บ้านที่เชียงใหม่

1212 คำ
ตอนที่ 1 เชียงใหม่...ฤดูหนาวย่างกรายมาแล้วปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่เขาดำรงตำแหน่งในฐานะผู้บริหารโรงแรมมารดาจะส่งคนใหม่มาแทนส่วนเขาเข้ากรุงเทพยอมรับว่าใจหายที่นี่มีแต่ความผูกพันทั้งพนักงานหนาวของเหนือมักจะเป็นแบบนี้ทุกปีเนื่องจากอากาศที่รายล้อมด้วยภูยอดสูงเป็นทิวเขาและหุบดอย คุณเมลานีนั้นนึกเป็นห่วงบุตรชายคนนี้เหมือนกัน ตั้งนานที่ปล่อยให้เขาไป เพราะหน้าที่การงาน ความมั่นคงของบริษัท ในฐานะทายาท ไม่อยากให้บุลิศจากอ้อมอกไปไกล  เพราะอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ แต่ เป็นความจำเป็น และคนเป็นแม่ย่อมเป็นห่วงเสมอ  เมื่อครบกำหนดแล้ว เกือบสามปี  กลัวว่าเขาจะไปแอบหลงสาวถิ่นเมืองเหนือ เธอจึงเป็นคนขอย้ายตัวบุตรชายเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจของพ่อแม่ทางนี้ และส่วนทางเชียงใหม่กับเชียงราย ก็จะส่งผู้บริหารฝีมือดีเข้าไปแทน ซึ่งเป็นคนของนาง และตัวนางพร้อมด้วยสามีจะบินไปดูแลกิจการสาขาทางเหนือเอง เนื่องจากอยากให้บุตรชายกลับมาอยู่บ้านเดิม ไม่มีความเห็นใดๆมากนักจากผู้เป็นบุพการีของชายหนุ่ม ยิ่งคุณเมลานีนั้นด้านการงานเธอหนักเน้นไปในทางดูแลพนักงาน ส่วนคุณบุรัณต้องดูแลระดับสูงไปกว่านั้นอีก นอกจากเป็นท่านประธานและผู้อำนวยการใหญ่ บุตรชายคนโปรดคนเดียวหลีกเร้นกายพาตัวเองไปคลุกคลีฝึกงานและสนุกกับมันมานานถึงสองสามปีทีเดียว เพราะสิ่งที่ก่อร่างสร้างมาด้วยตัวหล่อนและสามีในที่สุดจะต้องตกเป็นของทายาทโดยชอบธรรมอย่างบุลิศ จึงได้ดึงตัวบุตรชายคนโปรดกลับคืนสู่กรุงเทพเป็นการถาวรเสียที “เมี่ยงเมรัย”หวนคิดอีกครั้งชื่อนี้ท่องจำแม่นจนขึ้นใจเขาเคยฝังใจกับอดีตรักบางเรื่องบางอย่างกับผู้หญิงคนนี้ในอดีต  ภาพเหล่านั้นก็หวนเข้ามาสู่ความทรงจำเขาอีกครั้ง  ทั้งๆที่อยากลืม คราวนี้คงต้องได้พบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจมากเหลือเกิน และฉันพยายามจะลืมเธอ.. พยายามลืมให้ได้ ในที่สุด ฉันต้องไม่คร่ำครวญถึงเธออีก .. เมี่ยงเมรัย บุลิศครวญในอกอีกครั้งด้วยความรู้สึกของคนที่ผิดหวังเพราะจากนั้นอีกเพียงแค่สองวันให้หลังก็ต้องขึ้นเครื่องเดินทางระหว่างเชียงใหม่ลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพตามคำสั่งของบุพการี                                                                                                 แต่หาก ถ้าต้องจากไป ละทิ้งหน้าที่ของที่นี่ บุลิศยังนึกถึงภาพและบรรยากาศที่เชียงใหม่และเชียงรายเป็นอย่างดี ภาพที่ตั้งบริษัทของเขา รวมทั้งโรงแรม บรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอกเย็นยะเยียบในยามเช้า วิถีชีวิตของถิ่นล้านนาที่ตระการสะพรั่งพรึบด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด ที่ปลูกอยู่ท่ามกลางเนินเขาและเป็นภูเขาสูง มันมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติ ยากที่จะหาที่ใดเปรียบปาน บ้านพักแบบรีสอร์ทก็สวยงามนัก เขามีความรู้สึกว่าคุ้นเคยและชิน เมืองที่เพิ่งจากมาพอสมควรรวมทั้งคนรู้จักพนักงานลูกน้องที่ทำงานเห็นหน้ากันทุกวัน ซึ่งคนเหล่านั้นรู้สึกใจหายอาลัยอาวรณ์ในการเดินทางกลับไปรับตำแหน่งหน้าที่ระดับสูงของเขา ซึ่งทุกคนเองก็ทราบดีว่า เขาเป็นทายาทของเจ้าของบริษัทรวมทั้งเป็นเจ้านายของทุกคน   นั่นคือภาพท้องฟ้าและภูเขาป่าธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอกหากแต่อากาศเย็นยะเยียบในยามเช้า  และ วิถีชีวิต ของ ชาวถิ่นล้านนา ที่ ราบเรียบแบบอนุรักษ์คงความงดงามประเพณีแบบดั้งเดิมเช่นวัดวา และการละเล่น ประเพณีสงกรานต์ จองโคม อีกทั้งทั่วทุกบริเวณหุบเขา และยอดดอยนั้น เบ่งบาน สะพรั่งพรึบ ด้วยดอกไม้เมืองหนาว เชียงใหม่ในปัจจุบัน เข้าตัวเมือง มีสภาพไม่ต่างไปจากกรุงเทพมหานคร ที่หนาแน่นไปด้วยบ้านจัดสรรและการจราจรที่ติดขัดเขามีเพื่อนต่างวัยพันธกิจนับถือเขาดุจพี่ชาย     ซึ่งเขาเป็นลูกชายของแม่เลี้ยงไหมรวี “พี่จะเข้ากรุงเทพแล้วเราคงไม่ได้เจอหน้ากัน” “เจอสิครับ เพราะผมต้องไปเรียนหนังสือที่โน่น” เขาแปลกใจที่พันธกิจตอบและยิ้มออกมา “หมายความว่า” “ผมจะไปเรียนต่อมหาลัยที่โน่นเพราะมีบ้านอีกหลังที่โน่นคุณพ่อท่านพักอยู่”บุลิศยิ้มกับคำตอบของพันธกิจ เพราะพ่อของเขารับราชการเป็นตำรวจอยู่ในเมืองกรุงมีบ้านพักที่นั่น “ว่างพี่จะแวะไปเยี่ยม” สองหนุ่มต่างวัยยิ้มให้กัน เขาตบที่บ่าของพันธกิจ  หนุ่มวัยสิบเก้า  ที่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย เขาสวมเสื้อที่รองรับกับความหนาวเหน็บของอากาศได้เป็นอย่างดี เป็นโค้ชนอกทำจากขนสัตว์สีน้ำตาล   ขณะยืนอยู่บนภูดอยลูกหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต้องเดินทางมาบริหารธุรกิจของตระกูล หนาวของเหนือมักจะเป็นแบบนี้ทุกปีเนื่องจากอากาศที่อยู่บนภูยอดสูง ทิวเขาส่วนมากอีกทั้งใกล้กับประเทศพม่ารวมทั้งมรสุมอิทธิพลที่ได้รับจากประเทศจีน ให้มันหนาวกระหน่ำอย่างนี้เถอะ เขายังไม่นึกกลัวเลยยังไงต้องเดินทางกลับเข้าไปกรุงเทพอีกแล้ว มีเค้าและลางว่าควรจะเป็นอย่างนั้น ด้วยอำนาจของผู้บริหารใหญ่ และท่านทั้งสองเป็นบุพการีของเขาด้วย  ท่านทั้งคู่มีบุตรชายเพียงคนเดียวคือเขา ส่งไปเรียนหนังสือต่อที่ต่างประเทศ พอจบกลับมาให้ทำงานต่อทันทีที่เมืองไทยโดยบริหารดูแลธุรกิจของตระกูล สาขาทางภาคเหนือยอมรับว่าเขามาอยู่เหนือได้เนิ่นนานปี ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งชื่อ จันทร์ชมดาว มีแม่เลี้ยงปัฐระวีเป็นเจ้าของ กับวุฒิกรนายกสมาคมผู้ส่งออกพันธ์ดอกไม้เมืองหนาวของเชียงใหม่ และ พันธกิจบุตรชาย จันทร์รตี น้องสาว จันทร์ชมดาวสถานที่สวยงามเช่นนี้เป็นรีสอร์ทกึ่งประยุกต์แบบบ้านชาวตะวันตกด้วยอิทธิพลที่ลามไหลมานานทั่วกรุงไม่เว้นแม้แต่บ้านเขาลำเนาไพร ที่ควรจะเว้นให้เป็นสถานที่สวยงามตามธรรมชาติแต่บรรพบุรุษตระกูลเทียนทิพย์คำ มีที่ดินเป็นของตนเอง รีสอร์ทที่กว้างขวางติดกับเชิงดอยแห่งนี้ยังสามารถมองจากที่สูงลงต่ำบนเรือนพักของรีสอร์ทนับสิบกว่าเรือน ที่เจ้าของเนรมิตรให้สำหรับนักท่องเที่ยวความจริงชายหนุ่มชอบอะไรที่เป็นแบบไทยๆมากกว่า แม้ว่าเขาจะเป็นหนุ่มอิมพอร์ตที่มาจากนอก แต่ไม่เห็นความดีงาม สวยงามเท่าวัฒนธรรมไทย บุลิศ ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้นี้ หันหุ่นร่างของตนเองท้าทางสายลม ลมจากภูดอย วันที่เขาแวะเข้ามาพักผ่อนและเยี่ยมเพื่อนสนิท เจ้าของบ้านทุกคนต้อนรับเขาเป็นอย่างดี ไม่มีใครรังเกียจ อีกอย่างดูเหมือนฐานะของบุลิศจะสูงส่งด้วยซ้ำไป  เรือนพักของบุลิศนั้นเรียกว่าเป็นตึกโอ่อ่าทันสมัย มีคนรับใช้เพียงสองคนที่ดูแลเรื่องอาหารการกินและเสื้อผ้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม