วิ่งตามหารัก

1208 คำ
ตอนที่ 8 ที่เขารู้สึกไม่พอใจด้วยเหมือนกันที่บิดาชอบมองเขาเป็นลูกแหง่หาว่าเขาอ่อนประสบการณ์ในการบริหารงานคอยดูเถอะเขาจะแสดงฝีมือให้ดู เขาไม่กล้าบอกท่านตรงๆเพราะว่าดลัมภ์เป็นคนที่มุทะลุดุดันใจร้อนบวกกับการเอาแต่ใจตนเองเหมือนเพิ่มคะแนนความสงสารให้แก่ตัวเองผู้สูงวัยกว่าหัวเราะหึๆครางในลำคอท่านเป็นคนนิ่งที่คนอย่างดลัมภ์ก็อ่านใจยากเหมือนกัน “เห็นท่านบ่นคิดถึงคุณอาเหมือนกันครับไว้โอกาสหน้าจะหาที่สังสรรค์ใหม่คิดว่าคุณอาเองก็ไม่พลาดอย่างแน่นอนให้รางวัลกับตัวเองในการพักผ่อนท่องเที่ยวหลังจากที่ตรากตรำทำงานหนักเป็นเรื่องดีใช่ไหมครับ” เขาพยายามคุยในคำพูดที่คิดว่าเข้าทางและดูจากสีหน้านายอัศวงค์มีความรื่นเริง เขาก็พึงพอใจ บุรุษหนุ่มใหญ่วัยหกสิบกว่ายกมือลูบคางของตนเองเบาๆ “ แล้วคนหนุ่มอย่างดลัมภ์ สนใจด้วยหรือเปล่า” “เรื่องไหนครับคุณอา”เขาแกล้งทำไขสือ “เรื่องเที่ยว” “ก็มีบ้างเล็กน้อยตามประสาหนุ่มๆนั่นแหละครับ ไม่มากมายอะไรเลยคุณอา อีกอย่างผมค่อนข้างเสียดายตังค์ด้วยซ้ำคิดว่าคนเราต้องรู้จักประหยัดหน่อยครับ” ตอบอย่างเอาใจและตรงเป้าหมาย .. ซึ่งเป็นวิธีที่เขาใช้ได้ผลอย่างแน่นอน และเขาได้คัดสรรอย่างดีไว้แล้ว ดลัมภ์ค่อนข้างมั่นใจกับตัวเอง “การที่เราเป็นหนุ่มแน่นแต่รู้จักคิดมันเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้นแหละหลานดลัมภ์เพียงแต่ว่าเราจะทำมันได้หรือเปล่า” นายอัศวงค์เริ่มโต้ตอบขึ้นมาบ้างแล้วดูเหมือนจะเป็นข้อคิดจากชายสูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มายาวนานสอนสั่งในบางสิ่งบางอย่างเป็นวิทยาทาน ถ้าคนที่นิ่งฟัง จะรู้ว่า คำพูดนี้มีความหมาย เพราะว่านายอัศวงค์ไม่ใช่คนที่สักแต่พูดอย่างเดียว แต่คิดกรองก่อนพูด ดลัมภ์จึงยิ้มรับสนับสนุน “เป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตได้ดีมากครับคุณอา” แต่นายอัศวงค์ได้แค่เพียงหัวเราะหึๆเท่านั้นเอง หลังจากที่ชำเลืองมองเด็กหนุ่มรุ่นลูกหลานวัยของดลัมภ์มากกว่าบุตรสาวของเขาแค่สี่ปีเท่านั้นเอง จู่ๆนั้นดลัมภ์อดนึกข้องแวะไปถึงเมี่ยงเมรัยไม่ได้มาถึงบ้านของหล่อนแล้วเถ้าขาไม่ได้ทราบข่าวของหล่อนทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ “น้องเมี่ยงออกไปเที่ยวตอนเย็นอย่างนี้บ่อยหรือเปล่าครับคุณอา”นายอัศวงค์ขมวดคิ้ว “อ้าวเจอกันแล้วหรือ” “ครับสวนทางกันผมรู้สึกว่าน้องเมี่ยงรีบร้อนที่จะออกไปเหลือเกินผมตั้งใจมานี่คุยด้วยได้ไม่กี่คำเท่านั้นเอง” นายอัศวงค์ทำได้อย่างเดียวคือพยักหน้ารับคนเป็นพ่ออย่างเขานั้นก็พอจะรับรู้ดีว่าลูกชายของเพื่อนที่สนิทสนมกันระดับหนึ่งนั้น ชอบพอกับบุตรสาวของเขาเป็นอย่างมากทางด้านเรื่องราวส่วนตัวและเรื่องของหัวใจนายอัศวงค์เข้าใจความรู้สึกของดลัมภ์ดี “อ๋อหนูเมี่ยงเขาชอบอย่างนี้ล่ะ” เอ่ยบอกเด็กหนุ่มรุ่นหลานพลางหัวเราะ ก่อนขมวดคิ้ว “แต่ไม่ใช่ว่า จะออกไปข้างนอกบ่อยนะเพราะดีแล้วล่ะ ยายเมี่ยงจะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง อาไม่อยากให้หน้าลูกสาวเครียด เหมือนคนแบกโลกหนักอึ้งไว้บนบ่า แต่เมี่ยงเมรัยก็ดื้อ” นายอัศวงค์พูดเท่าที่ตนเองพอจะพูดได้ “อ้าวแล้วไม่ตามน้องไปล่ะถ้าเจอกัน” คำพูดแบบนี้เขาไม่รู้ว่านายอัศวงค์เข้าข้างเขาหรือเปล่า แต่อดยิ้มออกมาไม่ได้ “ไม่เป็นไรครับค่อยเอาไว้วันหลังก็แล้วกันวันนี้ผมตั้งใจมาหาคุณอาก็เห็นว่าโปรเจกต์นี้น่าสนใจดี” “ขอบใจนะที่นำข่าวสารดีๆมาให้” ดลัมภ์ยิ้มอีกครั้งแค่นี้ มันก็เหมือนกับว่าเขากำลังทำคะแนนต่อหน้านายอัศวงค์ได้เพิ่มขึ้นมากและอาจเป็นต่อผู้ชายทุกคนก็ได้ ที่คิดจะเข้ามายุ่มย่ามเพื่อทำตัวเป็นเขยนายอัศวงค์ล่วงหน้าในอนาคตเหมือนที่เขาพยายามคิด แต่ขอละเว้นไว้ที่คนอื่นเขาไม่อยากให้บุลิศมาเกี่ยวข้องด้วย..่บุลิศชื่อนี้เขาไม่ต้องการและเขารู้ตัวว่าตัวเองกำลังปดนายอัศวงค์ไม่รู้ล่ะเรื่องใดที่เขาจะได้รับรู้ข่าวสารของเมี่ยงเมรัยจนละเอียด และผลประโยชน์เขาทำทั้งนั้นไม่คำนึงว่ามันจะถูกหรือผิด เพราะคนอย่างเขามันร้ายด้วยเหลี่ยม “วันนี้รบกวนคุณอานานแล้วเอ้อผมต้องขอตัวก่อน เพราะผมจะต้องรีบกลับ” เขานั้น หากเมื่อขับรถออกมาพ้นจากออฟฟิศ บุลิศฮัมเพลงนั่นเพราะเขาชอบความเป็นอิสระ เพราะในเวลานี้ รถราบนท้องถนนที่คลานตามกันมาเหมือนเต่าเพราะติดแหง็กบนถนนตัดเพลินจิตกับวิทยุเพื่อที่จะมุ่งหน้าออกถนนเพชรบุรี รถติดอย่างนี้เขาคิดว่าคิดจะมุ่งหน้าไปหา สถานที่พักผ่อนหย่อนใจจะดีกว่า น่าจะแถวศูนย์การค้าระดับหรูและเพอเฟกต์ยิ่งนักบนถนนราชดำริ เจ้าของดวงหน้าเกลี้ยงเกลาในเสื้อยืดคอปกโปโลสีอ่อนที่เขาสวม ริมฝีปากอมแดงช่างดูเป็นคนเจ้าเสน่ห์ยิ่งนัก แต่เสียงโทรศัพท์นั้นดังขึ้นพอดีบุลิศเลยต้องชำเลืองมองดูหมายเลขเครื่องปรากฏว่าเป็นฉายพัดชาเขาจึงกดรับอย่างเสียมิได้ “เอ้อนี่พี่ลิศอยู่ไหนคะนี่ฉายเองนะคะฉายโทร.มาเพราะความคิดถึงรีบกลับถึงบ้านเร็วๆนะคะเอ้อแค่นี้ก่อนนะคะฉายเป็นห่วง” แค่ได้โทรหาเขาหล่อนก็ดีใจนักหนา เพราะฉายพัดชานั้นโทร.มาหล่อนคิดยุติคำไว้แค่นี้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่พอใจ นึกเบื่อ และเป็นการรบกวนเขาด้วยเนื่องจากว่าเขากำลังขับรถกลับบ้าน ทำให้บุลิศได้แต่รับฟังอย่างงงและก็ไม่เข้าใจว่าฉายพัดชา นั้น ทำไม จะต้องห่วงใยเขาจึงถึงขนาดหวง ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างมากแบบนี้ในการที่ถามจู้จี้จุกจิก “แล้วอย่าลืมโทร.มาหาฉายบ้างนะคะพี่ลิศ” ฉายพัดชาเป็นใคร แล้วเขาเป็นใคร.. เขาไม่ใช่แฟนของหล่อน หากแต่นั้นก็เขารับคำเบาๆเหมือนครางในลำคอ “ครับน้องฉาย” แค่นี้ก็ทำให้ฉายพัดชาปลาบปลื้มใจเป็นนานครัน เจ้าของใบหน้าหนุ่มเจ้าเสน่ห์ถอนหายใจอีกครั้ง ตอนนี้เคลื่อนรถตรงดิ่งหักเลี้ยวซ้าย ไปได้ตลอด ทางและขอเข้าเลนในเพื่อจะเบี่ยงรถเข้าไปที่ศูนย์การค้าชื่อดังได้ในทันที พอรถใกล้จะถึงบริเวณสี่แยกโรงพยาบาลตำรวจสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นเขียวทันที แล่นไปตามเส้นแบ่งของจราจรที่เป็นเส้นโค้งสีขาว อยู่ในฝั่งซ้ายของศูนย์การค้าชื่อดังแห่งนี้แล้วชายหนุ่มค่อยๆชำเลืองรถที่วิ่งมาตามด้านขวามือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม