EP4.1 ll คนอย่างเนล [1]

1119 คำ
“รู้จักนัทด้วยเหรอ?” มันเป็นคำถามที่ฉันพึ่งจะตอบออกไป หลังจากที่ฉันกับนนท์อพยพตัวเองลงมาที่ลานจอดรถด้านล่าง และกำลังจะวกกลับไปยังมหาลัย A เขาทำหน้าสงสัยตลอดทาง ขณะที่ฉันเงียบ “นุ่นก็รู้จักด้วยเหรอ?” “เฮ้ย เนล!” นนท์ทำเสียงจิ๊จ๊ะ ขณะที่ฉันนั่งอยู่ด้านข้างคนขับและกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ฉันถึงกับเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่แล้วตวัดสายตากลับไปที่เขา “ได้ยินแล้ว” “ได้ยินแล้วก็ตอบดิ” “ก็ตอบอยู่นี่ไง” ฉันเอนหัวนอนลงกับเบาะพลางเหล่มองข้างทางอย่างเซ็งในอารมณ์ ไม่คิดว่าจะเจอแจ็คพ็อตซ้ำซ้อน ฉันอึ้งตั้งแต่เจอนนท์แล้ว แต่ยังต้องมาเจอนุ่น เจอนัทในวันเดียวกันอีก นี่มันรวมพลคน นอ หนูรึเปล่าเนี่ย? “ที่พึ่งถามไปเมื่อกี้นี่คือไง?” “รู้จักทั้งคู่” “นานแล้วเหรอ?” นนท์ย่นคิ้วแล้วเหล่สายตามามองหน้าฉัน เขาคงตกใจในความโลกกลมนี้ ซึ่งฉันก็ไม่แปลกใจนัก อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีเนล ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนเสมอนั่นแหละ เฮ้ออออ “นานแล้ว” ฉันตอบตามความจริง ก่อนจะนึกอะไรดีๆ ออก ฉันรู้ว่านัทคงจะพยายามกันฉันออกจากนุ่นแน่ๆ และฉันคงขอบคุณถ้าเธอทำได้ เพราะถ้าฉันหลุดออกมาจากเขา ฉันก็คงจะมีอิสระมากกว่านี้... ฉันหันไปมองนนท์แวบนึงแล้วเม้มริมฝีปากครุ่นคิด ฉันก็รักเขานะ แต่มันก็ไม่ได้มากไปกว่าการที่ฉันรักตัวเอง “จริงๆ สองคนนี้เขาก็รู้จักกันมาตั้งนานแล้วนะ แต่นนท์แค่ไม่รู้เองรึเปล่า?” “ตลก เรื่องนัท นนท์จะไม่รู้ได้ไง” เขาหัวเราะเหมือนฉันกำลังล้อเล่น แต่ก็เงียบลงเมื่อเห็นฉันทำท่าจริงจัง “ขนาดนัทกับเนลสนิทกัน นนท์ยังไม่รู้เลยนิ” “...” “มั่นใจเหรอว่าตัวเองรู้เรื่องนัทไปทุกอย่าง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ เชิดใบหน้าขึ้นเล็กๆ เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ฉันก็ไม่ได้สน ฉันแค่โยนไฟใส่น้ำมันแล้วปล่อยให้ลามเองแค่นั้น “เค้าอาจจะคบกันตั้งแต่ตอนที่อยู่กับนนท์ก็ได้ ใครจะไปรู้” “ตลก” นนท์สบถเหมือนไม่เชื่อ แต่กลับระบายความโกรธด้วยการเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้น ฉันปรายหางตาไปมองแล้วแกล้งทำตัวเหมือนไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของเขา เออ นี่ก็เสี้ยมง่ายจริง... ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรอก ถ้านนท์จะเข้าไปวุ่นวายกับความสัมพันธ์ของสองคนนั้น ฉันถึงได้พูดให้เขาไขว้เขว แม้เขาจะมาก่อน แต่อะไรที่เป็นอดีตก็ควรจะถอยออกมา นนท์ไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าหมอนั่นสามารถทำอะไรได้บ้าง และเขาก็ไม่ได้รู้จักฉันดีขนาดนั้น… เขาไม่รู้หรอกว่าคนอย่างฉันจะทำอะไรได้บ้าง Rrr Rrrr… ขณะที่ฉันกำลังทอดสายตามองนนท์แก้เบื่อ พิจารณาตารางหน้าของเขาอย่างใกล้ชิดว่ามีอะไรเปลี่ยนไปแค่ไหนบ้าง เสียงริงโทนโทรศัพท์จากไอ้ไวก็ดังก่อกวนประสาทหูอยู่หลายรอบ จนฉันต้องรับมัน “ว่าไง” ฉันขึ้นต้นประโยคก่อนจะกดลดเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ [ถึงไหนแล้ว] “ใกล้ถึงละ อีกแปปนึงอ่ะ” [เออ เนล แล้วพรุ่งนี้ที่เรานัดกันตกลงยังไงวะ] คนปลายสายเอ่ยเรื่องนัดขึ้นมา ทำให้ฉันนึกได้ ทั้งที่ฉันเป็นคนโทรบอกมันเองเมื่อเช้า “เดี๋ยวเจอกันค่อยคุยก็ได้” [บอกมาเลย จะได้จัดคิวถูก] “โทรตามยิกเลยเนอะ แฟนปะเนี่ย” ฉันสะดุ้งเล็กๆ ที่จู่ๆ คนตัวสูงก็แทรกบทสนทนาเหมือนจงใจให้เสียงลอดเข้าไปในสายโทรศัพท์ ไอ้ไวชะงักเงียบไปก่อนจะทำให้ฉันโหวงขึ้นมาเล็กๆ [อยู่กับใครอ่ะ ได้ยินเสียงผู้ชาย] “เสียงแท็กซี่” “...อุ๊บ” ฉันเห็นนนท์กลั้นขำกับคำตอบของฉันจนหน้าแดงก่ำ ฉันเลยมองเขาด้วยสายตาจิกเล็กๆ ฉันรู้ว่าเขาต้องการจะปั่นประสาทฉันเล่นๆ แต่ฉันไม่สนุกด้วย [อ๋อ เออ มาถึงละโทรบอกนะ รอจนจะง่อยละเนี่ย] “เออ การโทรจิกทุกห้านาทีมันไม่ได้ช่วยให้ล้อรถหมุนเร็วขึ้นนะไว” [ก็ไม่ไรหรอกเนล แค่รอจะชั่วโมงละอะ ไม่ได้ไรเลยยยยยย] มันประชดจนทำให้ฉันนึกหน้ามันออก ว่ามันคงจะนั่งคว่ำปากเป็นรูปสระอิพร้อมความหงุดหงิดอยู่แน่นอน ฉันไปหามันช้ายังไม่เท่า ฉันไปหามันพร้อมกับนนท์ มันคงมองแรงพร้อมพุ่งเข้ามาฆ่าฉันแน่ และฉันก็คงไม่ฆ่าตัวตายด้วยการให้ทั้งสองคนมาจ๊ะเอ๋กันหรอก ไม่! [เร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ] “เอออออออออออออ” [เร็วๆๆๆๆๆๆๆๆ] ปลายสายรัวลิ้นเหมือนว่างมากจนต้องมาก่อกวนฉันเพื่อฆ่าเวลา ฉันเลยสบถชื่อมันด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “อีไว เหงามากมั้ยเนี่ย?” [...เอ] ติ๊ด วางแม่ง อีบ้า! ฉันวางสายแบบไม่รอให้มันตอบรับจนจบประโยค มันคงก่นด่าฉันยาวเป็นหน้ากระดาษเอสี่ห้าแผ่นเรียงกัน ซึ่งก็ช่างมันเถอะ ฉันไม่ใช่โดมินิค โทเรตโทในฟาสแอนด์ฟิวเรียสนะจะได้ขับรถที่สองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วดริฟต์ล้อแซงซ้ายขวาไปหามันได้ในเวลาไม่กี่นาทีเนี่ย ฉันฮึดฮัดนิดหน่อย พร้อมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมามองเวลา เริ่มจะร้อนรนเล็กๆ เมื่อคนตัวสูงเห็นฉันเสร็จตอแหลกิจกับไอ้ไวแล้วก็เอ่ยแซวด้วยความสาระแน “เออ ดีเนอะ นนท์เป็นนิสิตอยู่ดีๆ มีอาชีพเสริมเป็นแท็กซี่ซะงั้น” “เอาเหอะ” “แฟนปะเนี่ย?” “เปล่า” ฉันปฏิเสธ ไม่รู้ว่านนท์ไม่เข้าใจภาษาไทยรึไง ถึงได้ถามย้ำอยู่นั่นแหละ ฉันบอกว่าไม่ ก็ไม่ไง ตอนนี้ยัง แต่ตอนต่อๆ ไปก็ไม่แน่นะ เผื่อฉันนึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมา ฉันอาจจะตกลงปลงใจกับไอ้ไวก็ได้ ใครจะรู้ “งั้นไปเที่ยวด้วยคนดิ นนท์ว่าง” ความเสนอตัวของนนท์ทำให้ฉันชะงัก ฉันรู้ว่านนท์ไม่ได้อยากจะเที่ยวด้วยหรอก เขาอยากไปจับผิดฉันมากกว่า ฉันนิ่งคิดไปนิดนึงก่อนจะนึกถึงหน้าพิโรธของไอ้ไวก็ต้องกุมขมับ ขืนมันกับนนท์ วนมาเจอกัน... ฉันงานเข้าแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม