เหลียนฮวาที่อยู่ในอาการเหนื่อยหอบ จากการต่อสู้ขัดขืน เพื่อให้หนีรอดจากเงื้อมมือของสตรีทั้งสามแต่ดูเหมือนว่าความสามารถทางด้านคาราเต้ของนาง จะไม่เป็นผล เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่มีวรยุทธ์ในยุคสมัยนี้ ในตอนที่นางสู้อย่างสุดกำลัง แต่ก็ยังถูกสาวใช้ของสตรีผู้นั้นจับเอาไว้ได้
"ใบหน้านี้ไม่ควรเป็นเจ้าที่ครอบครอง ข้าอยากจะรู้นักว่า หากเจ้าไร้ซึ่งความงดงาม ยังจะมีบุรุษใดหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเจ้าอีก นอกเพียงแค่อยากจะเสพสังวาสกับเจ้า เพื่อให้ได้มีชีวิตเป็นอมตะเพียงเท่านั้น"
ในตอนนี้เหลียนฮ
วาได้รู้แล้วว่าสตรีแปลกหน้า ที่ต้องการทำร้ายตนนั้นมีนามว่าหรูเยี่ยนฟาง ซึ่งหญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอันใดสตรีผู้นี้จึงต้องการทำร้ายตน
หรูเยี่ยนฟางล้วงเข้าไปเอามีดในสาบเสื้อออกมา พร้อมกับดึงมันออกจากปลอก ในขณะที่ทอดมองใบหน้าอันงดงามของเหลียนฮวาด้วยแววตามาดร้าย
"แม่นางข้ากับเจ้าไม่ได้มีความแค้นอันใดต่อกัน เหตุใดเพียงแค่พบเจอกันครั้งแรก เจ้าถึงกับจะต้องทำร้ายข้าเฉกเช่นสตรีที่ไร้ความปราณีเช่นนี้"
"เพราะข้าเกลียดที่บุรุษทุกคนต่างก็ให้ความสนใจเจ้าอย่างไรเล่า เจ้าไม่เห็นหรือว่าทั่วทั้งบริเวณโดยรอบเหลียนฮวาดอกนั้น ต่างก็แวดล้อมไปด้วยบุรุษที่ต้องการจะชิงตัวเจ้าเพื่อความเป็นอมตะนี้ แม้แต่เอาชีวิตของพวกเขาเข้าแลก ก็ยังไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ เพื่อเจ้าแล้ว พวกเขาถึงขนาดยอมที่จะเข่นฆ่าฟันกันแม้แต่สามีของข้าเอง ก็รวมอยู่ในนั้นด้วย"
หรูเยี่ยนฟางยกมีดในมือขึ้นหมายจะกรีดไปที่ดวงหน้าของหญิงสาวตรงหน้า เหลียนฮวาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่จะรับรู้ว่าสตรีสองนางที่จับตนไว้ก่อนหน้า ได้ถูกบางสิ่งฟาดเข้าใส่จนร่างกระเด็นกระดอนออกไปคนละทางพร้อมกันนั้น เมื่อนางลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าเป็นรากบัวที่นางเพิ่งจะออกมาเมื่อสักครู่นี้ได้มาจัดการกับสตรีทั้งสามตัวหรูเยี่ยนฟางที่อยู่ในอาการตกตะลึงได้ถูกรากบัวดูดเข้าไปอย่างที่ไม่มีผู้ใดจะคาดถึง…
ในจังหวะที่ดอกเหลียนฮวากำลังผลิบานอย่างเต็มที่ ภาพของสตรีที่สวมใส่อาภรณ์สีขาวพริ้วไหวงดงามก็ได้ปรากฏขึ้น ในตอนนี้ถึงแม้นผมเผ้าของนางจะดูยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง แต่ผิวพรรณที่ประจักษ์แก่สายตาของเหล่าบุรุษมากมาย ที่กำลังรอคอยยลโฉมของสตรีงามด้วยความคาดหวัง ก็ยังเต็มไปด้วยความงดงาม เพียงแรกเห็นที่พวกเขาได้พบเจอว่าในดอกบัวนั้นมีสตรีอาศัยอยู่จริง ตามที่ตำนานได้กล่าวเอาไว้ ทันใดนั้นเสียงคมดาบกระทบกันก็ได้ดังระงมขึ้นเลือดแดงฉานไหลอาบนองไปทั่วพื้น ฉากการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มนุษย์คล้ายกับหลุดออกจากการควบคุมในตอนนี้จิตใจของพวกเขาเพียงหวังแค่จะได้ครอบครองสตรีที่ปรากฏขึ้นบนดอกเหลียนฮวานั้นอย่างไม่กลัวเกรงความตาย
"พวกเจ้าอย่าฝันเลยว่าจะได้นางไป ชีวิตอมตะจะต้องเป็นของข้า" จอมยุทธ์ที่มีฝีมือผู้หนึ่งลงมือกับศัตรูข้างกายก่อนที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตั้งตัว
"คิดหรือว่าข้าจะยอมโดยง่าย ถึงอย่างไรข้าก็จะต้องได้นางไปครอบครอง" องค์ชายของเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่งตะโกนก้องออกมา พร้อมกับยกดาบในมือรับการจู่โจมได้อย่างหวุดหวิด
"ฝันไปเถิด นางจะต้องเป็นของข้าเพียงผู้เดียว" แม่ทัพของแคว้นขนาดเล็กแคว้นหนึ่งก็สบถออกมาอย่างไม่ยินยอม และเข้าร่วมการต่อสู้นั้นอย่างดุเดือด
หยางหย่งเล่อกับคนของเขา เพียงกระจายกำลังอยู่รอบนอก ให้บุรุษมากมายเหล่านั้นได้ฆ่าฟันห้ำหั่นกันเขาทอดมองไปที่ฉากต่อสู้เบื้องหน้าโดยไม่มีทีท่าว่าจะเข้าร่วม ใบหน้าของชายหนุ่มภายใต้หน้ากากเงินได้ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปาก ดูเหมือนว่ากลยุทธ์ 'นั่งบนภูดูเสือกัดกัน' ของเขาจะเป็นวิธีการที่ดีอยู่ไม่น้อย
"ให้กำลังพลของเรา เคลื่อนเข้ามาได้"
"ศัตรูที่แท้จริงของพวกเราหาใช่แมงเม่าพวกนี้ แต่เป็นเหล่าองค์ชายและแม่ทัพจากแคว้นฉินและแคว้นจ้าวต่างหาก" หยางหย่งเล่อทอดมองไปที่บุรุษบนหลังอาชาซึ่งสวมชุดเกราะสีดำ ที่อยู่คนละทิศละทางกับพวกเขา และคอยจับตาดูตนเองอยู่ โดยไม่มีทีท่าว่าจะร่วมผสมโรงไปในฉากฆ่าฟันนี้เฉกเช่นเดียวกัน
หยางหย่งเล่อเลื่อนสายตาไปที่สตรีบนดอกเหลียนฮวาสีทองนั้นอีกครั้ง ท่าทีของนางในตอนนี้ คล้ายกับกำลังงุนงงสับสนกับบางสิ่ง แววตาของนางเต็มไปด้วยความแปลกใจ เพียงไม่นานก็ได้ปรากฏเป็นความพอใจเมื่อได้เห็นฉากฆ่าฟันอันโหดร้ายนี้ เขาได้แต่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นว่านางกำลังขยับกาย และจัดแจงอาภรณ์ของตนเองไม่กี่เค่อต่อมา หญิงสาวก็ได้แสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ ทุกการกระทำของนางล้วนตกอยู่ในครรลองสายตาของเขาแทบทั้งสิ้น จากความตื่นเต้น เฝ้ารอที่จะได้พบเจอนางร่วมสามเดือนกลายเป็นดวงตาที่หม่นแสง
หรูเยี่ยนฟางลูบคลำไปที่อาภรณ์ของนางอย่างหลงใหล แม้แต่ผิวกายที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ ก็ทำให้นางรู้สึกพอใจอย่างยิ่ง ตัดไปเมื่อไม่กี่เค่อก่อนที่ดอกเหลียนฮวาจะบานออกอย่างเต็มที่ หลังจากที่หรูเยี่ยนฟางได้ถูกรากบัวดูดเข้ามาร่างกายของนางก็ได้มาปรากฏขึ้นยังด้านในของดอกเหลียนฮวาพร้อมกับเสียงแข็งกร้าวชวนให้รู้สึกหวาดกลัว โดยไร้ซึ่งที่มาของเสียง
"สตรีที่มีใจคออำมหิตน่าขยะแขยงเช่นเจ้า ก็ควรที่จะมีชีวิตแทนนางเสีย ต่อจากนี้เจ้าจะได้รู้ว่า การเป็นสตรีที่กลายเป็นความคาดหวังของเหล่าบุรุษมากมายเหล่านี้ จะมีชีวิตที่น่าโศกเศร้าเช่นใด เมื่อเจ้าไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขาได้"
สิ้นเสียงนั้นกลีบบัวก็ได้นำน้ำสีใสที่มีกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มลองมายังเบื้องหน้า นางไม่สามารถทนกลิ่นหอมยั่วใจนั้นได้ นางก้มลงไปดื่มกินน้ำสีใสตรงหน้าอย่างตะกละตะกลาม ก่อนที่นางจะรู้สึกแสบร้อนไปทั่วร่าง ร่างกายคล้ายกับจะปริแตก แสงสว่างวาบทำให้ผิวพรรณของนางดูงดงามเปล่งปลั่ง คล้ายกับดอกบัวแรกแย้ม สิ่งที่เปลี่ยนไปมีเพียงผิวพรรณที่ดูเรียบเนียนขึ้น แต่เค้าโครงใบหน้าของนางยังคงเป็นเช่นเดิม สตรีอย่างหรูเยี่ยนฟางถึงแม้นจะเป็นสตรีที่มีใจคอโหดเหี้ยม หาใช่สตรีที่ดี แต่ข้อดีของนางที่สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นนายหญิงน้อยทีดูแลรังโจรได้นั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะความงดงามเย้ายวนใจนี้ ที่ล่อลวงบุตรชายของหัวหน้าโจรเอาไว้ได้ แต่นั่นมันก็ยังไม่มากพอ ที่จะเรียกได้ว่าเป็นความงดงาม จากสตรีที่เปรียบเสมือนเป็นดั่งความคาดหวังของบุรุษมากมาย
นางลูบไล้ไปยังผิวกายที่งดงามขึ้นของตนเองอย่างหลงใหล พร้อมกันนั้นอาภรณ์ที่นางสวมใส่ก่อนหน้าก็ได้ถูกฉีกออก และแทนที่ด้วยใยบัวอ่อนนุ่มสีขาวละมุน ดูงดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้นี้มาแทนที่
จากความตกใจในตอนแรก เมื่อกลีบบัวได้บานออกสายตาของนางก็ได้พบเข้ากับบุรุษมากมาย ซึ่งกำลังฆ่าฟันกัน ในตอนนั้นนางถึงได้เข้าใจความหมายของเสียงก่อนหน้า แต่แทนที่นางจะรู้สึกหวาดกลัว กลับรู้สึกพอใจจนไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มเอาไว้ได้
"นี่บุรุษพวกนี้กำลังฆ่าฟันกันเพื่อข้าอย่างนั้นหรือ…!? "
"เพราะพวกเขาคิดว่าเจ้าคือสตรีที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากดอกเหลียนฮวาวิเศษอย่างไรเล่า แต่ความเป็นจริงเป็นเช่นใดนั้น เจ้าย่อมรู้ดีเพราะเจ้าเป็นเพียงสตรีธรรมดา หากบุรุษใดเสพสมกับเจ้าแล้ว พบว่าไม่สามารถมีชีวิตเป็นอมตะได้ พวกเขาจะรู้สึกผิดหวังและนำความผิดหวังนั้นมาลงที่ตัวเจ้ามากมายเพียงใด ก็ไตร่ตรองเอาเองเถิด บทลงโทษนี้คู่ควรแล้วกับสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า"
"คิดว่าข้าจะกลัวหรือฝันไปเถิด คอยดูว่าข้าจะอาศัยประโยชน์ข้อนี้ทำให้ตนเองขึ้นไปยังจุดสูงสุดได้มากเพียงใด"
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความพอใจ เมื่อทอดมองฉากฆ่าฟันเหล่านั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งการได้ครอบครองในตัวนาง หรูเยี่ยนฟางก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขยิ่ง การแสดงออกของนางตกอยู่ในสายตาของสามบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ แววตาของบุรุษแต่ละคนเต็มไปด้วยความยากจะสุดรู้ ว่าแต่ละคนกำลังคิดสิ่งใดอยู่
หรูเยี่ยนฟางเผยสาบเสื้อของตนเองให้เปิดกว้าง เผยให้เห็นลาดไหล่กลมกลึงพร้อมทั้งเนินเนื้อบางส่วน ที่ชวนให้เห็นแล้วใจสั่น นางย่างกรายไปเบื้องหน้าอย่างมีจริตจะก้าน ในแต่ละท่วงท่าช่างดูเย้ายวน เหล่าบุรุษมากมายเบื้องล่างได้แต่มองนางด้วยสายตาหลงใหล
"ข้าจะยอมมอบใจกายให้กับบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงเท่านั้น" ดวงตาของนางพราวระยับ ถึงแม้นจะมีแค่เพียงผิวพรรณที่ผิดแปลกไป แต่ก็ทำให้ความงามของนางดูโดดเด่นขึ้น บวกกับนางเป็นสตรีที่มีความงดงามเป็นเอกอยู่แล้ว จึงทำให้ผู้คนเชื่อได้ไม่ยากเย็นนัก ว่านางคือสตรีที่ตำนานได้กล่าวเอาไว้ จะมีก็แต่เพียงแค่กลุ่มโจรป่าที่เมื่อได้เห็นดวงหน้าของนางแล้วก็ได้แต่รู้สึกงุนงงอย่างยิ่ง
หลังจากที่บุรุษยังเบื้องล่างได้ยินถ้อยคำประกาศกร้าวของนางแล้ว ความรู้สึกฮึกเหิมที่อยากจะเอาชนะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง เพื่อที่จะพิชิตใจหญิงงาม โดยไม่กลัวเกรงแม้นแต่ความตาย ฉากแห่งการเข่นฆ่าอย่างบ้าเลือดจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหรูเยี่ยนฟางเผยสีหน้าปิติยินดีอย่างยิ่ง ที่ในตอนนี้มีบุรุษมากมายต่างก็ยอมเอาชีวิตของตนเองเข้าแลก เพื่อให้ได้นางไปครอบครองความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าเพิ่มทวีคูณ จากแค่เพียงนางบำเรอของโจรป่ากลายเป็นสตรีที่บุรุษมากมายต่างก็หมายปอง