บทนำ

1366 คำ
“บริษัทเอ็มไพรส์.เอ็มกรุ๊ปของเราก่อตั้งมาตั้งแต่ปี2530 นับว่าเป็นบริษัทที่เปิดมายาวนานกว่า34ปี กิจการในเครือของเอ็มไพรส์.เอ็มกรุ๊ปมีหลากหลาย เช่นสินค้าไอที บ้านโครงการ และยังมีโรงแรมหลายสาขา ร้านอาหารที่มีสาขากว่า100สาขา โดยมีคุณธานี กฤษณธารากุลเป็นหุ้นส่วนใหญ่ และบริษัทของเรา…” มาวินนั่งเท้าคางมองหน้าจอโปรเจคเตอร์อย่างเบื่อหน่ายที่ต้องมาอบรมก่อนเข้าทำงานที่บริษัทของตัวเอง ฟังจนเบื่อแล้วอ่ะทำไมก่อนทำงานต้องมาฟังอะไรไร้สาระแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ เขาใช้เวลาอยู่ในห้องอบรมนานเกือบสองชั่วโมงก่อนจะเดินออกมาข้างนอกได้หายใจหายคอบ้าง “ผมขออนุญาตไปห้องน้ำก่อนนะครับ” “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณไปเจอผมที่แผนกเลยนะครับ” “ได้ครับ” เขาตอบรับก่อนจะเดินหนีออกมาทันที เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะมองตัวเองใบกระจกแล้วเค้นหัวเราะออกมาทันที “เสื้อเชิ้ตบ้านๆผูกไทสีดำอย่างกับนักศึกษา ชุดอะไรของแม่วะเนี่ยเอามาให้ใส่ได้ยังไง” เขามองตัวเองในกระจกอย่างรับไม่ได้ นี่ต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกกี่วันกี่เดือนถึงจะได้ไปนั่งอยู่ในห้องประธานบริษัท ไม่ต้องมาเป็นพนักงานขายแบบนี้ เขาล้างไม่ล้างมือเสร็จเดินออกไปจากห้องน้ำก่อนจะชะงักไปเมื่อเจอผู้หญิงคนใบหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอก่อนมาทำงาน “อ่าว… ยัยสิบแปดมงกุฎนี่เอง” เขายิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยทักพะพายที่เดินถือแก้วกาแฟในชุดพนักงานของบริษัท “คุณนี่เองมีอะไร” พะพายมองเขาอย่างเสียอารมณ์เพราะเขาคนเดียวที่ทำให้เธอต้องกลับไปเปลี่ยนชุดทำงานใหม่ที่คอนโด ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้นิสัยแย่ชะมัดเลย ขับรถเร็วจนเกือบจะชนเธอจนล้มไปโดนน้ำข้างถนน ขอโทษซักคำก็ไม่มีแถมยังมาว่าเธออีก “ทำงานที่นี่เหรอ ว้าว! นึกว่าเป็นสิบแปดมงกุฏต๊อกต๋อยที่แท้สิบแปดมงกุฎมีเกรด” “นี่คุณ! เฮ้อ! เอาเป็นว่าฉันอโหสิกรรมนะอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย” พะพายถอนหายใจออกมาไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก แค่ทำงานเธอก็เหนื่อยแล้วไม่อยากจะมาเถียงกับคนบ้าอีก เธอเดินไปอีกทางแต่ก็ถูกเขาเดินมาขวางเสียก่อน “อโหสิกรรมอะไรผมสิต้องพูดคำนี้ คุณมาเดินตัดหน้าผมเองนะผมเบรกทันก็บุญแค่ไหนแล้ว ขอโทษซักคำก็ไม่มีแถมยังมาเรียกค่าเสียหายอีก” “นี่คุณ… ฉันเดินข้ามถนนเพราะมันเป็นไฟเขียว ส่วนรถคุณต้องจอดสัญญาณไฟก็มี สงสัยไม่มีใบขับขี่สินะถึงได้ขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือ เหอะ!” หญิงสาวกอดอกมองเขาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างปลงๆ คนแบบนี้อธิบายหรือพูดอะไรไปก็ไม่เข้าใจ คนมันเห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่ยอมรับผิดหรอก “ไม่รู้แหละคุณข้ามถนนไม่ดูเอง ว่าแต่เป็นเซลของที่นี่เหรอถามอะไรหน่อยดิ” เขามองป้ายพนักงานของเธอที่ห้องคออยู่ก็รีบถามทันที เขาอยากเจอเซลดีเด่นของที่นี่มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยหน่อย ถ้าเธอคนนี้ทำงานที่นี่แสดงว่าต้องรู้จักกันแหละ “ถามอะไร..” “รู้จักเซลดีเด่นของที่นี่ป่ะ คนไหนอ่ะ” “มีอะไรกับเธอเหรอ” พะพายมองเขาอย่างสงสัย เซลดีเด่นก็คือเธอคนนี้ไงจะใครอีก ว่าแต่หมอนี่เป็นใครมีธุระอะไรกับเธอถึงได้มาถามหาแบบนี้ “เธอเหรอ… แสดงว่าเป็นผู้หญิงใช่ป่ะ ดีหน่อยจะได้คุยง่ายๆคนหล่อแบบผมผู้หญิงที่ไหนเห็นก็ต้องหลงอ่ะ ใช้เสน่ห์นิดหน่อยน่าจะไม่ยาก” “เดี๋ยวๆ ฉันถามว่าคุณมีอะไรกับเธอ” “คุณไม่ต้องรู้หรอกยัยสิบแปดมงกุฎ ตอบมาแค่ว่าคนไหนก็แค่นั้น” “หาเอาเองแล้วกัน” หญิงสาวเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินหนีออกไปทันที เขาอ้าปากค้างมองเธออย่างเซ็งๆก่อนจะเดินไปยังแผนก “ไปถามผู้จัดการเอาก็ได้วะไม่ง้อหรอก” เขาขึ้นลิฟต์มาพร้อมกับพะพายเหลือบสายตามองก่อนจะพูดจาหาเรื่องหญิงสาว “มองทำไมไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอไง” “คุณนี่กัดคนอื่นได้ทุกที่เลยนะ” “อ่าวๆผมไม่ใช่หมานะคุณพูดแบบนี้เดี๋ยวสวยเลย” เขามองเธออย่างไม่พอใจ พะพายเบะปากใส่ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปเมื่อประตูเปิดออก มาวินเดินตามเธอไปอย่างเซ็งๆก่อนจะเดินเข้าไปแผนกพร้อมกับเธอ “อ่าวมาพอดีเลยคุณมาวินเชิญทางนี้” “สวัสดีครับผมมาวิน เป็นพนักงานใหม่ของแผนกนี้ยินดีที่ได้รู้จักครับ มาวินเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มก่อนจะเอ่ยทักทายทุกคน พะพายไม่สนใจก้มหน้าลงมองหน้าจอทำงานของตัวเองต่อ ไม่มีประโยชน์จะไปทำความรู้จักกับคนประเภทนี้ “อร๊าย! หล่ออ่ะ ชื่อมาวินเหรอคะ” “มีแฟนหรือยังคะคุณมาวิน แอรินยังว่างนะคะ” “อะแฮ่มๆพวกสาวๆเกรงใจผมหน่อย แนะนำตัวเองให้พนักงานใหม่รู้จักหน่อยสิ” ผู้จัดการบอกให้พนักงานคนอื่นให้แนะนำตัวเอง เริ่มจากแอริน เอไทม์ กั้ง ชมพู ฟ้าใสไล่ไปตามโต๊ะ พะพายที่นั่งทำงานไม่ได้สนใจจะแนะนำตัวลุกขึ้นถือแฟ้มเอกสารก่อนจะหันไปหาผู้จัดการ “พายนัดลูกค้าไว้ไปก่อนนะคะผู้จัดการ” “จ้ะตามสบายเลย สู้ๆนะ” “ขอบคุณค่ะ” พะพายเหลือบสายตามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินออกไปทันทีไม่มีแนะนำตัวเองด้วยผู้จัดการก็เลยแนะนำให้แทน “ส่วนคนที่เดินออกไปเมื่อกี้ชื่อพะพายนะ เป็นเซลดีเด่นสองปีซ้อนของแผนกเรา ขายงานเก่งมากถ้าเราอยากได้ประสบการณ์ก็ปรึกษาคนนั้นได้เลย” “ห๊ะ! เซลดีเด่นเหรอ” เขาอ้าปากค้างอย่างตกใจที่ได้ยินว่ายัยสิบแปดมงกุฎเป็นพนักงานดีเด่น เก่งขนาดนั้นเลยเหรอแล้วแบบนี้แผนของเขาจะสำเร็จมั้ยเพราะดูท่าทางความหล่อของเขาจะทำอะไรหล่อนไม่ได้ เจอกันก็แทบจะตีกันอยู่แล้วแบบนี้เขาจะได้ตำแหน่งท่านประธานตอนไหนเนี่ย…โอ๊ย! “ใช่ เก่งนะปรึกษาได้เลย” “อ่อ ครับ” “นั่นโต๊ะทำงานของคุณนะตามสบายเลย” เขายิ้มแห้งก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนจะกุมขมับตัวเองอย่างเครียดจัด เขากำลังจะมาเจรจาให้เซลดีเด่นเอาลูกค้ามาให้เขาเยอะๆเพื่อที่เขาจะมียอดขายมากกว่าและจะได้ตำแหน่งไวๆไม่ต้องมาลำบากแบบนี้โดยแลกกับเงินจำนวนหนึ่งจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้เขาจ่ายไม่อั้น ‘แล้วถ้าเป็นยัยสิบแปดมงกุฎเธอจะยอมตกลงนับข้อเสนอรึเปล่า โอ๊ย! เครียดโว๊ย’ “สุดหล่อชื่อมาวินเหรอคะ เราชื่อแอรินนะเป็นเซลที่มียอดขายรองจากยัยพะพาย” พอพูดถึงพะพายแอรินก็เบะปากใส่ทันที เธอไม่ชอบยัยนั่นเพราะทำตัวหยิ่งเหมือนตัวเองเก่ง ถึงจะเก่งจริงก็เถอะ “ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เขายิ้มแห้งก่อนจะกุมขมับอย่างเครียดจัด ข้อแรกเลยคือเขาจะไปขอร้องอ้อนวอนยัยนั่นไม่มีทางแน่นอน ต้องใช้แผนอื่นซะแล้วหรือว่าเอาเงินเยอะๆล่อ ใช่สิท่าทางยัยสิบแปดมงกุฎน่าจะชอบเงิน ลองเสนอดีกว่าน่าสนใจแหะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม