแม่โทรมาเม้าเมื่อสองสามวันก่อนว่าพี่ปลายกำลังจะมีน้องอีกคน ถ้ามีเวลาว่างหล่อนก็อยากชวนอาภีมกลับบ้านที่โคราช คิดถึงที่นั่นจะแย่อยู่แล้ว ปีนี้ยังไม่ได้ไปเลย บ้านใกล้เรือนเคียง รั้วฟาร์มติดกันก็คงจะเหลือแค่พี่เมฆ พี่ชายของฟ้าใสนี่แหละ ที่โสดเสมอต้นเสมอปลายซะเหลือเกิน โสดนานจนหล่อนอยากจะจับคู่ให้ จับคู่กับ... เพื่อนขี้เซาคนนี้ก็คงจะดีมากนะ อารยายิ้มมุมปากคิดแผนการในใจ อยากชวนปาลิตามาเที่ยวโคราชเพื่อให้เจอกับลายเมฆสักหน เผื่อจะปิ๊งกัน จีบกัน รักกัน “ทำตาแบบนั้นหมายความว่ายังไง” เสียงเข้มของสามีถามขึ้น เจ้าตัวสะดุ้งแรงมากเมื่อเงยหน้าขึ้น แล้วเห็นเขาชะโงกใบหน้าข้ามเบาะกลับมามองตนเอง คนบ้า! จ้องจับผิดกันอยู่ได้ อารยาทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ กะพริบตาปริบๆ ไม่ตอบ และเสมองออกนอกกระจก ภีมพลเอ็นดูเมีย หล่อนทำอะไรก็น่ารักไปหมดแหละในสายตาของเขา กลับมามองเส้นทางเห็นว่ารถเข้ามาในสนามบินแล้ว “อาย ปลุกเพื่อนเถอะ ถึงสนามบินแล้ว” “ได้ค่ะ” ตอบรับสามี ส่วนเขาหันไปพูดกับลุงคนขับรถว่าให้จอดเทียบหน้าอาคารสอง “ปริม! ถึงสนามบินแล้ว” อารยาปลุกพลางเขย่าต้นแขนเพื่อนที่นั่งหลับอยู่เบาะด้านหลัง รถเคลื่อนออกจากคอนโดไม่นานนักปาลิตาก็หลับสนิท เจ้าของร่างกายบอบบางนั้นสะดุ้งตื่นในการเรียกครั้งที่สาม งัวเงียราวกับคนพักผ่อนไม่เพียงพอใช้สายตาปรื๋อๆ มองมายังตนเอง อารยาส่งรอยยิ้มหวานชื่นใจไปให้ ก่อนเอ่ยย้ำ “ถึงสนามบินแล้วจ้ะ” “หืม? ถึงแล้วเหรอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม