ตบะแตก

1159 คำ
               “ พี่ภู ! ”             “ เสืออากาศ ควรให้เกียรติสุภาพสตรี เป็นสุภาพบุรุษ การใช้วาจาโห่ฮาแบบนี้ คิดว่าเหมาะกันไหม ”             “ เอ่อ ไม่ครับ ”             " ขอโทษเธอซะ " ทั้งหมดหันไปหาแม่ค้าหน้าหวานพร้อมเอ่ยคำขอโทษ             " ขอโทษครับผม "             “ กลับฐานได้แล้ว ”             “ ครับ ”             “ แล้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายห้ามแตะนะ ถ้าผมรู้โดนซ่อม ” ภูผารีบเอ่ยกันไว้ทันที เพราะรู้ว่าทางกลับนั้นจะต้องผ่านร้านเหล้าปั่นของน้องเรไรที่เมื่อสักครู่ลากเพื่อนเขาเข้าไปได้สำเร็จรายหนึ่งแล้ว             “ ครับผม ” แล้วเหล่าทหารหาญทั้งหลายรีบสลายตัวอย่างเร่งรีบกลับฐานในทันที             แม่ค้าหน้าหวานทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ทหารหนุ่มหน้าหล่อแต่ดุเหลือหลาย ดูท่าทางเขาจะเป็นหัวหน้าคอยควบคุมทหารทั้งหมด พวกนั้นจึงได้กลัวเขานักหนา แล้วนี่เขาจะดุเธอด้วยหรือเปล่า             “ ขายอันละเท่าไหร่จ๊ะแม่ค้า น่ากินทั้งนั้นเลย ทำเองเหรอจ๊ะ ” อีกคนที่มากับเขาแย้มยิ้มและเอ่ยถาม เธอยิ้มและเอ่ยตอบเสียงใส             “ จ้ะ บัวตองทำเองทั้งหมดเลย ขายอันละห้าบาท ห้าอันซาวบาทจ้ะ”             “ ชื่อบัวตองเหรอครับ เก่งจังเลยนะ ทำขนมเป็นตั้งหลายอย่าง พี่ชื่อหมวดเก่ง ที่ยืนหน้ายักษ์อยู่นั่นเพื่อนพี่ชื่อหมวดภู เรามาจากกองทัพอากาศ มาเป็นกำลังเสริมให้ฐานทัพ ” เธอพยักหน้า ภูผายังยืนนิ่งอยู่             “ แล้วนี่เริ่มค่ำแล้ว ยังไม่กลับบ้านเหรอครับ หรือรอให้ขายหมดก่อน ”             “ ก็ว่าจะรอขายให้หมดก่อนจ้ะ แต่ถ้าไม่หมดก็คงต้องกลับ เพราะว่าพ่อบัวตองป่วย อยู่ที่บ้านคนเดียว ”             “ น่าสงสารจัง บ้านอยู่ไกลไหม ”             “ ไม่หรอกจ้ะ พายไปทางนี้อีกประมาณกิโลเดียวก็ถึงแล้ว บ้านบัวตองอยู่ฝั่งโน้นจ้ะ ” เธออธิบายพร้อมชี้ให้ดู เก่งกล้าพยักหน้า             “ ถ้าอย่างนั้น วันนี้ขนมที่เหลือนี่พี่ขอเหมาหมดเลยนะจ๊ะ ”เธอทำตาโต             “ หมดเลยเหรอจ๊ะ แล้วผู้หมวดจะกินหมดเหรอจ๊ะ ”             “ เอาไปแบ่งน้อง ๆ ในค่ายกินน่ะ เท่าไหร่จ๊ะ ” เธอนับขนมอยู่ครู่หนึ่งก็บอกราคา             “ สองร้อยยี่สิบห้าบาท บัวตองลดให้เหลือแค่สองร้อยถ้วนก็พอจ้ะ ”             เก่งกล้าส่งยิ้มหวานไปให้ พร้อมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วทำหน้าเหรอหราก่อนหันไปหาเพื่อน             “ ภู มึงเอาตังมาป่าว ”             “ ทำไม ”             “ กูลืมเอามา ยืมก่อนสองร้อย ” ภูผาส่ายหน้ายิ้ม ๆ แล้วส่งเงินสองร้อยให้เพื่อน เก่งกล้ารับไปส่งให้บัวตองอีกที             “ นี่จ้ะ บัวตองมาขายทุกวันไหมจ๊ะ ” เธอพยักหน้า             “ ทุกวันจ้ะ ตอนเช้าบัวตองจะรับทำข้าวกล่องส่งที่โรงงานทอผ้าฝั่งโน้น พอทำเสร็จก็กลับมาทำขนมเอามาขายตลาดเย็นจ้ะ ”             “ พี่จะมาอุดหนุนทุกวันเลยนะ ”             “ ขอบคุณนะจ๊ะผู้หมวด บัวตองไปนะ ” เธอยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณผู้หมวดหนุ่มทั้งสองก่อนพายเรือจากไป เก่งกล้ายืนยิ้มตาม             “ กลับยังเก่ง ใจคอมึงจะเหมาผู้หญิงตลอดแม่น้ำเลยใช่ไหม ”             “ ก็เธอน่ารักนี่หว่า ”             “ กูก็เห็นมึงน่ารักไปทั่ว เมื่อกี้ที่ร้านเหล้าปั่นก็ทีนึงแล้ว ”             “ ไอ้แบบนั้นน่ะแบบร้อนแรง แต่แบบนี้หวานใส น่ารักน่าลุ้นกว่า ”             “ แล้วไง ชอบแบบไหน ” เก่งกล้ายิ้ม             “ กูชอบแบบฮาร์ดคอร์อย่างแม่เรไรมากกว่า ถึงอกถึงใจดี ”             ภูผาได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มในความกะล่อนของเพื่อน             “ แล้วมึงล่ะ ชอบแบบไหน ภู ” เพื่อนเขาเงียบ ไม่ตอบ เก่งกล้าจึงหันหลังเดินนำกลับค่าย             “ กลับไปนอนกินขนมไทยของแม่ค้าหน้าหวานให้สบายใจดีกว่าเว้ย ดูซิว่าขนมกับคนอะไรจะหวานกว่ากัน ”                ภูผาเดินตามเพื่อนไป แต่ก็อดที่จะหันหลังกลับไปมองไม่ได้ ร่างบอบบางพายเรือไปช้า ๆ จนลับสายตาเขาไปในที่สุด เก่งกล้าเดินไปสักพักก็พึ่งรู้ว่าเพื่อนไม่ได้เดินตามมา เขาจึงหันกลับมาแล้วเดินมาหาเพื่อนช้า ๆ             “ เฮ้ย ! ” ภูผาสะดุ้งเฮือก             “ อะไรของมึง ตกใจหมด ”             “ ขวัญอ่อนจังนะมึง มองอะไรอยู่ฮะ ” เก่งกล้าถามพร้อมจ้องมองเพื่อนอย่างรู้ทัน             “ เปล่า ” ภูผารีบเอ่ยตอบแล้วเดินหนี เก่งกล้าวิ่งตาม             “ หลงเสน่ห์แม่บัวตองหน้าหวานเข้าให้แล้วสิ ไอ้ก้อนหินภูผา ” เขาเอ่ยแซวเพื่อน             “ เพ้อเจ้อ มึง ” ภูผาหันไปดุเพื่อนแล้วรีบเดินหนี             “ หน้าแดงเลยนะมึง หลวงพ่อภูตบะแตกเสียแล้วงานนี้ ” เก่งกล้าตะโกนแซวตามหลังเพื่อน             เมื่อกลับมาถึงค่าย เขาก็จัดการแจกขนมให้กับน้อง ๆ ไปแบ่งกันกิน ขนมอร่อยมาก ยิ่งได้รู้ว่ามาจากแม่ค้าหน้าหวานที่พวกเขาเห็นตอนไปวิ่งก็ยิ่งฮือฮากันใหญ่ คุยกันจ้อกแจ้กจอแจ แต่เมื่อเห็นผู้หมวดภูผาเดินมา เสียงเกรียวกราวนั้นค่อยเงียบลง เก่งกล้าส่งขนมข้าวโพดให้เพื่อนอันหนึ่ง             “ เอ้า เฮ้ย ลองชิมดู จะหมดแล้ว ดูซิว่าขนมกับคนอะไรจะหวานกว่ากัน ”             “ ไอ้เก่ง พูดจาให้เกียรติผู้หญิงบ้าง ” ภูผาดุเพื่อนพลางร้องสั่งน้อง ๆ             “ ไม่เกินสามทุ่มทุกเต๊นท์จะต้องเข้านอนเรียบร้อย เวรยามตามที่ผมจัดไว้ เข้าใจตรงกันนะครับ ”             “ ครับผม ” แล้วเขาก็เดินเข้าไปในเต๊นท์ส่วนตัวที่นอนกันสองคนกับเก่งกล้า             ผู้หมวดหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ หยิบขนมในมือขึ้นมาปอกเปลือกแล้วส่งเข้าปาก             “ อร่อยจริง ๆ ด้วย ”  เขาเคี้ยวขนมแล้วเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ คนเดียว เผลอแย้มยิ้มเมื่อนึกถึงหน้าแม่ค้าขนมหน้าหวานที่ชื่อบัวตองโดยไม่รู้ตัว              ***             เวลาสามทุ่มครึ่ง หลังจากเดินตรวจตราเวรยามเรียบร้อย เสืออากาศหนุ่มทั้งสองก็เข้านอน ภูผานั้นนั้นหลับไปก่อน ขณะที่เก่งกล้ากำลังเคลิ้ม ๆ โทรศัพท์เขาก็สั่น             “ ใครวะ ” เก่งกล้าเบิกตาสู้แสงเพื่อจะอ่านชื่อคนที่โทรมา แต่เป็นเบอร์โทรที่ไม่ได้บันทึกรายชื่อไว้ เขากดรับ             “ ครับผม เก่งกล้าครับ ”             “ พี่หมวดเก่งเหรอคะ นี่เรไรนะคะ ” จากที่กำลังเคลิ้ม ๆ ตาก็ตื่นทันที เขาดีดตัวลุกขึ้นนั่ง             “ ว่าไงครับคนสวย พี่กำลังคิดถึงเรไรอยู่เลย ว่าจะโทรหาพอดี ” จอมกะล่อนหยอดคำหวาน             “ คิดถึงจริงเหรอคะ ”             “ จริงสิ คิดถึงใจจะขาดเลยเนี่ย เรไรล่ะ คิดถึงพี่ไหม ”             “ บ้า พึ่งจะรู้จักกันแป๊บเดียว เรไรเป็นผู้หญิงนะ ”                เธอใส่จริตจะก้านทำเป็นรักนวลสงวนตัว ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายโทรหาเขาแท้ ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม